
“ดร.กิตติธัช” แฉด้วยภาพ และคำปราศรัย “รุ้ง” ชี้ชัดไม่ใช่ปฏิรูปเข้าข่ายกบฏด้วยซ้ำไป สอนขั้นแรกของการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้องพูดความจริง ไม่โกหกตัวเอง ไม่โกหกมวลชนก่อน
11 พ.ย.2564 - ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมืองโพสต์เนื้อหาบนเฟซบุ๊กพร้อมรูป น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำราษฎรระบุว่า นอกจากความลักลั่นย้อนแย้งที่เห็นในภาพแล้ว รุ้ง ปนัสยา พูดบนเวทีวันนั้นว่า "หากประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีเสรีภาพในการพูด แม้แต่การพูดว่าเราไม่ต้องการสถาบันกษัตริย์ก็ตาม" ซึ่งต้องเข้าใจให้ถูกก่อนนะครับว่าบทสนทนาประเภทว่า "ไม่เห็นด้วยว่าสถาบันกษัตริย์จำเป็น" "ประเทศไทยในวันที่ไม่มีสถาบันฯ " หรือจะถกเถียงอะไรทำนองนี้ ก็ไม่มีใครไปจับกุมพวกคุณหรอก (ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ก็เห็นคุยกันทั่วไป ตั้งแต่ร้านกาแฟ ไปยันคณะรัฐศาสตร์/สังคมศาสตร์ ขนาดสลิ่มเขายังมีคุยหรือคิดกันเล่นๆ ทั่วไปในวงสนทนาเลยด้วยซ้ำ)
เพราะการพูด/คิดนั้นไม่ผิดหรอก เป็นเสรีภาพส่วนบุคคล และไม่มีกฎหมายข้อไหนจะไปเอาผิดได้ด้วย แต่หากคุณประกาศว่า ไม่เอาสถาบันกษัตริย์ แล้วปั่นให้มวลชนมาล้มล้างรูปแบบการปกครอง มันก็เท่ากับ "กบฎ"
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรัฐไหน จะโลกเสรี สังคมนิยม เผด็จการคอมมิวนิสต์ หรืออะไรก็ตามหากคุณไปปลุกปั่นให้มวลชนล้มล้างการปกครอง มันก็คือ "กบฏ" ต่อรัฐทั้งนั้น
มันเป็นความจริงของโลกอยู่แล้ว ว่าหากคุณอยากเปลี่ยนจากกบฏ มาเป็น "ผู้ปกครองใหม่" ตามหลักการ Establishment vs Anti-Establishment คุณก็ต้องล้มล้างผู้ปกครองเดิมหรือระบบเดิมให้ได้ คำถามคือ คุณมีอำนาจ ทุน กองกำลังติดอาวุธ มากพอที่จะล้มล้างอำนาจเดิม แล้วเถลิงอำนาจขึ้นไปเป็นผู้ปกครองใหม่หรือไม่ และประชาชนจะยอมรับคุณหรือเปล่า
ส่วนที่อ้างคำว่าปฏิรูป แต่การกระทำ คำปราศรัย หรือแม้แต่การปลุกปั่นในม็อบมันสวนทางกับคำว่า "ปฏิรูป" แบบไปคนละทิศละทาง อย่าคิดว่าประชาชนคนไทยโง่ และไม่เห็นในสิ่งที่พวกคุณทำนะครับ เขาเห็นกันชัดว่าจริงๆ แล้วพวกคุณต้องการอะไรกันแน่
ขั้นแรกของการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ต้องพูดความจริง ไม่โกหกตัวเอง ไม่โกหกมวลชน และไม่โกหกออกสื่อให้ได้เสียก่อน
ป.ล. และควรรู้ไว้ว่าในประเทศนี้ มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่ได้เป็นรอยัลลิสต์ แต่ไม่เอากับพวกคุณ และพวกเขาพูดเรื่องสถาบันฯ วิพากษ์-วิจารณ์สถาบันฯ กันเป็นเรื่องปกติ แต่ทำด้วยความมีเหตุผล ไม่เหยียดหยาม ไม่อคติ และไม่หลอกลวงมวลชนเช่นที่พวกคุณทำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.กิตติธัช มองระงับเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ แค่แสดงอำนาจสไตล์อเมริกา ไม่เกี่ยวปมเขมร
นักวิชาการ มองในเชิงการเมืองระหว่างประเทศจะเห็นได้ชัดว่า สหรัฐฯ จงใจเลือกเล่น "เกมแสดงอำนาจ" ให้เห็นในช่วงเวลาที่ไทยกำลังกระชับสัมพันธ์การทูต
ดร.กิตติธัช ชี้เลือกตั้งใหญ่ ฝั่งอนุรักษนิยมตัดคะแนนกันเอง 'อภิสิทธิ์' ทำแผนใหญ่ 'ภท.' สะดุด
ดร.กิตติธัช ชี้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีกครึ่งปีข้างหน้า จะเป็นการแย่งชิงและตัดคะแนนกันเอง ของฝั่งอนุรักษ์นิยม
ดร.กิตติธัช มองอีกมุมคะแนนซ่อม สส. ศรีสะเกษ 'พท.' โล่งใจ ฐานเสียงยังไม่ลดแม้มีข่าวลบ
แม้จะมีข่าวลบแค่ไหน แต่คะแนนฝั่งเพื่อไทยยังไม่ลด การเลือกตั้งเมื่อวานน่าจะทำให้พรรคเพื่อไทยใจชิ้นขึ้นเยอะ
ประชาชน รัฐบาล และกองทัพ: มายาการเมือง 'ทหารมีไว้ป้องกันประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศ'
เมื่อไฟชายแดนลุกโชน ประชาชนไม่ได้โอบกอดรัฐบาลพลเรือนหรือพรรคการเมือง หากแต่ทอดสายตาไปยังกองทัพ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการร่วงโรยของศรัทธาทางการเมือง ฝ่ายก้าวหน้าอาจเย้ยว่าเป็น “ลัทธิทหารนิยม” หากในความจริง มันสะท้อนเพียงคำถามที่ยังไร้คำตอบ ใครกันแน่ที่จะพาประเทศให้พ้นคลื่นวิกฤติ?
จี๊ด! ดร.กิตติธัช ซัดนักการเมือง ตอนจัดเลี้ยงเสนอหน้าครบ ตอนปกป้องอธิปไตย-ชีวิต ปชช. หายเงียบหมด
เวลาที่ประเทศกำลังเดือดร้อน นักการเมืองในสภาและรัฐบาล มีกี่คนที่แสดงออกถึงการรักษาอธิปไตย และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายความมั่นคง
ดร.กิตติธัช เตือนรัฐบาลคุยกัมพูชา คิดให้รอบคอบ เอาผลประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง
ประเทศไทยพร้อมยุติการปะทะกับกัมพูชา เพราะเราไม่ได้เป็นคนเริ่มในการสร้างเรื่องราวก่อนตั้งแต่แรก แต่สิ่งที่ฝ่ายไทย ยืนยันมาตลอดก็คือ การใช้แผนที่ 1:50,000 เท่านั้น


