'รัชฎา' ท้าเปิดคลิปเสียงวัน 'ปปป.-ชัยวัฒน์' บุกห้องทำงาน!

'รัชฎา' ร่ายยิบเรื่องให้การศาล รับรู้จัก 'ชัยวัฒน์' มากว่า 10 ปี ซ้ำยังเคยตั้งกรรมการสอบ ยืนยันถูใส่ความกลั่นแกล้ง ท้าเปิดคลิปเสียงวันจับกุมจะพิสูจน์ได้ดี

23 ก.พ.2566 - ศาลอาญาคดีทุจริต เเละประพฤติมิชอบกลาง นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชให้สัมภาษณ์หลังให้ข้อเท็จจริงในคดีหมายเลขดำ อท.23/2566 ที่ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบัญชาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ผบก.ปปป.) รวมทั้ง ชุดจับกุม และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กับพวก รวม 7 คน เป็นจำเลย ว่าศาลถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของการยื่นฟ้อง เช่นความสัมพันธ์เคยรู้จักกันมาก่อนหรือไม่ ทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางนายชัยวัฒน์ และรายละเอียดเหตุการณ์ ก่อนเกิดเหตุระหว่างเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ

“รู้จักกันมากว่า 10 กว่าปีสมัยที่นายชัยวัฒน์ดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งหนึ่ง สำหรับเรื่องความขัดแย้งไม่มี มีเพียงการที่ผมตั้งคณะกรรมการสอบการละเมิดของนายชัยวัฒน์เรื่องการทุจริตปลูกป่า การละเมิดที่เกิด ผมและกรมเป็นผู้เสียหายเป็นผู้ฟ้อง มีการสั่งตั้งกรรมการสอบนายชัยวัฒน์ ซึ่งในเรื่องนี้ผมก็ถูกร้องเรียนว่าตั้งกรรมการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ในข้อเท็จจริงคดีใกล้จะหมดอายุความครบ 10 ปีในวันที่ 29 มี.ค. 2566 ถ้าถึงวันนั้นคดีนี้จะไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งถ้าผลสรุปเป็นเช่นนั้น ถ้าผมไม่ตั้งคณะกรรมการสอบผมก็จะถูกตั้งข้อหาอาญามาตรา 157 เวลาเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และต้องชดใช้แทนนายชัยวัฒน์”

นายรัชฎาระบุว่า ที่ผ่านมาเรื่องทางวินัยของนายชัยวัฒน์ กระทรวงทรัพยากรฯ มีการเรียกสอบมาแล้วเป็นเวลา 5 ปี กรรมการข้อเท็จจริงมีการชี้มูลว่าผิดวินัยร้ายแรง ส่วนเรื่องทางอาญากรรมการสอบกรณีละเมิดได้เสนอว่าให้กรมอุทยานฯ แจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายชัยวัฒน์ แต่ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการอะไร ส่วนกรณีเงินที่พบในที่เกิดเหตุนั้น ส่วนหนึ่งที่พบเป็นเงินส่วนตัว บรรยากาศวันนั้น อยู่ดีๆ เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในห้องขอตรวจ จึงเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติกรเข้ามา เพราะในเรื่องกฎหมายไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนตัวยังไม่ได้ตรวจดูซองเงินที่มีการระบุชื่อไว้ที่ด้านหน้า เพราะตั้งแต่เช้ามีกิจกรรมทำบุญ แต่สำหรับซองพวกดังกล่าวยอมรับว่ามีผู้นำเข้ามาให้ เพื่อเช่าพระพุทธรูปและมีมาร่วมทำบุญโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ซึ่งโครงการดังกล่าวมีการดำเนินการมาหลายปี ในโครงการนี้ภาคเอกชน ร่วมบริจาคมาแล้วกว่า 6 ล้านบาท เงินส่วนนี้เป็นการขอระดมให้ทุกคนสนับสนุน เพราะตามหลักโครงการนี้มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 30 ล้านบาท โครงการนี้คือค่าเลี้ยงดู ค่าอาหารของสัตว์ที่เป็นของกลางที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้

เมื่อถามถึงการรับเงิน นายรัชฎายืนยันว่าเป็นเรื่องปกติของข้าราชการที่ต้องผ่านผู้บังคับบัญชาเป็นคนดูแลไม่มีในส่วนของค่าน้ำร้อนหรือค่าน้ำชา ส่วนที่นายชัยวัฒน์โต้แย้งว่าการสร้างพระพุทธรูปหรือเช่าพระพุทธรูปเสร็จสิ้นไปนานแล้ว ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ยังมีพระที่ยังไม่ได้เช่าอีกกว่าร้อยองค์

“การที่เดินทางมายื่นฟ้องเป็นการเรียกความยุติธรรมให้กับตัวเอง เรื่องนี้ต้องขอคืนภาพลักษณ์ เพราะสิ่งที่เกิดเป็นการใส่ความ เรื่องที่นายชัยวัฒน์นำไปแจ้งความอยากถามกลับว่าตำรวจได้ตรวจสอบหรือไม่ว่าเป็นเงินส่วนใด”นายรัชฎากล่าวและว่า อยากให้ได้ดูคลิปเสียง วันที่มีการบุกจับกุมที่ถูกลบออกไปในระหว่างคลิปเสียงนั้นได้ปฏิเสธตลอดว่าไม่มี ไม่เอา ให้เอาไปไม่ต้อง ในวันนั้นดูใบแจ้งความและคิดเสมอว่ามันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งระหว่างนี้ยังไม่ได้ไปชี้แจง กับป.ป.ช.เนื่องจากยังไม่มีการเรียกตัวแต่ก็พร้อมที่จะไป ขอยืนยันว่าไม่เคยมีการห้ามเจ้าหน้าที่ไม่ให้ไปให้การกับตำรวจ แต่มีข้อมูลว่าฝ่ายของคนที่อยู่ จ.อุบลราชธานีมีการข่มขู่และสั่งเจ้าหน้าที่คนอื่นให้การตามที่ต้องการ

ด้าน นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความ กล่าวว่า ที่ผ่านมาแม้นายรัชฎาไม่มีการออกมาเคลื่อนไหว แต่ก็ดำเนินการมาโดยตลอด แต่กระบวนการเหล่านี้ก็ไม่สามารถเอามาเปิดเผยได้ ขอให้ไปพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม และทุกข้อหาทางนายรัชฎามีหลักฐานโต้แย้งกลับทั้งหมด โดยเฉพาะอยากให้ไปดูคลิปเสียงขณะที่มีการพูดคุยระหว่างนายรัชฎา และผู้ถือซองเงินก่อนการจับกุมว่ามีการพูดคุยอะไรกัน จะเป็นหลักฐานที่ตอบสังคมได้ดีที่สุด ว่าเป็นการเรียกรับ หรือไม่เรียกรับ หรือเป็นการเสนอให้ แล้วท่านปฏิเสธทั้งหมด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพิฏฐ์' เผยเคยยกประสบการณ์แนะนำ 'สามารถ' ก่อนจะถูกจับกุม แต่เขาไม่เชื่อ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ผมทราบข่าว สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ถูกตำรวจจับข้อหาฟอกเงิน กรณี ดิไอคอนกรุ๊ฟ และไม่ได้ประกันตัว

'ดีเอสไอ' จ่อบุกเรือนจำสอบปากคำ 'เจ๊พัช' ปมคลิปเสียงจ่ายสินบนดีเอสไอ 10 ล้าน

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคลิปเสียงสาวอ้างจ่ายเงิน 10 ล้านบาทให้ ดีเอสไอ

อสส. ตามเงินสินบน 10.46 ล้าน จากอดีตผู้ว่าการ ททท.-ลูกสาว คดีทุจริตจัดเทศกาลหนัง

งานโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงกรณีการติดตามเงินจำนวน 10.46 ล้านบาทจากผู้กระทำผิดจากโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพความว่า