'เสธ.นิด' ถามดังๆ อนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าสังคมไทยยอมรับนักการเมืองปลิ้นปล้อนเข้ามาบริหารประเทศ

29 เม.ย.2566 - จากกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเดินทางกลับไทยช่วงปี 2549 หลังเกิดการรัฐประหาร เพราะพูดหลายครั้งแต่ไม่ตรงกัน โดยให้สัมภาษณ์กับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เล่าถึงเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ว่า หลังจากเกิดการยึดอำนาจได้เดินทางมากับเครื่องบินของคณะที่ไปประชุมที่องค์การสหประชาชาติ มาลงที่กองทัพอากาศ แล้วถูกกักตัวข้ามวันจนไปงานศพพ่อไม่ทัน ซ้ำยังถูกอายัดบัญชีจนทำให้ต้องวิ่งวุ่นหาเงินมาจัดงานศพ แต่เคยให้สัมภาษณ์กับ "แหม่ม สุริวิภา" เมื่อปี 2552 ถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า หลังจากเครื่องลงที่กองทัพอากาศแล้ว ตนถูกกักตัวอยู่ประมาณ 4-5 ชั่วโมง แต่ก็ไปงานศพพ่อทัน

พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ บิดาของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ออกมาเปิดเผยว่านายพิธากุเรื่องทหารคุมตัวจนไปงานศพพ่อไม่ทัน และยังโกหกโดนอายัดบัญชีให้คนสงสารอีกด้วย ล่าสุด พลอากาศโทวัชระ โพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า

บอกกล่าวเรื่องคนนั้น    โกหก
หาใช่แสวงแสงตลก      เฟื่องฟ้อง
ฤๅหมายมั่นคนยก          ย่องชื่อ เสียงนา
เพียงแค่แจกแจงป้อง    คนปลิ้นปล้อนครอง เมืองแฮ

หากสากลเมื่อรู้            คงขำ
นักการเมืองไทยชำ      นาญปล้อน
พวกเขาย่อมเทียบคำ   ด้อยค่า สังคม
เสมือนว่าสิ่งสะท้อน     ต่ำต้อยวิสัย นิสัยไทย

ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไม “สังคมสะท้อนการรับรู้เรื่องนักการเมืองปลิ้นปล้อนสร้างเรื่องโกหกเพื่อประโยชน์ทางการเมืองนั้นกระจาย Viral อย่างกว้างขวาง” แต่ดี

จึงต้องชี้แจงว่า ผมเคยเป็นนักเขียนบทความให้ “หนังพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์มาก่อน เช่น มติชนยุคพี่เสถียร จันทิมาทร สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ยุค คุณรุ่งเรือง ปรีชากุล (ขอโทษครับที่อ้างถึง) ผู้จัดการรายวัน และหนังสือรายปักษ์ Vote ยุคคุณนพรัฐ พร่วนสุข ทั้ง ๔ หนังสือพิมพ์นี้มีคอลัมน์เป็นของตัวเองเป็นเวลากว่า ๑๐ ปี

ครั้นเมื่อสื่อ Hard Copies ถูกสื่อดิจิตอลเข้ามาแทนที่ ผมก็ไม่ได้เขียนลงหนังสือพิมพ์กระดาษแต่ใช้สื่อสังคมดิจิตอลแทนในการ “สำแดงความคิดเห็นทางการเมืองเพื่อสังคมการเมืองที่ดีมีธรรมาภิบาล” เป็นเรื่องปกติของผมครับ

ไม่เคยต้องการเป็นคนชื่อเสียง ไม่ต้องการพื้นที่ทางการเมือง ไม่มีความใฝ่สูงจะเป็นนักการเมือง
แต่กล้าพอที่จะออกไปเดินถนนร่วมการชุมนุมทางการเมืองเพื่อ “การเมืองที่ดี เหมาะสมกับสังคมไทย” จนถูกขึ้นศาล

“คิดเพียงแค่กันดีกว่าแก้ เมื่อชาติบ้านเมืองแย่เพราะวุ่นวาย จะแก้ก็แก้ไม่ทัน จะเกิดความวุ่นวายทั่วทั้งหย่อมหญ้า”

คิดกันดูเอาเองครับ อนาคตไทยจะเป็นอย่างไร หาก “สังคมไทยยอมรับนักการเมืองที่ปลิ้นปล้อนจนหลักฐานชัดเจนเช่นนี้เข้ามาบริหารประเทศชาติบ้านเมืองนี้”
ผมรับไม่ได้ครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กัดไม่ปล่อย! 'ก้าวไกล' ดัน พ.ร.บ.ฉุกเฉิน แทน พ.ร.ก. วัดใจรัฐบาลเพื่อไทย

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยสส.ของพรรคก้าวไกล แถลงการยื่นร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.บ.ฉุกเฉิน) สืบเนื่องจากการที่นายรอมฎอน

'ทั่นโตโต้' ออกโรงซัดศาลฎีกาวางบรรทัดฐานถูกแล้วหรือปมถอนสิทธิ 'ช่อ พรรณิการ์'

โตโต้แถลงปม ช่อ พรรณิการ์ ถูกศาลฎีกาฟันถอนสิทธิ์ลงเลือกตั้ง ถามใช้มาตรฐานจริยธรรมนี้เหมาะสมแล้วหรือ ชี้ กม.มีปัญหาลงโทษซ้ำซ้อน มองศาลไม่ควรตัดสินถูก-ผิด เพราะจะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อ

เกือบตกขบวน! พรรคก้าวไกลแถลงแล้ว ปม 'ช่อ พรรณิการ์' ตอกย้ำปัญหารัฐธรรมนูญ

เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า กรณีตัดสิทธินักการเมือง - อิทธิฤทธิ์ของกลไก “มาตรฐานทางจริยธรรม” ในรัฐธรรมนูญ 2560 และความจำเป็นในการปฏิรูปองค์กรอิสระ

'ช่อ พรรณิการ์' ลั่นภารกิจการเมืองยังเหมือนเดิมทุกประการ หลังถูกตัดสิทธิลงเลือกตั้งตลอดไป

ช่อ พรรณิการ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและความเป็นห่วงจากทุกๆ ช่องทางค่ะ คำพิพากษาศาลในวันนี้ เป็นการตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง หมายความว่า ลงสมัคร สส. หรือแข่งขันการเลือกตั้งทุกระดับไม่ได้ รับตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้

เดือด! ปิยบุตรซัดก้าวไกลไร้น้ำใจหุบปากเงียบเรื่องตัดสิทธิ 'น้องช่อ'

เอาแล้ว! ผู้นำจิตวิญญาณก้าวไกลจวกยับ พรรคไร้น้ำใจเหตุไม่แสดงความคิดเห็นเรื่อง ช่อ พรรณิการ์ เลย บอกรอ 1-2 วันนี้จะไลฟ์วิจารณ์คดีเอง