+697ห้ามรับเด็ดขาด! ชัยวุฒิสารภาพหมดสิทธิ์ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้สูญพันธุ์

'ชัยวุฒิ' ย้ำอย่ารับเบอร์+697 แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกแน่ แนะครอบครัว สร้างภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ ยอมรับปราบไม่ได้ 100% เหตุโลกไร้พรมแดนแค่มีอินเตอร์เน็ตก็เปิดใหม่ได้

06 ก.ค.2565 - นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งที่ 2/2565 ว่าเป็นการประชุมเพื่อพัฒนาแผนความมั่นคง 5 ปี (2565-2570 ) ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตามแผน นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือเรื่องความมั่นคงเกี่ยวกับชนเผ่าพื้นเมืองที่มีประมาณ 6 ล้านคนทั่วประเทศ ดังนั้นรัฐบาลให้ความสำคัญที่จะต้องเข้าไปดูแลเพื่อให้เกิดสันติสุขและการอยู่ร่วมกันไม่ว่าชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่สูง และพื้นที่ราบ หรือในพื้นที่ติดทะเล ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม รัฐบาลก็ต้องเข้าไปจัดการดูแลให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ในแผนความมั่นคงแห่งชาติประกอบไปด้วย 13 เรื่อง หนึ่งในนั้นจะมีเรื่องความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ความมั่นคงชายแดน

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการทำงานร่วมระหว่างไทย- กัมพูชา ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากได้ลงนามความร่วมมือกันแล้ว เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การจะจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เด็ดขาดทำได้ยาก เพราะมิจฉาชีพ จะไปตั้งสำนักงานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เราได้พยายามบล็อก ตัด และเตือน เพราะเราก็พอรู้เส้นทางการเข้ามาทางอินเตอร์เน็ต แต่ปัญหาคือเมื่อปิดช่องทางหนึ่ง เขาก็เปิดช่องทางอื่นเข้ามาอีก เพราะประเทศไทยเป็นระบบการให้สิทธิเสรีภาพในการใช้งานทำให้การบล็อกไม่ค่อยได้ประสิทธิภาพ ดังนั้นที่สำคัญคือ จะต้องไปจัดการประเทศเพื่อนบ้านเมื่อเรารู้ว่ามิจฉาชีพทำอยู่จุดใดก็ต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านให้ช่วยดำเนินการให้ เนื่องจากเราเข้าไปจัดการเองไม่ได้ เพื่อให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้นการลงนามในความร่วมมือและมีบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยกันหาข้อมูล และประสานให้เจ้าที่ประเทศเพื่อนบ้านเข้าไปดำเนินการในจุดที่มิจฉาชีพอยู่ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล

"เมื่อเราปิดตรงนี้ มันก็ไปเปิดที่อื่นก็ไม่รู้ว่ามันจะย้ายไปประเทศอื่นหรือไม่ วันนี้โลกไร้พรมแดน ตั้งทำงานในที่ใหม่เอาก็ได้ ดังนั้นจะให้หมดร้อยเปอร์เซ็นต์คงยาก เราปิดตรงนี้เขาก็ไปเปิดที่ใหม่ นี่คือปัญหาของระบบอินเตอร์เน็ต ที่เป็นประระบบเปิดให้สิทธิเสรีภาพในการใช้ และ ที่สำคัญสื่อมวลชนกับผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันให้ความรู้และแจ้งเตือนประชาชนเพื่อให้มีภูมิคุ้มกัน ขณะนี้กระทรวงและ กสทช.ได้ประสานงานกันหากพบเบอร์ที่มาจากต่างประเทศ เบอร์ +697 ซึ่งเป็นเลขที่โทรมาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็อย่าไปรับ เขาโทรมาหลอก อย่าไปเสียเวลารับ ซึ่งเรื่องผู้สูงอายุพึ่งคุ้นเคยกับการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นปัญหาที่ผมเป็นห่วง ดังนั้นสื่อมวลชนต้องช่วยออกข่าว
ประชาสัมพันธ์เด็กๆก็พยายามบอกญาติๆ คนเฒ่าคนแก่ให้รู้พูดคุยเตือนกันในครอบครัว และทางกระทรวงจะจัดกิจกรรมบ่อยเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ทุกองค์กรต้องช่วยกัน เพราะทุกคนได้รับผลกระทบกันหมด " นายชัยวุฒิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังอ้างว่าโทรมาจาก กสทช. รัฐบาลจะเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนได้อย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ได้ยิน พวกนี้มักอ้างเป็นหน่วยงานรัฐที่ทำให้ประชาชนกลัว หลงเชื่อ ก็ต้องขอย้ำกับประชาชนว่าไม่มีหน่วยงานรัฐที่จะโทรไปข่มขู่ประชาชน หรือ เรียกให้โอนเงินไม่มี ไม่ใช่หน้าที่ และโดยกฎหมายก็ทำไม่ได้ ดังนั้นหากมีโทรศัพท์อ้างเข้ามาเป็นหน่วยงานรัฐให้โอนเงินก็ไม่ต้องไปคุย หลอกลวงแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ประเสริฐ' เผยยึดทรัพย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กว่าหมื่นล้าน แจ้งช่องทางผู้เสียหายขอรับเงินคืน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ ถึงการอายัดเงินสดจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ว่า ล่าสุดสามารถตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสดทั้งหมด

จนท.ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กว่า 6 พันชิ้น ซุกริมแม่น้ำโขง

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)และกรมศุลกากร ภายใต้อำนวยการพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรม

ตร.ไซเบอร์ ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อโอนเงิน 115 ครั้ง สูญ 200 ล้านบาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว “ปฏิบัติการ SAVING GOOD MAN ตร.ไซเบอร์ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์