‘ปิยบุตร’ วาง 10 เป้าหมาย ที่ตั้งใจจะทำให้สำเร็จในปี 2023

1 ม.ค.2566-นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ระบุว่า New Year’s Resolution 2023 ผมเขียนสิ่งที่ตั้งใจจะทำให้สำเร็จในแต่ละปี พอสิ้นปี ก็พบว่า สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ที่เป็นเช่นนี้ นอกจากการละทิ้งของเราแล้ว ก็อาจมาจากการกำหนดเป้าหมายไว้มากจนเกินไป ปีนี้ ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ได้เอาตัวไปข้องเกี่ยวกับการเมืองแบบพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง มีตารางเวลาใหม่ มีเวลาว่างมากกว่าเดิม หวังว่า เมื่อจบปี 2023 แล้ว น่าจะทำสำเร็จเข้าเป้าได้มากกว่าเดิม

อ่านเจอจาก BBC Thai เมื่อสักครู่ พูดถึงเทคนิคการวางเป้าหมายของปีใหม่และทำให้ได้สำเร็จ ให้เผนแพร่เป้าหมายสู่สาธารณะ กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนลงไป และไม่มากเกินไป

New Year’s Resolution 2023 ของผม มีดังนี้

1.ส่งต้นฉบับหนังสือ 2 เล่ม ได้แก่ รัฐประหาร และการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญต้นฉบับหนังสือ 2 เล่มนี้ มาจากการบรรยายในวิชาระดับปริญญาโท ปีสุดท้ายของผม ก่อนจะลาออกจากอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มธ มาก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่

ผมเตรียมการบรรยายในครั้งนั้นเต็มที่มาก ค้นคว้าไว้เยอะ หลายส่วน ได้มาจากการรับทุนจากสถานทูตฝรั่งเศสไปค้นคว้าที่ปารีส เดิมตั้งใจขอทุนจากคณะนิติศาสตร์ มธ เขียนเป็นเล่ม แต่ก็ลาออกมาเสียก่อน หลังจากนั้น ผมก็ทิ้งต้นฉบับนี้ไปนาน ปีนี้ จะกลับมาเขียนใหม่ให้จบครับ

2.ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ปี 64 ผมได้ยกร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับ “รื้อระบอบประยุทธ์” โดนมีรายละเอียดเกี่ยวกับการยกเลิกวุฒิสภา การเปลี่ยนที่มาขององค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ การลบล้างผลพวงรัฐประหารและป้องกันรัฐประหาร ฯลฯ เอาไว้ และรณรงค์เข้าชื่อสู่การพิจารณาของรัฐสภา แต่ตกไป ปี 65 ผมได้ยกร่างรัฐธรรมนูญ “ปลดล็อกท้องถิ่น” และรณรงค์เข้าชื่อสู่การพิจารณาของรัฐสภา แต่ก็ตกไปอีกเช่นกัน ปี 65 ผมได้ยกร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 2 เพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ทั้งหมดนี้ คือ การยกร่างแบบแก้ไขเพิ่มเติม มีรัฐธรรมนูญ 60 เป็นตัวตั้ง แล้วเข้าไปแก้ไขเพิ่มเติม

ปีนี้ ผมตั้งใจจะยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เขียนใหม่หมด ไม่ยึดคิดกับโครงหมวดแบบเดิมๆ ไม่ยึดคิดกับรูปศัพท์แบบเดิมๆ ร่างใหม่ภายใต้กรอบ “รัฐเดี่ยว/ราชอาณาจักร/ประชาธิปไตย” โดยจะเขียนคำอธิบายรายมาตราไว้ด้วย ทั้งหมดก็เพื่อให้มี “ร่างพร้อมใช้” ให้สังคมไทยได้ถกเถียงอภิปราย เมื่อสถานการณ์สุกงอมเพียงพอ ก็อาจนำมาปรับใช้ได้ทันที

3.เริ่มเขียนบันทึก autobiography / เริ่มเขียนต้นฉบับ 5 ปีชีวิตทางการเมือง ผมชอบขีดเขียน บันทึกเรื่องราวเก็บไว้ ประกอบกับได้อ่านงานของ Annie Ernaux และ Édouard Louis ซึ่งเป็นแนวนิยายกึ่งอัตชีวประวัติ เล่าเรื่องตนเอง แต่ไม่ได้เป็นเส้นตรง อาจเป็นบางช่วงบางตอน ให้เรื่องราวของตนเองเป็น “วัตถุ” ที่จะพาเราไปเห็นสภาพปัญหาสังคม และการเมือง เลยตั้งใจว่าจะทดลองเขียนงานแบบนี้เกี่ยวกับชีวิตตนเองบ้าง ทยอยๆเก็บเอาไว้ แล้วค่อยคิดว่าจะนำมาใช้ทำอะไรต่อไป

นอกจากนี้ ผมจะเริ่มเขียนต้นฉบับเกี่ยวกับ 5 ปี ชีวิตทางการเมืองของผม ตั้งแต่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ชักชวนเพื่อนร่วมอุดมการณ์ รณรงค์หาเสียงและรณรงค์ความคิดทั่วประเทศ เข้าไปเป็น ส.ส. งานในสภา การเจรจาพูดคุยทางการเมือง การต่อสู้กับ “นิติสงคราม”  ถูกยุบพรรค/ตัดสิทธิ การตั้งคณะก้าวหน้า จนมาถึงปัจจุบันที่ตัดสินใจถอยออกถอยห่างจากพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า ออกจากการเมืองแบบการเลือกตั้ง การเมืองแบบพรรคการเมือง ทั้งหมดนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและคนรุ่นถัดไปที่สนใจการเมือง

4.จัดรายการอย่างสม่ำเสมอ  ผมจัดรายการอยู่หลายรายการ จนจำแทบไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง จัดไปแบบทิ้งๆขว้างๆ ไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวก็หยุดหายไปนาน เดี๋ยวก็เปิดรายการชื่อใหม่ แล้วก็ทิ้งร้าง ยามที่ผมพบปะเจอผู้คน มีหลายคนบอกว่าติดตามรายการอยู่ ติดตามรายการนั้น รายการนี้ ทวงถามว่าตอนหน้าเมื่อไรจะมา ทวงถามว่ารายการนั้น รายการนี้เลิกจัดแล้วหรือ

ผมดีใจมากที่มีคนติดตาม ขณะเดียวกัน ผมก็ผิดหวังตนเอง อยากตำหนิตนเอง ที่ทำอะไรไม่สม่ำเสมอ ไม่มีวินัยเพียงพอ

ปีนี้ ผมจะฝึกฝนการจัดรายการต่างๆ แบบพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด ประเภทตั้งกล้องถ่ายเอง ตัดเอง ลงเอง ตั้งใจจะให้มีรายการ ดังนี้ Interregnum – เล่าประวัติศาสตร์การเมือง ประวัติศาสตร์ปฏิวัติ ทฤษฎีการเมือง The Library of Babel – รีวิวและสรุปหนังสือที่น่าสนใจ  เอาปากกามาวง – วิเคราะห์ข่าวในแง่มุมการเมือง กฎหมาย สังคม ในสไตล์แบบผม ส่วนรายการกินเล่ากับป๊อกไปป์ ต้องดูก่อนว่ามีงบประมาณให้ทำได้ต่อหรือไม่ และรายการสนามกฎหมาย คงจัดต่อได้ยากหน่อย เพราะ ต้องมีสตูดิโอ มีตากล้องอาชีพ ตัดต่ออาชีพ ใส่อินโฟกราฟิค ภาพประกอบ  ผมต้องขอเริ่มต้นอย่างสม่ำเสมอกับรายการที่ผมสามารถบันทึกและลงเผยแพร่อย่างง่ายๆได้ด้วยตนเองก่อนครับ

5.เรียนภาษาสเปน ผมสนใจภาษาสเปนมาก อยากนำไปใช้อ่านค้นคว้าเกี่ยวกับการต่อสู้ในลาตินอเมริกา ช่วง Covid แพร่ระบาด ทำกิจกรรมมากไม่ได้ ผมได้ลงทะเบียนเรียนภาษาสเปนทางออนไลน์ที่ มธ เอาไว้ เรียนไปได้หนึ่งคอร์ส ก็ละทิ้งไป ไม่หมั่นทบทวนฝึกฝน ซื้อหนังสือเรียนภาษาสเปนมาไว้เต็มบ้านหนังและซีรีส์ภาษาสเปนก็มีให้ดูเต็มไปหมดปีนี้ ขอกลับมาเรื่มต้นใหม่ครับ

6.ลดน้ำหนักให้เหลือ 77 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นับตั้งแต่เข้าสู่แวดวงการเมิอง จนวันนี้ 5 ปีแล้ว ชีวิตทางการเมืองได้พรากเอาสุขภาพของผมไปมาก ปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ผมรู้สึกว่าตนเองแก่เป็นครั้งแรก นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว น้ำหนักก็เพิ่มเร็วปานจรวด  5 ปีนี้ เพิ่มมา 10 กิโลกรัม ปีนี้ ก็เหมือนทุกปี ที่จะตั้งเป้าเรื่องลดน้ำหนัก แล้วก็ทำไม่เคยได้ แต่ครั้งหนึ่งในชีวิต ผมเคยลดน้ำหนัก 13 กิโลได้ ภายใน 2 เดือนมาแล้ว แสดงว่า ผมทำได้ถ้าตั้งใจทำ ขอลองดูอีกสักตั้งครับ

7.หัดว่ายน้ำให้ได้ /หัดขี่จักรยานให้เป็น ดังที่ผมเคยเล่าในหลายโอกาสว่า ผมเกิดและโตมาในครอบครัวคนชั้นกลางระดับล่างในเมืองหลวง อยู่อาศัยในบ้านเช่าขนาดเล็ก ไม่มีพื้นที่ ไม่มีพื้นที่สาธารณะ และพ่อแม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ไม่มีเวลาและไม่มีเงินมากพอที่จะพาลูกๆ ไปเรียนว่ายน้ำ ไปหัดขี่จักรยาน ครั้นจะปล่อยไปเอง เขาก็เป็นห่วง นี่เป็นสาเหตุที่ผมไม่เคยได้หัดขี่จักรยาน และหัดว่ายน้ำเลย พอโตขึ้น ก็กลัว เกร็ง และอาย ไม่กล้าไปหัดว่ายน้ำ ไปหัดขี่จักรยาน พอเริ่มเข้าสู่วันกลางคน มีเวลา มีรายได้เป็นของตนเอง และภรรยาร้องขอมา ผมจึงเริ่มต้นหัด แต่ก็นั่นแหละ อีกตามเคย พอเข้าสู่แวดวงการเมือง ผมก็ละทิ้งมันไปอีก  จนตอนนี้ ก็ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน อยากไปเที่ยว แล้วขี่จักรยานไกลๆ ว่ายน้ำได้ เห็นสิ่งสวยงาม มากกว่า นั่งนอนอ่านหนังสือและดื่มริมหาดแล้ว ปีนี้ ขอให้ผมเลิกกลัว เลิกอาย หมั่นฝึกฝน ทำให้สำเร็จด้วยเถิด

8.หาวิธีสะสมรายได้แบบ Passive Income เพื่อสามารถใช้ชีวิตในช่วงที่เหลือแบบฟรีแลนซ์ได้ ผมลาออกจากอาจารย์ประจำ เพื่อมาตั้งพรรคการเมือง และด้วยระบบสัญญาจ้างของมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ทำให้ไม่มีวิธีการกลับเข้ารับราชการและนับอายุต่อแบบเดิม ต่อให้มี ผมก็เขื่อว่าด้วยบุคลิกและความคิดแบบผม ด้วยสถานการณ์ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมครอบงำควบคุมการบริหารมหาวิทยาลัยไทย คงยากมากที่ผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยอีกครั้ง

นอกจากนี้ ตัวผมเองก็อยากเป็นอิสระทั้งทางความคิด การแสดงออก เงื่อนไขดำรงชีวิต และการเดินทาง การกลับเข้าไปทำงานแบบมีต้นสังกัดจึงน่าจะไม่เหมาะเท่าไรนัก เมื่อต้องเป็นฟรีแลนซ์ ชีวิตจะดำรงอย่างมั่นคงปลอดภัยได้ จำเป็นต้องมี passive income ซึ่งผมมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง น่าจะสามารถนำไปต่อยอดหาดอกผลต่อได้ วิธีการเช่นนี้ ขัดกับจิตสำนึกส่วนบุคคล และอุดมการณ์ความคิดของผมมาก แต่หากเราต้องอยู่ในประเทศนี้ อย่างอิสระโดยไม่มีมรดกและไม่มีสวัสดิการให้ได้กับช่วงครึ่งชีวิตที่เหลือ เราก็จำเป็นต้องเริ่มต้นหาวิธีการ

9.ไปชิลี / อาร์เจนติน่า / เปรู / คิวบา / ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผมชอบอะไรๆที่เป็นลาตินอเมริกามากขึ้นเรื่อยๆ ประวัติศาสตร์ การเมือง การต่อสู้ของผู้ถูกกดขี่ ปฏิวัติ อาหาร ไวน์ ฟุตบอล สไตล์เพลง ซีรีส์ ฯลฯ อยากไปใช้ชีวิตอยู่แถวๆนั้นหลายๆเดือน อยากไปทุกประเทศในดินแดนนี้หลายประเทศ พาสปอร์ตไทยไปได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าด้วย แต่ด้วยงบประมาณและเวลาที่จำกัดของผม คัดมา 4 ประเทศนี้ ถ้าได้ไปสัก 1 หรือ 2 ก็น่าดีใจมากๆแล้วครับ

10.ลดการกินเนื้อสัตว์ เริ่มต้นจากกินมังสวิรัติสัปดาห์ละ 2 วัน ผมเติบโตมาจากครอบครัวคนจีนผู้นิยมลัทธิเจ้าแม่กวนอิม ทำให้ที่บ้านไม่มีใครกินเนื้อวัวเลย ไม่มีการนำเนื้อวัวเข้าบ้าน สมัยวัยเด็ก ผมได้กลิ่นเนื้อวัวแล้วจะทนไม่ได้ เวลาเพื่อนๆ ไปกินก๋วยเตี๋ยว/เกาเหลา เนื้อวัว ผมต้องชิ่งหนีทุกครั้ง ผมโตมาแบบคนไม่กินเนื้อเลย จนกระทั่งไปเรียนที่ฝรั่งเศส พอได้ทดลองกินแล้ว คิดเลยว่า “ทำไมกูไม่กินมาตั้งนานแล้ววะ เสียโอกาสไปหลายปี”

ตั้งแต่นั้นมา ผมก็กินเนื้อเป็นประจำ เสาะหาร้านดีๆกินไปเรื่อย แต่พออายุเริ่มมากขึ่น ระบบการย่อย การรับรู้ต่างๆก็เริ่มถดถอยลง ผมพบว่า เมื่อไรที่กินเนื้อ คืนนั้นจะนอนไม่สบาย พะอืดพะอม ย่อยยาก เหมือนเนื้อที่เรากินไปมันยังคาอยู่ ภรรยาผมช่วยชี้ทางสว่างให้ว่า ควรลดเลิกกินเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแดง เนื้อชิ้นใหญ่ๆเบิ้มๆได้แล้ว พร้อมกับเอาข้อเสียมาให้ผมดู ทั้งผลร้ายต่อสุขภาพ และผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

ด้านหนึ่ง ก็อยากรักษาสุขภาพตนเอง รักษาโลก อีกด้านหนึ่ง ก็ยังคงติดใจในรสชาติของเนื้ออยู่ ปีนี้ เลยขอเริ่มต้นแบบเบาๆ กินมังสวิรัติ 2 วันต่อสัปดาห์ก่อน ไว้อายุ 50 ค่อยมาพิจารณาจริงจังว่า ควรเลิกกินเนื้อไปเลยดีมั้ย

ทั้งหมดนี้ คือ เป้าหมายที่ผมตั้งไว้ในปี 2023 ครับ ปีนี้ เน้นไปที่การเขียนหนังสือ การผลิตงาน และการพัฒนาและเสริมสร้างทักษะใหม่ๆให้กับตนเอง ในช่วงเวลาแห่งการอดทนรอคอยเช่นนี้ การเผยแพร่ความรู้ และการฝึกฝนพัฒนาตนเอง ก็น่าจะเป็นประโยชน์อยู่บ้าง

สวัสดีปีใหม่ 2566/ Bonne année 2023 ครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.นิว ชี้ ‘ปิยบุตร’ มีสถานภาพลี้ภัยง่ายกว่าใคร เสี้ยมก้าวไกลเลิกเป็นหุ่นเชิด

5 ก.พ.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas

ละเอียดยิบ! 'ปิยบุตร' ปลุกเร้า 'ก้าวไกล' แลกหมัดศาลรัฐธรรมนูญ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ "ข้อเสนอถึงพรรคก้าวไกลภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครอง" ระบุว่า ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองเมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา

'เทพมนตรี' ขึ้นโรงพักอีกรอบ เอาผิด 'ปิยบุตร' หมิ่นสถาบัน อัยการให้ตร.สอบเพิ่ม

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm เขียนถึงนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุว่า วันนี้ต้องมาสถานีตำรวจนครบาลดุสิตอีกรอบ

'ปิยบุตร' ปลุกหนักมาก! องค์กรถูกล้ำแดน ต้องใช้อำนาจโต้กลับ แก้กฎหมายยุบศาลรธน.

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ข้อเสนอทางกฎหมายที่พอเป็นไปได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน" รัฐธรรมนูญ คือ ระบบความสัมพันธ์ทางอำนาจขององค์กรต่างๆในรัฐธรรมนูญ