'จตุพร' แฉ 'เพื่อไทย' กินรวบ ชี้ละครที่ใกล้จบก็ต้องจบ ถูกกวาดเรียบกันทั้งโรง

“จตุพร” อ่านไต๋เพื่อไทย เย้ยเกมเล่ห์เพทุบาย กดดันหักหลังแย่งชิง “ปธ.สภา” ตลบตะแลงรุกกินรวบถึง “นายกฯ” สลัดก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน เชื่อแอบจับมือฝ่าย 188 เสียงเกือบทุกพรรคตั้ง รบ. ลงท้ายกรรมตามสนอง อำนาจอยู่ไม่นาน หนีถูกจัดการยุบพรรคล้มโรงละครการเมืองแตกกระเจิง

30 พ.ค.2566-นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ละครใกล้จบ…” โดยเชื่อว่า พฤติกรรมพรรคเพื่อไทยหักหลังแย่งชิงกินรวบทั้งประธานสภาและนายกฯ เป็นเล่ห์เพทุบายเอารัดเอาเปรียบเพื่อน จะลงท้ายด้วยการถูกจัดการไปด้วยเช่นกัน

นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์ของพรรคร่วม 8 พรรคตั้งรัฐบาลนั้น พรรคเพื่อไทยแสดงพฤติกรรมต้องการกินรวบทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรและนายกฯ โดยพรรคก้าวไกลจะไม่เหลืออะไรเลย พร้อมทั้งจะถูกสลัดให้เป็นฝ่ายค้านด้วย
ขณะนี้พรรคเพื่อไทยเร่งเกมจะเอาประธานสภาให้ได้ เนื่องจากใกล้วันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องรับรอง ส.ส. อีกทั้งเชื่อว่าสถานภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะถูกรับรองให้เป็น ส.ส.ไปก่อน แล้ว กกต.จึงยื่นศาล รธน. กรณีถือหุ้น ไอทีวี ดังนั้น ทางเลือกของนายพิธา มีเพียงถูกศาลสั่งให้ยุติปฎิบัติหน้าที่หรือให้ทำหน้าที่ ส.ส.ไปก่อนได้

สิ่งที่สำคัญค่อนข้างแน่ชัดคือ นายพิธา จะไม่ได้ทำหน้าที่ในวันโหวตเลือกประธานสภา หรือเมื่อถูกสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่แล้ว ย่อมลามไปถึงพรรคก้าวไกลไม่มีตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ด้วย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายกินรวบเสียเอง จึงต้องเร่งเกมเอาประธานสภาเสียเอง

“ความจริงแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่ออกอาการความอยากก็ได้ โดยยืนรอก็จะได้ตำแหน่งนายกฯ อยู่แล้ว แต่ต้องเร่งเอาประธานสภา เพราะถ้าเกิดนายพิธา ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทยยิ่งไม่มีสิทธิ์ได้ประธานสภา จึงต้องรีบชิงเอามาให้ได้ก่อน”

อีกทั้ง เห็นว่า การผลักให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านนั้น สถานการณ์เริ่มบ่งชัดขึ้นตามลำดับ ว่าพรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายไปจับมือเกือบทุกพรรคในฝ่าย 188 เสียงตั้งรัฐบาล ดังนั้น ละครการเมืองนี้ รอเพียงจะถึงวันต้องจัดการทางการเมืองอยู่แล้ว และ 312 เสียงจะจบลงในวันที่มีการเลือกประธานสภาเมื่อพรรคเพื่อไทยฮุบชิงมาไว้กับตัวเองอย่างเบ็ดเสร็จ

นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร บอกงงๆ กับการดีลลับข้ามขั้วตั้งรัฐบาลที่นัดหารือกันที่สิงคโปร์นั้น แสดงถึงไม่มีความจริงใจ แต่การขยับเกมชิงประธานสภา กลับสะท้อนถึงความอยากเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกลได้ชัดเจน

ดังนั้น หากนายพิธา เจอเหตุการเมืองถึงขั้นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว จำเป็นต้องยึดเอาประธานสภา ไว้ที่พรรคก้าวไกล มิเช่นนั้นแล้วพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายกินรวบ พฤติกรรมการเมืองเช่นนี้ จึงเป็นเกมการเมืองที่กะล่อนของพรรคเพื่อไทยได้กระจ่างแจ้งอย่างยิ่ง

ส่วนเสียงเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลนั้น นายจตุพร มั่นใจว่า จำนวน 312 เสียงจาก 8 พรรคตั้งรัฐบาลไม่ได้ มีทางเดียวที่จะตั้งรัฐบาลได้คือการข้ามฟากไปจับมือกับ 188 เสียง แต่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศเหมือนพรรคก้าวไกลในช่วงหาเสียงเช่นกัน จะไม่จับมือกับพรรคทำรัฐประหาร

นายจตุพร กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยจะรับกับพฤติกรรมนี้ได้หรือไม่ ซึ่งไม่น่ารับได้ ดังนั้น การเมืองควรเป็นเรื่องตรงไปตรงมา มีความเป็นสุภาพบุรุษ แต่การเอารัดเอาเปรียบทางการเมืองต้องไม่แสดงให้คนรุ่นหลังได้เห็นด้วยเล่ห์เพทุบาย ซึ่งใครก็อ่านกันทัน เพียงประชาชนจะถูกตบตาด้วยการแต่งเรื่องด้วยละครต่างๆ แล้วพรรคก้าวไกลจะถูกทิ้งให้เป็นฝ่ายค้าน

“การได้อำนาจทางการเมืองด้วยการหักกันแบบนี้ จะทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้แล้วจะอยู่ได้หรือไม่ และอยู่ได้นานหรือไม่ เพราะถ้ากระทำในสิ่งเหล่านี้ครั้งหน้าพรรคก้าวไกลจะได้รับเลือกตั้งแบบถล่มทลาย และที่สำคัญหลังจากลงมือจัดการกับเพื่อนแล้ว ไม่ได้หมายความว่าตัวเองจะรอด แล้วก็จะถึงคิวตัวเองถูกจัดการเช่นกัน”

ส่วนการยุบพรรคเพื่อไทยนั้น นายจตุพร เชื่อว่า สถานการณ์วันนี้จะชะลอไว้เพื่อให้พรรคเพื่อไทยไปจัดการพรรคก้าวไกลให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วก็ถึงคิวจัดการพรรคเพื่อไทยลำดับถัดไป อย่างไรก็ตาม ถ้าพรรคเพื่อไทยชิงเอาประธานสภาได้แล้ว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเกิดวิบากกรรมทันทีเมื่อถูกยุบพรรค แล้วพรรคเพื่อไทยจะเละเทะ ส.ส.จะทยอยออกไปสังกัดพรรคใหม่

พร้อมกับเห็นว่า หากพรรคเพื่อไทยได้อำนาจมาด้วยการตลบตะแลงปลิ้นปล้อนแล้ว ก็จะรักษาอำนาจไว้ไม่ได้ และไม่มีใครชื่นชมคนที่หักหลังเพื่อนเพื่อชิงอำนาจมาเป็นของตัวเอง อีกทั้งกองเชียร์เสื้อแดงที่อ้างเป็นตัวแทน 10 ล้านคนเลือกพรรคเพื่อไทย ย่อมทำให้ทุกอย่างเห็นร่องรอยความงงของเจ้าของพรรคได้ชัดเจนว่า มีเจตนาจะแยกทางกับพรรคก้าวไกล

นายจตุพร กล่าวว่า พฤติกรรมหักหลังเพื่อนชิงอำนาจรัฐบาลจากพรรคก้าวไกลนั้น ไม่แตกต่างจากเรื่องราวในอดีตที่ทักษิณ เอาคนเสื้อแดงไปต่อรองแลกกับการกลับบ้าน ดังนั้น เพื่อไทยต้องการสลัดพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ต้องคิดเป็นอื่นเลย เพราะเจ็บแค้นที่แพ้ก้าวไกล และตั้งแต่ตั้งพรรคการเมืองเลือกตั้งยังไม่เคยได้ที่สองเลยสักครั้งนับตั้งแต่พรรคไทยรักไทยจนมาถึงเพื่อไทย

“สิ่งสำคัญคือ การระบายแค้นที่พ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยนั้น กลับไปเป็นแรงสร้างพรรคก้าวไกลให้เติบโตยิ่งขึ้น แล้วเพื่อไทยจะเหลือกี่เสียงในการเลือกตั้งคราวหน้า และถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลย่อมเป็นความฉิบหายทั้งปวงของพรรคเพื่อไทย จะไปที่ไหนต้องอับอายประชาชน เพราะมีพฤติกรรมหักหลังชิงอำนาจจากเพื่อน แบบนี้คงไม่มีใครคบด้วย แล้วละครที่ใกล้จบก็ต้องจบลงจริงๆ เมื่อถูกกวาดเรียบกันทั้งโรง” .

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

สส.ระยอง ก้าวไกล ตั้งข้อสงสัยวางเพลิงโรงงานเก็บสารเคมี 'วิน โพรเสส' จี้รัฐบาลตรวจสอบ

นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีของบริษัท วินโพรเสส จำกัด ว่า ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ตนได้ลงพื้นที่จุดหลังเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเวลา 22.00 น.

'ก้าวไกล' ชูร่างกฎหมายจัดระเบียบกลาโหม ปฏิรูปกองทัพ คืนอำนาจให้รมต.

ร.ท. ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแนวคิดการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม และกฎหมายศาลทหาร

'ธนาธร' ปลุกหนักมาก! ชวนลงสมัคร 'สว.ประชาชน' เข้าไปรื้อรัฐธรรมนูญ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงเปิดตัวแคมเปญ ‘สว.ประชาชน’ ของคณะก้าวหน้า ว่า คณะก้าวหน้าเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง สว.ในเดือน พ.ค.-มิ.ย.ที่จะมาถึง จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้มาร่วมกันลงสมัคร สว.

โปรดทราบ! 'วันนอร์' ลั่นตำแหน่งประธานสภาฯ หากไม่ได้ลาออก ใครก็เปลี่ยนไม่ได้

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้การต้อนรับสมาชิกพรรคประชาชาติ จากกรุงเทพฯ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และนนทบุรี จำนวน 400 คน