'ปริญญา' ยกคดี 'ประยุทธ์' ถูกร้องต่อศาลรธน.ที่วินิจฉัยให้หลุดพ้นทุกคดี ดักทางปมวาระ8ปี

'ดร.ปริญญา'ยกคดีที่ 'ประยุทธ์' ถูกร้องต่อศาลรธน.ซึ่งวินิจฉัยให้หลุดพ้นทุกคดี ชี้คดีไม่รับคำร้องคดีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงที่สุด มีมติไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ทำให้การกระทำที่ขัดต่อรธน.กระทบไปถึงสถาบันฯ

24ส.ค.2565- ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

คดีที่ก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงที่สุดของ #ศาลรัฐธรรมนูญ
#การไม่รับคำร้องคดีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ

ในบรรดาคดีต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เริ่มเป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ไม่ว่าจะเป็น คดีที่ถูกร้องว่าเป็นหัวหน้า คสช.จึงเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” ที่ห้ามเป็นนายกรัฐมนตรี คดีเรื่องการพักบ้านพักหลวงทั้งที่เกษียณตำแหน่งแล้ว และคดีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ หลุดพ้นทุกคดีนั้น คดีที่น่าจะก่อให้เกิดปัญหามากที่สุดคือ คดีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ

ที่เป็นปัญหามากที่สุดก็เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “ก่อนเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรี #ต้อง ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ #ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้ ..” เมื่อรัฐธรรมนูญใช้คำว่า “ต้อง” การถวายสัตย์ปฏิญาณก็ต้องกล่าวถ้อยคำให้ตรงและครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ จะมากกว่านั้น หรือน้อยกว่านั้นไม่ได้

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ไม่ครบ โดยขาดประโยคสุดท้ายที่ว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงต้องต้องมีผลตามมาตรา 5 คือ "รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด บทบัญญัติใด ของกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับ หรือการกระทําใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทํานั้น #เป็นอันใช้บังคับมิได้" แต่เมื่อเรื่องนี้มาถึงศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญกลับมีมติไม่รับคำร้องไว้พิจารณา

การไม่รับคำร้องในเรื่องที่ผิดรัฐธรรมนูญโดยชัดแจ้งไว้พิจารณาก็เป็นปัญหามากพออยู่แล้ว แต่ที่เป็นปัญหายิ่งกว่า คือเหตุผลของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้อง ซึ่งส่วนที่เป็นปัญหามากที่สุดถึงขนาดที่ต้องใช้คำว่า #ร้ายแรง คือศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลว่า “การถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์” เป็น “#ความสัมพันธ์เฉพาะ ระหว่างพระมหากษัตริย์กับคณะรัฐมนตรี” ทั้งยังปิดทางไม่ให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ทุกกรณีด้วยการระบุว่า ไม่มีองค์กรตามรัฐธรรมนูญองค์กรใดจะมีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้ได้

ที่ผมบอกว่าร้ายแรง ก็เพราะเหตุผลนี้ของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้การกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ กระทบไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะกลายเป็นว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณให้ครบถ้วน เป็น “ความสัมพันธ์เฉพาะกับพระมหากษัตริย์” ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจไปในทำนองว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะได้พระบรมราชานุญาตให้ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์เองที่ #จงใจถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ และดังนั้นจึงต้องเป็นความผิดของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ทำให้ผู้คนเกิดความเข้าใจไปในทางอื่นเช่นนี้

ศาลรัฐธรรมนูญควรจะต้องแก้ไขปัญหานี้ โดยไม่ให้กระทบไปถึงพระมหากษัตริย์ แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับไม่แม้กระทั่งจะรับคำร้องไว้พิจารณา ดูเผินๆ เหมือนว่าเป็นการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ผลที่เกิดขึ้นนั้นกลายเป็นไปในทางตรงกันข้าม แทนที่จะเป็นการปกป้องพระมหากษัตริย์ตามหลัก The King Can Do No Wrong ก็กลายเป็นการปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ และทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองกระทบไปถึงพระมหากษัตริย์ ทั้งๆ ที่เป็นปัญหาที่เกิดจาก พล.อ.ประยุทธ์ เอง

ผมเขียนประเด็นนี้ มิได้มีเจตนาจะให้ศาลรัฐธรรมนูญแก้ไขเรื่องในอดีต ด้วยการตัดสินคดีปัจจุบันของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ออกมาในทางหนึ่งทางใด เพราะเป็นคนละคดี ประเด็นข้อกฎหมายก็คนละเรื่องกัน หากตั้งใจเพียงอยากเห็นศาลรัฐธรรมนูญได้รับความเชื่อถือจากสังคมมากกว่าที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องความเป็นอิสระและความเที่ยงธรรมครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.อานนท์' ร่ายยาว ไม่เคยมีใครสั่งให้เขียนหรือพูดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก Arnond Sakwora

ฟาด 'ธนาธร' ดึงสถาบันสู่ความขัดแย้ง คืนความเป็นธรรมให้ 'ทักษิณ' พากลับบ้านรื้อคดีใหม่

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่ความขัดแย้งทั้งปวง แล้วอ้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจำแลง

'ชัยธวัช' ยังปากดี! บอกยุบก้าวไกลระวังเป็นเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันด้านกลับ

'ชัยธวัช'รับ อาจสู้ยากกว่าคดีอื่น แต่จะสู้เต็มที่ เพื่อให้ศาล รธน. เปิดการไต่สวนคดี เหตุ 'ก้าวไกล' ควรได้แจงข้อเท็จจริง ชี้หากถูกยุบ ไม่ใช่เรื่องต้องทำใจ กลับกลายเป็นการ 'เซาะกร่อนบ่อนทำลาย' สถาบันเอง

นิสิตเก่าจุฬาฯร่อนหนังสือถึงอธิการบดีฯขอความคืบหน้า ถอดถอนวิทยานิพนธ์ 'ณัฐพล'

นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ในฐานะนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ รุ่น 30 ทำหนังสือถึง นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเนื้อหาดังนี้