ไม่ใช่ทาสแต่เป็นไท

เลขา ครป. โต้เจ้าสัว ให้คนไทยเป็นคนใช้ดูแลบ้าน ห่วงต่างชาติถือครองแผ่นดินไทยเกินครึ่ง  เตือนอันตรายทุนจีนรุกคืบโกยผลประโยชน์กลับ

4 ธ.ค.2565 – กรณีนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ออกมาสนับสนุนให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับท่าทีของเจ้าสัว ฟังแล้วน่ากลัวมาก ท่านคิดแต่เรื่องกำไรขาดทุน คิดแต่เรื่องธุรกิจการลงทุน หรือไม่ ทุนนิยมเสรีคือการเอาเปรียบประชาชน เพราะเมื่อมีคนได้ ก็ต้องมีคนจ่าย เจ้าสัวสนับสนุนให้ต่างชาติซื้อถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ แล้วให้คนไทยเป็นคนใช้ดูแลบ้าน เท่ากับทำให้คนไทยกลับไปเป็นทาสใช่หรือไม่ แต่คนไทยไม่ใช่ทาสแต่เป็นไทมานานแล้ว

นายเมธา กล่าวว่า ในนามรัฐบาลพลังประชารัฐ ดึงนักธุรกิจและกลุ่มทุนผูกขาดเข้าไปทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจจำนวนมาก จนทำให้เจ้าสัวใหญ่มีรายได้ก้าวกระโดดกว่า 5 แสนล้านบาท เจ้าสัวเกิดใหม่ก็มีรายได้มหาศาลหลายคน จีดีพีไทยมีประมาณ 16 ล้านล้านบาท 50 มหาเศรษฐีแรกมีทรัพย์สินรวมกันมากกว่า 32 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีประเทศไปแล้ว ผลงานของรัฐบาลประยุทธ์คนเก่งของเจ้าสัว ทำให้ประเทศไทยเหลื่อมล้ำอันดับ 1 ของโลก เจ้าสัวเคยคิดรับผิดชอบบ้านเมืองหรือไม่ ธุรกิจต่างๆ ที่ผูกขาดของกลุ่มทุนใหญ่มีธรรมาภิบาลจริงๆ ไหม ทำไมปล่อยให้ประเทศขัดแย้งและเหลื่อมล้ำมากขนาดนี้

นายเมธา กล่าวว่า รัฐบาลทำบัตรสวัสดิการคนจน ให้คนจนไปจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียนเศรษฐกิจเข้ากระเป๋านายทุนผูกขาด เจ้าสัวได้ทั้งเงินรัฐและคนจน เศรษฐกิจทุนนิยมประชารัฐแบบนี้ ตีความแบบไหนก็ซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำทางสังคม แต่เจ้าสัวอาจจะไม่เคยยากลำบากแร้นแค้นและมีสำนึกความเป็นชาติ อาจไม่เข้าใจว่าวันนี้คนไทยมีรายได้เฉลี่ยน้อยมาก ประเทศไทยมีคนยากจนที่มีรายได้น้อยกว่าเส้นความยากจน หรือ 2,762 บาท กว่า 5 ล้านคน และคนไทยยังมีหนี้สินมหาศาล ตามที่ทราบกันว่าหนี้ครัวเรือนมีมากถึง 15 ล้านล้านบาทเข้าไปแล้ว คนไทยวันนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงผลักของหนี้สินหมุนเวียนและเงินเดือนแรงงาน แต่เราเอาทรัพย์สินของเจ้าสัวมาหารร่วมกับประชากรทั่วประเทศ เราจึงติดกับดักรายได้ปานกลาง

“ท่านบอกว่าที่ดินเรา 105 ล้านไร่ที่ใช้เพาะปลูก เขาไม่สามารถนำที่ดินกลับไปบ้านเขาได้ แต่เขาเอาเงินมาลงทุน ซื้อที่ ซื้อบ้านปักหลัก ดีกว่าท่องเที่ยว แต่ท่านไม่คิดผลกระทบระยะยาว ที่คนไทยพลัดที่นาคาที่อยู่ มีคนไทยจำนวนมากไม่มีที่ดินทำกิน ที่ดินมหาศาลในประเทศไทยมีเพียง 320 ล้านไร่ แต่วันนี้ถูกถือครองโดยเจ้าสัวผู้เจริญแล้วหลายแสนหลายล้านไร่รวมกัน บางท่านมีเป็นแสนไร่ บางท่านมีเป็นหมื่นไร่ จากเสื่อผืนหมอนใบ เติบใหญ่จนธุรกิจใหญ่โตภายใต้พระบรมโพธิสมภาร และนโยบายของรัฐบาลที่ยกเลิกการจำกัดการถือครองที่ดิน ท่านทั้งหลายไม่สำนึกในแผ่นดินไทยบ้างเลยหรือ จะส่งเสริมให้ต่างชาติยึดครองที่ดินเพิ่มเติมอีก” นายมธา กล่าว

นายเมธา กล่าว นโยบายการให้ต่างชาติเช่าที่ดินในกัมพูชา ในเวียดนาม ต่างชาติก็ไปลงทุนกันมหาศาล แต่หากให้ถือครองทรัพยากรแบบถาวร โดยเฉพาะที่ดิน ท่านหวังดีต่อประเทศไทยจริงหรือ หรือพูดแทนกลุ่มทุนจีนบางกลุ่ม เพราะไม่กี่ปีที่ปล่อยให้ถือครองได้จะมีนายทุนจีนอีกกี่ล้านคนมาครอบครองแผ่นดินไทยเกินครึ่ง เพราะเขามีกำลังจ่ายมหาศาล และเงินที่เขาเอามาลงทุนนั้นเขาก็เอามาทำกำไรกลับไป ไม่ได้ยกให้คนไทยทั้งหมด

“ประเทศไทยเสียเปรียบต่างชาติมาอย่างยาวนานแล้วนับตั้งแต่สนธิสัญญาเบาว์ริงกับตะวันตก เราสามารถค้าขายกับตะวันออกโดยไม่จำเป็นต้องยกที่ดินให้ หรือทำให้ประเทศไทยตกเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจอีกน่าเสียดายรัฐบาลพลังประชารัฐ ทำลายประเทศจนล่มจมเพราะความเหลื่อมล้ำมา 8 ปี แล้วจะขอไปรวมไทยสร้างชาติอีก นายทุน ขุนศึก ศักดินา ไม่ศึกษาบทเรียนประวัติศาสตร์จากอินโดนีเซียและอินโดจีนเลย  ” นายเมธา กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนันต์' การันตี 'ลุงป้อม' ส่งชื่อนั่ง รมต. โควตากำแพงเพชร

'อนันต์' การันตี 'ลุงป้อม' ส่งชื่อนั่ง รมต. มั่นใจคุณสมบัติไร้มลทิน ลั่นเก้าอี้ตัวนี้โควตากำแพงเพชร ไม่ท้อหากชวดตำแหน่ง เชื่อพรรคไม่แตกแม้ผลออกมาเป็นอย่างไร

แจกเงินดิจิทัล ประชาชนคือทางผ่าน สุดท้ายเข้ากระเป๋า 'เจ้าสัว'

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ แจกเงินดิจิทัล ประชาชนคือทางผ่าน สุดท้ายเข้ากระเป๋าเจ้าสัว มีเนื้อหาดังนี้

'เศรษฐา' การันตีโควตา รมต. ยังเป็นของพลังประชารัฐ ยันไม่ก้าวล่วงคนนั่งแทน 'ไผ่ ลิกค์'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติ นายไผ่ ลิกค์ สส. กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้

'สุทิน' ควง 'เจ้าสัวธนินท์' สักขีพยาน MOU กลาโหมจับมือซีพี

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหม กับบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด