'ประสิทธิ์ชัย' งัดผลการศึกษากัญชา ตอกหน้า 3 พรรคอย่าอิงกระแส มากกว่า 'ข้อเท็จจริง'

“ประสิทธิ์ชัย” งัดผลการศึกษากัญชาอย่างเป็นระบบ ฉบับ กมธ.สาธารณสุข ดึงสติ 3 พรรค อย่าอิงกระแสมากกว่าข้อเท็จจริง ตัดสินใจบนผลประโยชน์การเมือง แม้ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง

29 พ.ค.2566 - นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์เฟซบุ๊กโดยหยิบยก รายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่อง “การศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างเป็นระบบ” โดย คณะอนุกรรมาธิการพิจารราศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างเป็นระบบ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหาแนวทางการไขปัญหาเกี่ยวกับใช้กัญชา กัญชง และกระท่อมอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ขึ้นมาประกอบ

นายประสิทธิ์ชัย ระบุว่า นักการเมืองอย่างไรเสียก็ตัดสินใจนโยบายตามผลประโยชน์ทางการเมือง กรณีกัญชานั้นชี้ให้เห็นความกลับกลอกของนักการเมืองได้เป็นอย่างดี พวกเขาพูดอย่างหนึ่งแล้วก็เปลี่ยนไปในเวลาไม่กี่เดือน พวกเขาตัดสินเรื่องกัญชาโดยละทิ้งข้อเท็จจริง

นายประสิทธิ์ชัย ระบุว่า สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติตั้ง กมธ.ขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อ 'ศึกษาปัญหา กัญชา กัญชง กระท่อม' โดยการศึกษาของ กมธ.ชุดนี้มีข้อสรุปร่วมกันว่า 'ต้องเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติด' และ ยังเสนอแนวทางของการนำประโยชน์จากกัญชามาใช้อย่างเป็นระบบ พวกเขาลงมติกันเป็นที่เรียบร้อยว่า 'ต้องเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติด' พอมาถึงวันนี้พวกเขา 'เปลี่ยนมติของตัวเอง' ซึ่งกรรมาธิการชุดนี้มิได้มีเฉพาะ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนพรรคการเมืองเท่านั้น แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญหลากหลายเข้ามาร่วม ฉะนั้นงานศึกษาชิ้นนี้จึงทำอย่างเป็นระบบ ภายใต้มาตรฐานการทำงานของกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร

นายประสิทธิ์ชัย ระบุ คำถามคือ 3 พรรคการเมืองกลับลำจากงานการศึกษาที่ตัวเองมีส่วนในการศึกษาและลงมติไว้  พรรคก้าวไกล - เพื่อไทย - ประชาชาติ มีแนวทางร่วมกันว่า ต้องเอากัญชาสู่ยาเสพติด เป็นการประกาศนโยบายสวนทางกับที่ตัวเองศึกษาและลงมติเอาไว้ สิ่งที่หนักหนาสาหัสกว่านั้นก็คือว่า การทำงานของพรรคการเมืองยึดถือผลประโยชน์พรรคเป็นหลัก การตัดสินใจไม่ได้ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง แม้กระทั่งสิ่งที่ตัวเองลงมติไว้ยังกลับลำได้

"ถ้าหากการกลับลำนั้นเป็นการค้นพบข้อเท็จจริงใหม่ที่ร้ายแรงกว่าวันที่ กมธ.ลงมือศึกษานั้นย่อมรับได้ แต่นี่เปล่าเลย นั่นแสดงให้เห็นว่า พรรคการเมืองตัดสินใจบนฐานคะแนนเสียงไม่ใช่ข้อเท็จจริง พฤติกรรมนี้ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคที่สถาปนาตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย 3 พรรคการเมืองนี้ การตัดสินใจเรื่องกัญชามิใช่เป็นไปด้วยความไม่รู้แต่ตัดสินใจบนผลประโยชน์ทางการเมือง แม้ว่าต้องกลืนน้ำลายตัวเอง” เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าว

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวด้วยว่า ประเทศนี้จะไม่สามารถผลิตนโยบายที่มีประสิทธิภาพแก้ปัญหาประเทศได้จริงหากฐานตั้งต้นไม่ได้เกิดจากข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน กับวันนี้ที่เราวาดหวังว่ากระบวนการทางนโยบายจะเปลี่ยนแปลง กระบวนการทางนโยบายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หากยึดถือกระแสมากกว่าข้อเท็จจริง การเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นจากกระบวนการไม่ใช่กระแส เมื่อผลการสำรวจความเห็นของคนส่วนใหญ่บอกว่าไม่เอากัญชา พรรคเหล่านี้ก็เดินตาม โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงที่ศึกษาไว้แล้ว ฉะนั้นเมื่อกระดุมเม็ดแรกติดผิดพลาดตลอดเส้นทางก็จะเต็มไปด้วยความผิดพลาด วิธีแก้ปัญหาแบบนี้คืออย่าดึงดันอีกต่อไปและให้หันกลับมาเริ่มต้นที่กระดุมเม็ดแรกเสียใหม่ นั่นคือ กลับมาพิจารณาที่ข้อเท็จจริง ได้โปรดหันกลับมาเถอะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชัยธวัชมา-ปดิพัทธ์..? กับทางออก เก้าอี้รอง ปธ.สภาฯ

ก่อนที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะนำชื่อ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อให้ทรงแต่งตั้งเป็น ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทางประธานสภาฯ คงรอให้ได้ข้อยุติในเชิงข้อกฎหมายเสียก่อน ถึงจะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย

‘ไอติม’ ร่ายแผนก้าวไกล ชูทลาย 5 มายาคติ ดันฝ่ายค้านเปลี่ยนแปลงปท.

‘พริษฐ์’ร่ายแผนก้าวไกล ใช้กลไกสภาขับเคลื่อนความหวัง-ความฝันของปชช. หวังทลายมายาคติ 5 ข้อ ลั่น แม้เป็นฝ่ายค้านก็เปลี่ยนแปลงประเทศได้

'วิษณุ' ปิดประตู ไม่ร่วมสังฆกรรม คณะแก้รัฐธรรมนูญชุดเพื่อไทย

“วิษณุ” ไม่รับร่วมคณะแก้รัฐธรรมนูญชุดภูมิธรรม แต่พร้อมให้คำปรึกษาเป็นกรณี เหตุวันนี้สบายใจ –พ้นออกมาแล้วไม่อยากกลับไปเป็นบุุคคลสาธารณะ

เปิดชื่อ กก.บห.ก้าวไกล ชุดใหม่ 'ชัยธวัช' แจงแค่ปรับทัพชั่วคราว ยินดีสละเก้าอี้เมื่อพิธาได้กลับเข้าสภา

ที่อาคารไทยซัมมิท มีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกล วาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่