ยกเงินสำรองฯ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ อันดับที่12 ของโลก ตบหน้า 'ฝ่ายค้าน' ปลุกปั่น 'กู้จนถังแตก'

'อัษฎางค์' อัดฝ่ายค้านเบี่ยงประเด็นหรือไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจการเงินปลุกปั่นว่ารัฐบาล'กู้จนถังแตก' ทั้งที่ไทยมีเงินสำรองฯ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ มากที่สุดเป็นอันดับที่12 ของโลก สูงกว่าหนี้ต่างประเทศเกือบ 3 เท่า

4พ.ย.2565- นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้

“ฝ่ายค้านเบี่ยงประเด็นหรือไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจการเงิน”

ธนาคารแห่งประเทศไทยยืนยันว่า ประเทศไทยยังมีฐานะทางการเงินที่ดี จากระดับเงินสำรองฯ ที่อยู่ประมาณ 2.4 แสนล้านดอลลาร์
ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีเงินสำรองฯ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก
และเมื่อเทียบเงินสำรองฯ ต่อ GDP จะคิดเป็น 48% ของ GDP ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 6 ของโลก
รวมถึงยังสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นของไทยถึงเกือบ 3 เท่า

ที่ออกมายุยง ปลุกปั่นว่า”กู้จนถังแตก”นั้นคือยอดหนี้ 10 ล้านล้านบาทใช่มั้ย
แล้วที่รัฐบาลมีเงินสำรองฯ อยู่ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ (ย้ำว่า หน่วยคือ แสนล้านดอลลาร์) คืออะไร ทำไมไม่พูดถึง
เรามีเงินทุนสำรองฯ อยู่สูงกว่าหนี้ต่างประเทศถึงเกือบ 3 เท่า ทำไมไม่พูด

การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่อุบัติขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2019 ได้สร้างผลกระทบรุนแรงทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ของผู้คน

IMF รายงานว่า สภาวการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอและถดถอยไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองไทย แต่กระทบไปทั่วโลก โดยส่งผลให้ภาระหนี้เอกชนและภาครัฐในหลายประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้น 35% หรือกว่า 355% ของ GDP

ภาระหนี้สิ้นทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นนี้มาจากภาครัฐเกินครึ่งหนึ่ง อันเป็นผลจากการใช้มาตรการในหลายด้าน ทั้งการสนับสนุนทางการเงินให้กับระบบสุขภาพ การเยียวยาให้กับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ รวมทั้งการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่ลดลง

สำหรับประเทศไทย หนี้รัฐบาลก็เป็นเงินกู้เพื่อใช้ในมาตรการรับมือกับโควิด เช่น การสนับสนุนทางการเงินให้กับระบบสุขภาพ การเยียวยาให้กับภาคครัวเรือนและเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

ฝ่ายค้านไร้ความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองแบบนี้ ประชาชนยังหลงเชื่อให้ทำหน้าที่บริหารประเทศอยู่ได้อย่างไร

หรือว่าฝ่ายค้านรับรู้สถานการณ์อย่างดี แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้และพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อยุยง ปลุกปั่นให้ประชาชนหลงเชื่อ ว่ารัฐบาลกู้เงินมาผลาญ หรือบริหารราชการผิดพลาดจนล้มละลาย จะได้ล้มรัฐบาลลงโดยง่าย
ทั้งที่ปัญหา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจถอยถอยและภาวะหนี้สิน เกิดจากโควิดที่ส่งผลกระทบไปทุกประเทศทั่วโลก

แต่ประเทศไทยไม่ได้ล่มจม คนไทยยังคงมีอยู่มีกิน และเศรษฐกิจของประเทศยังคงเดินหน้าได้ แม้ในภาวะวิกฤตระดับโลกอย่างนี้

ออกมาจากกะลาสามนิ้ว แล้วมองไปรอบๆ โลก ก็พบว่า ไทยเรารับมือโควิดได้ดีขนาดไหน?
หนี้สินที่เพิ่มขึ้นมาจากอะไร

สัดส่วนหนี้สินกับเงินทุนสำรองมหาศาลมันหมายถึงอะไร?
ไม่เรียกว่ารัฐบาลลุงมีฝีมือแล้วเรียกว่าอะไร

ถังแตก แปลว่า หมดตูด

หมดตูดทั้งที่มีเงินทุนสำรองอยู่ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ หมดตูดยังไง

อัษฎางค์ ยมนาค

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟาด 'ธนาธร' ดึงสถาบันสู่ความขัดแย้ง คืนความเป็นธรรมให้ 'ทักษิณ' พากลับบ้านรื้อคดีใหม่

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่ความขัดแย้งทั้งปวง แล้วอ้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจำแลง

เหน็บ นายกฯ เดินสายเล่นตลกไปทั่วโลก จะสร้างอิมแพคผู้นำแฟชั่น เอาอะไรคิด

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า ใคร….สามารถสร้างอิมแพค เกิดอิทธิพลเป็นผู้นำแฟชั่นกับโลกได้

จับตาคดี 'พิธา' ถือหุ้นไอทีวี ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร 'ฝ่ายส้ม' มีแต่ได้กับได้

นายอัษฎางค์ ยมนาค หรือ เอ็ดดี้ นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความ กรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีหุ้นสื่อไอทีวี ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญบชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตกเป็นผู้ถูกร้อง ในวันพุธที่ 24 ม.ค.นี้ ว่า

'ธีระชัย' นิยามวิกฤตเศรษฐกิจ ตามมาตรา 53 ต้องพิจารณาข้อมูลเชิงประจักษ์ 5 ข้อ

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง เงื่อนไขมาตรา 53 มีเนื้อหาดังนี้

จวกยับ! โจรทำผิดกฎหมาย ได้รับยกย่องจาก รมต.ยุติธรรม เป็นนักสร้างสันติภาพ

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง รัฐบาลเศรษฐา เศรษฐี เอาใครมาเป็น รมต.ยุติธรรม ว่ะ ? มีเนื้อหาดังนี้