เลขา ครป. เสนอ 3 ปฏิวัติระบบราชการ กองทัพและตำรวจ วาระย่างเข้า 50 ปี 14 ตุลา ชี้ภัยคุกคามความมั่นคงคือเศรษฐกิจทุนผูกขาดและรัฐธรรมนูญอำนาจนิยม แขวะ '3ป.'คล้าย '3 เผด็จการทรราช' เข้าไปทุกที
14 ต.ค.2565-ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และเลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เป็นผู้แทนฝ่ายประชาธิปไตยกล่าวรำลึกวีรชน 14 ตุลาคม 2516 ว่า ปีนี้ย่างเข้าปีที่ 50 ปี 14 ตุลาคม ที่พี่น้องประชาชนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทางการเมือง และเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการปฏิวัติของคนหนุ่มสาวครั้งแรกของโลกและได้รับชัยชนะ หลังถูกกองทัพยึดอำนาจปกครองมาอย่างยาวนานและทำสงครามภายในกับประชาชนด้วยอุดมการณ์ค่ายทุนนิยมเสรี ปราบปรามขบวนการคอมมิวนิสต์และสังคมนิยมตามก้นอเมริกา
ต่อมากลุ่มนายทุน ขุนศึก ศักดินา รวมกันยึดกุมโครงสร้างรัฐภายใต้เสื้อคลุมระบอบประชาธิปไตยรัฐสภา สถาปนาอำนาจนำทางการเมืองและครอบครองทรัพย์สินทางเศรษฐกิจมหาศาล ท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจทุนนิยมที่รัฐเปิดประตูอ้าซ่าต้อนรับทุนข้ามชาติกลายเป็นประเทศกึ่งเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจ โดยละเลยหน้าที่รัฐในการจัดการทรัพยากรเพื่อส่วนรวมที่ต้องถือว่าชาติบ้านเมืองคือประชาชนชาวไทยทั้งมวล
แต่รัฐบาลทหารที่ผ่านมากลับช่วงชิงอำนาจรัฐประหารทางการเมืองเรื่อยมาเพื่อสร้างทุนนิยมเผด็จการและรัฐราชการรวมศูนย์เรื่อยมา จนถึงบัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า กองทัพที่ไม่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางได้สร้างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจมหาศาล เอื้อผลประโยชน์ให้กล่มทุนสามานย์ต่างๆ เข้ามากอบโกยในทรัพยากรสาธารณะของสังคม แปรสินทรัพย์ส่วนรวมเป็นกำไรส่วนตนจนคนส่วนน้อยแค่ไม่ถึง 1% ครอบครองโภคทรัพย์ในสังคมกว่าร้อยละ 70 ของประเทศนี้ โดยที่รัฐบาลและพรรคการเมืองไทยในระบบรัฐสภาละเลยที่จะแก้ปัญหาทางโครงสร้างโดยการเก็บภาษีทรัพย์สินอัตราก้าวหน้าและจำกัดการถือครองที่ดินหรือทรัพย์สินที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้เอง
นายเมธา กล่าวว่า วาระ 50 ปี 14 ตุลา จึงถึงเวลาที่ประชาชนจะต้องเรียกร้องประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ หยุดระบอบทุนนิยมผูกขาดประเทศไทย ถึงเวลาที่ 5 มหาเศรษฐีและผู้ผูกขาดอำนาจจะต้องคืนโภคทรัพย์ส่วนเกินคืนแก่สังคม ทั้งในรูปแบบการยึดทรัพย์หรือออกกฎหมายกระจายทรัพยากรและรายได้ หยุดการผูกขาดเศรษฐกิจของกลุ่มทุนทุกรูปแบบก่อนประเทศไทยจะไม่มีแผ่นดินให้คนไทยได้อยู่เป็นสุขร่มเย็น
"โดยเฉพาะบทบาทของ 3 นายพลอาวุโส พล.อ.ประยุทธ์ ประวิตร และอนุพงษ์ ในวันนี้คล้ายกับบทบาทของจอมพลถนอม ณรงค์ ประภาศ 3 เผด็จการทรราชในเหตุการณ์ 14 ตุลาคมเข้าไปทุกทีแล้ว และในอนาคตจะต้องทำการยึดทรัพย์คืนแก่แผ่นดินไม่ต่างกัน เพราะที่โน็ต อุดม แต้พานิช พูดมาเป็นจริงทุกคำ พล.อ.ประยุทธ ไม่ต้องการให้ตรวจสอบทรัพย์สินจึงไม่ยื่นบัญชีต่อ ป.ป.ช.โดยอ้างรัฐธรรมนูญที่พวกตนเขียนขึ้นมาใหม่" นายเมธากล่าว
เลขา ครป. ยังกล่าวว่า บทเรียนที่ประเทศไทยถูกผูกขาดทางการเมืองและเศรษฐกิจ จะต้องหาทางออกแบบประเทศสังคมนิยมประชาธิปไตย ต้องมีการกระจายอำนาจการปกครองและถึงเวลาสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่แท้จริง รวมถึงการหยุดทุนผูกขาดโดยการออกกฎหมายเพื่อสร้างประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ รวมถึงจะต้องผ่าตัดหรือปฏิวัติประเทศไทยอย่างจริงจังทั้ง 3 ส่วน คือ การปฏิวัติระบบราชการ ปฎิวัติตำรวจ และปฏิวัติกองทัพ
"สร้างรัฐราชการและระบบทหารที่รับใช้ประชาชน ไม่ใช่รับใช้ผู้มีอำนาจ บทบาทกองทัพในศตวรรษใหม่คือการแก้ไขภัยพิบัติทางธรรมชาติและมนุษยธรรมภายใต้รัฐบาลพลเรือน และควรมีแผนปฏิรูปองค์กรทุก 5 ปีเสนอต่อรัฐสภา เนื่องจากภัยคุกคามในยุคสมัยใหม่ คือการปล่อยให้เกิดทุนผูกขาดทางเศรษฐกิจและการฉ้อฉลของผู้มีอำนาจจากกลไกการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญฉบับอำนาจนิยม 50 ปี 14 ตุลาถึงเวลารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภาคประชาชน' เรียกร้องสภาฯรับร่างนิรโทษกรรม 5 ฉบับ ชงตั้งกก.ปฏิรูปประเทศขึ้นใหม่
'ภาคประชาชน' เรียกร้องสภาฯรับร่างนิรโทษกรรม 5 ฉบับ เพื่อพิจารณาต่อในชั้นกมธ. ชงตั้งกก.ปฏิรูปประเทศขึ้นใหม่ แก้ไขรัฐธรรมนูญ เดินหน้าปรองดองสมานฉันท์บ้านเมือง
ญาติวีรชนพฤษภา'35 จี้รัฐบาลหาคำตอบคนสูญหาย เชื่อความจริงไม่ได้ตายไปพร้อมกับ 'สุจินดา'
นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา' 35 และรักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
อดีตรมว.อว. ชำแหละ ไทยเผชิญกับวงจรอุบาทว์เชิงซ้อน ตกอยู่ใน 'ทศวรรษแห่งความสูญเปล่า'
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
ครป.ประเมินผลการซักฟอกนายกฯ 5 ข้อ หวังพรรครัฐบาลร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงโดยเร็ว
นายเมธา มาสขาว รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เปิดเผยถึงการประเมินผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ดังนี้
ภาคประชาชน จี้ 5 ประเด็นใหญ่ ทวงคำตอบการทำงานจากรัฐบาลอิ๊งค์
ภาคประชาชนขอทวงถามการทำงานของรัฐบาลระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี 5 เรื่อง
ภาคประชาชนตั้ง 'เครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ' สู้ทุนผูกขาดครอบรัฐ
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และสภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมจัดประชุมเครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ และอภิปรายเรื่อง เรื่อง "ทุนผูกขาดเศรษฐกิจครอบรัฐ ผลกระทบต่อผู้บริโภค กับวิกฤตการเมืองไทย"

