โอกาสมาแล้ว! ผอ.สาธิตธรรมศาสตร์ ชี้ 'หยก' อารยะขัดขืน ต่อสู้กติกาไม่เป็นธรรม

19 มิ.ย.2566 - อธิษฐาน์ คงทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กชื่อ Apple Kongsup ต่อกรณี หยก ธนลภย์ อายุ 15 ปี ว่า เราคิดว่าประเด็นของน้องหยก เขาไม่ได้อยากย้ายโรงเรียนนะ การย้ายโรงเรียนไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ ไม่ได้จบปัญหานี้ เพราะกฎเดิมในระบบกระแสหลักไม่เปลี่ยนแปลง (จะยังคงมีนักเรียนอีกหลายคนที่ถูกทำโทษเรื่องการแต่งกาย ถูกทำให้อับอายหรือกดดัน) และประเด็นจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องการแต่งกายหรือทรงผมด้วย (อย่าหลงประเด็นกันนะพวกเรา)

มันคือเรื่องของการต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อเรียกร้องกติกาที่เป็นธรรมกับนักเรียนทุกคน (ถ้าเขาแค่อยากแต่งไปรเวทไปเรียนเพื่อตัวเอง มันมีทางเลือกอื่นๆ ให้เขาทำได้โดยไม่ต้องเปลืองตัว ไม่ต้องถูกสังคมรุมประนามตัดสินได้อีกมากมาย)

เราคิดว่าน้องเขากำลังใช้การฝ่าฝืนกฎการแต่งกายเป็นเครื่องมือการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ ในทางสันติวิธีเรียกว่า “อารยะขัดขืน” คือต่อสู้แบบดื้อเพ่งเพื่อต่อต้านกฎหมายหรือกติกาที่ไม่เป็นธรรม เพื่อให้สังคมและผู้มีอำนาจหันมาฟัง หันมารับรู้และถกเถียงกันถึงความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ภายใต้กติกากฎระเบียบที่คนส่วนใหญ่คิดว่ามันปกติ และเกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อร่วมกันสร้างกติกาใหม่ที่เป็นธรรมยิ่งกว่าเดิม (มีคนบอกว่าหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้หยกตัดสินใจออกมาเรียกร้อง คือข่าวที่น้องนักเรียนคนหนึ่งฆ่าตัวตายเพราะถูกบังคับให้ตัดผม)

แทนที่จะชี้นิ้วโทษเด็กอายุ 15 แล้วไล่เขาไปโรงเรียนอื่น หรือมาสั่งมากดดันให้โรงเรียนอื่นรับน้องเข้ามา (เรายังงงๆ ว่าคนพวกนี้เขามีอำนาจอะไรที่มาสั่งให้โรงเรียนอื่นรับหรือไม่รับใคร ไหนบอกตัวเองเคารพกฎกติกาโรงเรียน??) ทำไมเราไม่เอะใจกับปัญหา แล้วหันมามองว่ามันมีความเป็นไปได้อื่นๆ อะไรได้อีกบ้าง ที่จะช่วยให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาที่ดี มีส่วนร่วมในการทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนได้จริงๆ

ท่าทีของน้องอาจจะดูแข็งกร้าวจี๊ดดใจ ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนปั่นป่วน เขย่าโลกแห่งความดีงามและความเชื่อว่าเด็กต้องเคารพและเชื่อฟังผู้ใหญ่ หลายคนมีความกลัวที่จินตนาการไปไกลว่าต่อไปเด็กๆ ทุกคนจะลุกขึ้นมาเรียกร้องทำตามใจตนเองไม่เคารพสิทธิ์คนอื่นไม่เคารพกติกาสังคม ฯลฯ มีความกลัว+ความโกรธอีกมายมายที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาจากเหตุการณ์นี้ และหลายสิ่งที่เรากลัวก็เป็นสิ่งที่เราคิดอนุมานเอาเองโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ดราม่าจึงบังเกิด

เราเคยคุยกับครูที่ตั้งใจทำงานในระบบโรงเรียนรัฐหลายคน ครูหลายคนก็อึดอัดใจและมีความอิหยังวะกับระเบียบราชการหรือธรรมเนียมปฏิบัติหลายอย่างที่ไม่ make sense และไม่เป็นธรรมกับครู (คือมันอาจจะดีในยุค 30-50 ปีก่อน แต่ตอนนี้มันอาจจะไม่ใช่แล้ว) แต่เขาก็ไม่กล้าพูดเพราะมันมีความเสี่ยงต่อหน้าที่การงานความมั่นคงหลายอย่างของชีวิต แต่สำหรับเด็กวัยรุ่นอย่างหยก เขากล้าที่จะแลกและไม่กลัวที่จะเสี่ยง (จำได้ว่าเราในวัยเท่าเขายังไม่กล้าขนาดนี้ ออกแนวเด็กดีเชื่องและเชื่อฟัง สมาทานกับสิ่งที่ผู้ใหญ่บอกว่าดีจงทำตาม คือวันๆ ในวัยนั้นคิดแต่จะไปถึงโรงเรียนทันไหม ส่งการบ้านทันไหม จะสอบผ่านไหม เพื่อนจะคิดยังไง ครูจะด่าไหม จะได้เกรดดีไหม ไม่เคยรู้เรื่องโครงสร้างสังคมเรื่องความเป็นธรรมอะไรเลย เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เคยถูกพูดถึงหรือถูกตั้งคำถามในโรงเรียน)

ปล. นี่เพิ่งเรียนเรื่องทักษะวัฒนธรรมมาเขาชี้ให้เห็นอคติ/ความเชื่อของผู้คนว่ามันทำงานอัตโนมัติอย่างไร หลายครั้งคนคิดว่าสิ่งที่ตนคิดและอนุมานเอาคือ ความจริง +อคติที่มีอยู่เดิม (ทั้งด้านบวกด้านลบ) ทำให้ยิ่งปักใจเชื่อสุดๆ และตัวเราเองในฐานะคนทำงานต้องตระหนักรู้ตัว เราเองก็มีอคติไม่ต่างจากคนอื่นแต่ขอให้ทันตัวเอง อย่าปักใจเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองคิดถูกต้องที่สุด ก็ถือว่าได้ฝึกจิตฝึกใจ ฝึกวิชากับดราม่าของสังคมของจริงอ่ะเนอะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน

พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

กูรูใหญ่โชว์กึ๋น ’อุทธรณ์คดี112’ ข่มเหงรังแก ‘ทักษิณ’ เพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่!

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่าเล่นงานทักษิณกัน จนกระแสนิยมพลิกกลับไปสู่พรรคเพื่อไทยแล้ว จะได้ผลตรงกันข้าม ทำให้ทักษิณกลายเป็นวีรบุรุ

คดี112 ประธานผู้ลี้ภัย โวยกฎหมายโบราณกลั่นแกล้งทักษิณ

นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน ปัจจุบันลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์เ

'เอ็ดดี้' สุดทน! แฉความต่ำทรามของพวกบ่อนทำลายสถาบัน เหยียบย่ำหัวใจคนทั้งชาติ

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ อินฟลูเอนเซอร์ทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "เสรีภาพ" ที่เหยียบหัวใจคนอื่น ไม่ใช่เสรีภาพ

'โรม' ลั่นไม่กังวลคดี 44 สส. อย่าเพิ่งตั้งธงว่าจะโดน ป.ป.ช. ฟันแน่นอน

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า คดี 44 สส. ของอดีตพรรคก้าวไกล กรณีลงชื่อแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 จะสามารถ สรุปได้ในเดือนธ.ค.นี้ ว่า เรายืนยันเรื่องความบริสุทธิ์ของเรา ว่าการทำหน้าที่ของสส. ของพรรคก้าวไกลเดิมไม่ได้ผิดกฎหมาย และจริยธรรม ยืนยันว่าทุกสิ่งไม่ได้ไปแอบทำ แต่เป็นเรื่องความโปร่งใส ที่พยายามทำหน้าที่สส.ในอำนาจนิติบัญญัติ เมื่อเราดำเนินการแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จทันที แต่ต้องมีการถกเถียงกันในสภา และมีขั้นตอนอีกพอสมควร ซึ่งยังไปไม่ถึงขั้นนั้นเพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น มองว่าไม่สามารถบรรจุวาระดังกล่าวได้