นายกฯ สั่งแถลงคืบหน้าคดีสำคัญ ตีปี๊บผลงาน 'ตู้ห่าว-อธิบดีอุทยานฯ' ครูบูลลี่เงียบกริบ

นายกฯ​สั่งหน่วยงาน แถลงคืบหน้าดำเนินคดี ประชาชนสนใจ ตู้ห่าว​ -​ ทุจริตซื้อขายตำแหน่งกระทรวงทรัพย์ฯ​ -​ บุกค้นบ้าน​ ลั่นเกี่ยวข้องใครเอาผิดทุกคน​ ส่วนมีการพาดพิงหลานนายกรัฐมนตรี​เอี่ยวทุนจีนสีเทา​ เป็นแค่การกล่าวอ้าง​ ยัน​ สั่งตีปี๊บคืบหน้า ไม่เกี่ยวใกล้เลือกตั้ง

20 ม.ค.2566 - นายอนุชา​ บูรพ​ชัยศรี​ รอง​เลขาธิการ​นายก​รัฐมนตรี​ฝ่าย​การเมือง​ ปฏิบัติ​หน้าที่​โฆษก​ประจำ​สำนัก​นายก​รัฐมนตรี​ แถลงข่าวความคืบหน้าจากข้อสั่งงานของพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในการติดตามคดีต่างๆ ที่มีผลต่อความรู้สึกของประชาชน​ โดยกล่าวถึงเรื่องเครือข่ายกลุ่มธุนกิจทุนจีนสีเทา

พลตำรวจตรีอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ กล่าวว่า​ จากที่นายกฯได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีนี้ให้ชัดเจน และดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องโดยไม่ละเว้น โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตั้งให้ ผบช.น. ​ชั้นรองเป็นผู้ควบคุมกำกับ​ พบว่าเส้นทางต่างๆมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ นำไปสู่การยึดทรัพย์​ นำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ​ ตู้ห่าว​ รวมไปถึงขยายผลไปสู่ผู้ที่เกี่ยวข้อง​ รวม​ 117 ราย​ มีเอกสารทั้งสิ้น​ 67 แฟ้ม​ อายัติทรัพย์สิน​ 5,345 ล้านบาท​

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าหากทรัพย์สินนั้นสาวไปถึงใครให้ดำเนินคดีไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกราชการจำนวนทั้งสิ้น 6 ราย ภาพรวมของคดี ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 เดือน คืบหน้าอย่างต่อเนื่องขยายผลผู้ร่วมกระทำความผิดทุกราย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนการที่รับผลประโยชน์ภายในกรมอุทยาน​แห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช​ นายกุศลโชติรัตน์​ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ กล่าวว่า​ คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ และเดือนนี้ที่เชิญผู้เกี่ยวข้องของกระทรวงมาให้ถ้อยคำ​ หากดูไทม์ไลน์ ได้ดำเนินการทางวินัยอย่างรวดเร็ว​ พร้อมกับระบุว่าคดีดังกล่าวแม้ว่าเป็นปัญหาประจักษ์ชัดเชิงวินัย​ ซึ่ง ไม่มีใครล้วงลูก คณะกรรมการ 2 ชุด​ เนื่องมีการย้ายอธิบดีมายังสำนักเลขารัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว​ ขอประชาชนสบายใจได้​ ยอมรับว่าเหตุการณ์ระดับความรุนแรงนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของกระทรวง หากมีการเร่งเวลาเกินไป ในการสืบสวนสอบสวนจะต้องดำเนินการไปตามระเบียบที่มี

โดยนายอนุชา​ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการ สั่งการจากนายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีอื่นๆอย่างการประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทเอกชน ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานเข้ามา ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีความประสงค์ที่จะปกป้องความผิดของผู้ใดในแต่ละคดี โดยต้องการให้เจ้าหน้าที่ได้มีโอกาสที่จะสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความโปร่งใสและไม่มีการแทรกแซง เกิดความกระจ่างในทุกประเด็นของสังคม เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีนำมาเป็นข้อปฏิบัติตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งใจแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในทุกแวดวง การดำเนินการขาดและข้าราชการจะต้องมีความโปร่งใสเป็นธรรม​ และตรวจสอบได้ในทุกกรณี

ส่วนที่มีการพาดพิงหลานของนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับคดีกลุ่มทุนธุรกิจจีนสีเทา​ นายอนุชา​ ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น ยังไม่มีข้อกล่าวหา ซึ่งในส่วนของพนักงานสืบสวนสอบสวนเน้นไปที่ความตรงไปตรงมา หากพบผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเอกชน จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ถึงเวลาหากมีหลักฐานที่ชัดเจน อัยการก็จะดำเนินการต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการกล่าวอ้างถึงใครหรือพาดพิง แต่เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวนมากกว่า หากพบสิ่งไม่ถูกต้องก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยไม่ต้องเกรงกลัวใครทั้งสิ้น

ทั้งนี้นายอนุชา​ ยืนยันว่า การที่นายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งกวาดล้างคดี ต่างๆที่อยู่ในความสนใจของประชาชน​ไม่เกี่ยวกับช่วงใกล้เลือกตั้ง เป็นการสั่งการตามนโยบายอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนนั้นสนใจ​ อีกทั้งนายกรัฐมนตรี​ต้องการทราบความคืบหน้าการดำเนินการของคดีต่างๆ