'สังศิต' ชี้ 3 ปัจจัยหลัก นำพาจีนพ้นความยากจนสำเร็จ

'สังศิต' ชี้ 3 ปัจจัยหลักสำคัญคือ แนวทางชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์อันเข้มแข็ง ระบบการศึกษา และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน นำพาจีนพ้นความยากจนสำเร็จ

26พ.ค.2566-ช่วงบ่ายวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม 2566 เวลา 16:20 นาฬิกา นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภาและคณะ เดินทางถึงมหาวิทยาลัยกว่างซี พบกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยกว่างซี ประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การแก้ไขปัญหาความยากจน และแนวทางว่าด้วยยุทธศาสตร์การฟื้นฟูชนบท โดยมี Mr.Fan Zuojun รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยกว่างซี และคณะให้การต้อนรับ

Mr.Fan Zuojun นำเสนอแนวคิด ข้อมูลการแก้ปัญหาความยากจนของจีนให้นายสังศิตและคณะกรรมาธิการฯ ว่า “มหาวิทยาลัยกว่างซีก่อตั้งเมื่อปี 1928 ปัจจุบันมีนักศึกษาประมาณ 40,000 คน มีอาจารย์ประจำ 3,600 คน มีทั้งหมด 26 คณะ 38 หลักสูตร ซึ่งนอกจากบทบาทและหน้าที่ในการดูแลนักศึกษาที่มีฐานะยากจนในมหาวิทยาลัยกว่างซีแล้ว มหาวิทยาลัยกว่างซียังมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนในมณฑลกว่างซีจ้วงตามนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยทางมหาวิทยาลัย ได้รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาความยากจนใน 6 หมู่บ้าน”

“มหาวิทยาลัยจะส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครนำเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆ ส่งเสริมการทำเกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมด้านการตลาดและยังนำผลผลิตทางการเกษตรมาสู่กลุ่มผู้บริโภคภายในมหาวิทยาลัยด้วย จนสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนในส่วนที่รับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วง ตามนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้สำเร็จ”

นายสังศิต กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารมหาวิทยาลัยกว่างซีกับคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลสีจิ้นผิงของประเทศจีน สามารถบรรลุภารกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศ จนส่งผลสะเทือนไปทั่วโลก สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้สำเร็จจาก 3 ปัจจัยสำคัญที่สุดคือ

1. บทบาทของพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีแนวทาง นโยบาย มาตรการ วิธีการ คำชี้แนะ และคำสั่งที่เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของประเทศจีน การมีองค์การจัดตั้งของพรรคฯ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน อำเภอ เมือง มณฑลจนถึงระดับชาติ การมีผู้ปฏิบัติงานและสมาชิกพรรคที่ทุ่มเทและเสียสละเพื่อประชาชน เพื่อชาติและเพื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างถึงที่สุด

2. การสร้างระบบการการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของโลกควบคู่กันไปกับการเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาและส่งเสริมคุณภาพทางการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษาให้กว้างขวางมากที่สุด ด้วยระบบการอบรมการศึกษาและวิธีการศึกษาแก่นักศึกษาที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงแบบจีน และ

3. การส่งเสริมและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาทุกๆ ด้านของสังคม ตั้งแต่การพัฒนาด้านการเกษตรในระดับหมู่บ้านที่มีการนำเทคโนโลยีระดับสูงเข้ามาช่วย การตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อการแปรรูปสินค้าเกษตร และการตลาดทั้งภายในประเทศและตลาดโลก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สร้างเสริมสุขภาพสู่ชุมชน ต่อยอดตลาดระดับโลก “HealthTech X 2” นวัตกรรมลดความเหลื่อมล้ำ

ในโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดูแลสุขภาพไม่อาจจำกัดอยู่เพียงในโรงพยาบาลอีกต่อไป แต่ต้องเริ่มต้นจาก “ชุมชน” และ “ตัวเราเอง” เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสุขภาพเล็กๆ

'สังศิต' เรียกร้องนักการเมืองกล้าหาญทางจริยธรรมนำ 'สปิริตแบบพระเจ้าตาก' ค้ำจุนนาวาไทย

ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เผยแพร่บทความเรื่อง สปิริตแบบพระเจ้าตาก มีเนื้อหาดังนี้

'ดร.สังศิต' แพร่บทความ สถานบันเทิงครบวงจร : มุมมองด้านเศรษฐกิจ

รศ.ดร. สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมลํ้า วุฒิสภา เผยแพร่บทความ เรื่อง สถานบันเทิงครบวงจร : มุมมองด้านเศรษฐกิจ มีเนื้อหาดังนี้

'ดร.สังศิต' แพร่บทความ เบื้องหลังความสำเร็จของ 'Deepseek' ที่ไม่มีใครบอก

รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)เผยแพร่บทความเรื่อง เบื้องหลังความสำเร็จของ Deepseek ที่ไม่มีใครบอก มีเนื้อหาดังนี้

'ดร.สังศิต' แพร่บทความ 'ปีศาจพนันแห่งเมืองฟ้าอมร' ตามหลอกหลอนถึงไทยแล้ว

รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย ธุรกิจใต้ดิน มาหลายสิบปีตั้งแต่สมัยเป็นผอ.ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และทำวิจัยเรื่องการเปิดกาสิโนในประเทศไทย เพยแพร่บทความ เรื่อง ปีศาจพนันแห่งเมืองฟ้าอมร มีเนื้อหาดังนี้