'ประธานสภา' ชี้ชะตา 'ก้าวไกล' ส่อเค้าลางเป็นฝ่ายค้าน

26 พ.ค. 2566 – นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กกต. ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ละพรรคได้ ส.ส.ไม่ต่างจากตัวเลขก่อนหน้านี้

การจัดตั้งรัฐบาลจึงอยู่ใน 3 สูตร แต่ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ

~ก้าวไกล+เพื่อไทย เป็นแกนร่วมกับพรรคพันธมิตร 312 เสียง

~เพื่อไทย+ภูมิใจไทย+พลังประชารัฐ เป็นแกน 252 เสียง ร่วมกับพันธมิตร

ส่วน รทสช. เป็นฝ่ายค้านทุกกรณี

ขณะนี้ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ลงตัว ตรงที่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องเป็นกลาง และต้องเป็นประธานของทุกพรรคและของสมาชิกทุกคน ไม่ใช่เป็นประธานของพรรคการเมืองใด ดังที่เข้าใจผิดกัน

เพราะเหตุนี้กฎหมายจึงบัญญัติให้เลือกตั้งประธานโดยการลับ และไม่อยู่ใต้อาณัติของมติพรรค ส.ส. ทุกคนจึงลงมติลับโดยอิสระ

ประชาชนเลือกตั้งให้พรรคการเมืองที่ได้รับฉันทามติจัดตั้งรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งมุ่งเน้นที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าอำนาจบริหาร

ดังนั้น ถ้าไม่เคารพฉันทามติของประชาชน มุ่งจะยึดตำแหน่งประธานสภา เพื่อทำหน้าที่ผลักดันนโยบายของตัวเอง ก็ย่อมเข้าป่าออกนอกหลักประชาธิปไตย และหลักรัฐธรรมนูญ

เพื่อเคารพต่อฉันทามติของประชาชน จึงต้องดำรงความมุ่งมั่น ที่จะปฏิบัติภารกิจที่สัญญาไว้กับประชาชน ไม่ให้ตำแหน่งประธานสภาทำลายฉันทามตินั้นเสีย

ได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร อาจจะทำให้พรรคก้าวไกลต้องเป็นฝ่ายค้าน และจะเป็นฝ่ายค้านที่ประชาชนผิดหวัง!!!