ยื่นหนังสือร้อง 'ชวน' ค้านตรวจรับงานสร้างรัฐสภา แฉเสาไม้สักขึ้นราเพียบ

"วัชระ" พร้อมคณะ บุกยื่นหนังสือ "ชวน-พรพิศ" ค้านส่งมอบรัฐสภา 100% เล็งร้องป.ป.ช. คนลงมติรับมอบโครงการก่อสร้าง เผยเสาไม้สักขึ้นราเพียบ

4 ก.ค.2565 - ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง พร้อมคณะ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ ประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ เรื่องขอคัดค้านการตรวจรับงานแล้วเสร็จ 100 % ของโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ ของคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ ฉบับที่ 1

นายวัชระ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2556 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ลงนามสัญญาเลขที่116/2556 และสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ จำนวน 12,280 ล้านบาท กำหนดเวลาแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ซึ่งจนถึงวันนี้ (4 ก.ค. 2565) รวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 3,353 วัน แต่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญานั้นจึงขอคัดค้านคณะกรรมการตรวจการจ้างในการตรวจรับงานแล้วเสร็จโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ

เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงอย่างชัดแจ้งว่า การก่อสร้างดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จครบถ้วนตามข้อกำหนดในสัญญา อีกทั้งยังปรากฏโดยมีหลักฐานอย่างชัดเจนว่า มีการใช้ชนิดของวัสดุไม่ตรงตามข้อกำหนดในสัญญาและไม่ตรงตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของผู้ออกแบบ เช่น ต้นไม้จำนวนมากตายจนถูกตัดเหลือแต่ตอ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบการฟื้นตัวและอยู่รอดของต้นไม้ได้ เพราะต้นไม้เหล่านั้นได้ตายไปก่อนการตรวจสอบ อันส่งผลถึงระยะเวลา 240 วันของข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าว ที่มีเพื่อตรวจการฟื้นตัวและการอยู่รอดของต้นไม้ จึงยังไม่เริ่มนับเพราะไม่มีต้นไม้ที่อยู่รอดให้นับระยะเวลาเหล่านั้น อันส่งผลให้ถือว่าการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ หากคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ รับมอบงานแล้วเสร็จในวันนี้ วันพรุ่งนี้ (5 ก.ค.) ตนจะยื่นเรื่องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนบุคคลที่ลงมติเห็นชอบทุกคนต่อไปโดยไม่ละเว้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่มีการคัดค้านในครั้งนี้ อาทิ ไม้สักจำนวนทั้งหมด 4,200 ต้น พบว่ามีเชื้อราขึ้น 2,400 ต้น เพราะอบไล่ความชื้นมาไม่ได้ที่ ทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ส่วนของพื้นอาคารยังใช้ไม้ผิดประเภทจากข้อกำหนดที่ต้องใช้ไม้ตะเคียนทอง แต่ใช้ไม้พะยอมหรือไม้ชนิดอื่นๆ แทน และแผ่นไม้ปูพื้นต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 3 เมตร ยกเว้นกรณีจำเป็นประตูห้องกรรมาธิการไม่กันเสียง 65 ห้อง ผนังห้องประชุมกรรมาธิการไม่กันเสียง 148 ห้อง และหินทราโวทีนมีขนาดต่ำกว่าข้อกำหนด ต้นไม้ขนาดใหญ่ตาย 347 ต้น และไม่มีการปลูกทดแทน รวมทั้งต้นไม้ขนาดเล็กตายเป็นจำนวนมาก เป็นต้น

นอกจากนี้ทางคณะได้นำสื่อมวลชน เดินสำรวจจุดบกพร่องต่างๆ ของโครงการก่อสร้างบริเวณชั้น 1 ตามที่ระบุไว้ในเรื่องร้องเรียน เช่น ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ยืนต้นตายและถูกตัดออกไป พื้นอาคาร และเสาไม้สักขึ้นราและแตกเนื่องจากมีความชื่น เพื่อให้เห็นภาพว่าเป็นสิ่งที่ควรปรับปรุงและซ่อมแซมอย่างแท้จริงก่อนรับมอบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี

นายกฯ ย้ำชัดหยุดยิงไม่ได้ หนุนกองทัพเดินตามแผนเต็มที่ ไม่ให้ค่า 'ฮุนเซน' มุกแป้ก

นายกฯ บอกยังไม่คิดขอเปิดรัฐสภาถกปมความมั่นคง ลั่นสัญญาทหารแล้วเดินตามแผนเต็มที่ ไม่มีคำสั่งหยุด เมิน “ฮุน เซน” ปล่อยภาพปั่นคนไทย

'วิปรัฐบาล' ไฟเขียวประชุมร่วมรัฐสภา ถกแก้ รธน. เพิ่มอีก 1 วัน ให้จบวาระ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่มีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานประธานวิปรัฐบาล ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งมีวาระสำคัญคือกรอบเวลาในการประชุมร่วมรัฐสภารัฐสภา

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม