
7 ก.ค. 2566 – เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 3 พรรคก้าวไกล ว่าได้กล่าวคำปฏิญาณตนครบในเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 แล้วนั้น หลังจากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.66 ต่อมามีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.66 เป็นต้นไป
ซึ่งก่อนหน้านั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีหนังสือถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน เพื่อให้เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ในวันอังคารที่ 4 ก.ค.66 เวลา 9.30 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญเรื่องที่ 1 คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามมาตรา 115 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ก่อนที่จะพิจารณาในวาระอื่นๆ ต่อไป โดยมีการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ รวมทั้งทีวีของรัฐสภาด้วย
แต่ปรากฏว่า ในขณะที่ประธานในที่ประชุมได้แจ้งให้ ส.ส.ทุกคนได้ปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามมาตรา 115 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อโทรทัศน์และหรือระบบสารสนเทศต่างๆ นั้น กล้องบันทึกเทปโทรทัศน์ได้ซูมภาพไปยัง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และสมาชิกสภาผู้แทนรายอื่นๆ ปรากฎว่า น.ส.ศิริกัญญาไม่ได้แสดงกริยาว่าได้เอ่ยปากปฏิญาณตามถ้อยคำที่รัฐธรรมนูญบัญญัติแต่อย่างใด แต่หันไปแสยะยิ้มกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น
“กรณีเยี่ยงนี้ หากเป็นจริง จะถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก เนื่องจากการปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่นั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติไว้ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องปฏิญาณตน ในที่ประชุมแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกด้วยถ้อยคําตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ทุกถ้อยคำ จะขาดจะเกินไปเพียงถ้อยคำหนึ่งถ้อยคำใดมิได้ เพราะเป็นสาระสำคัญที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวทุกคนต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด หากละเลย เพิกเฉย หรือทำเป็นเล่นๆ ก็อาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดได้” นายศรีสุวรรณ ระบุ
ด้วยเหตุดังกล่าวองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความพร้อมคลิปวิดีโอมามอบให้ ป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบและพิสูจน์ให้ชัดฝ่าเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่อย่างไร หากพิสูจน์แล้วเป็นไปตามข้อเท็จจริงให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่จนถึงที่สุดต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พวงเพ็ชร’ฐานะสุดอู้ฟู่ ‘สหายอ้วน’มีแค่10ล้าน
เปิดทรัพย์สินรอบ 9 ปี "อนุพงษ์-ภริยา" มี 34 ล้านบาท "เฉลิมชัย" ทะลุร้อยล้าน "เอนก" รวยเงียบ 148 ล้าน
ฟัน4สรรพากร รํ่ารวยผิดปกติ ยักยอกภาษีคืน
ป.ป.ช.ฟัน 4 ขรก.สรรพากร ร่ำรวยผิดปกติ 2,085 ล้าน ยักยอกเงินคืนภาษี
ป.ป.ช. ฟัน 4 ขรก.สรรพากร 'ร่ำรวยผิดปกติ' โกงเงินคืนภาษี 2 พันล้าน
นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงถึงมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
‘ชลน่าน’ โยน กก.บห.เพื่อไทย เคาะเสนอร่างนิรโทษฯ ประกบ ‘ก้าวไกล’ หรือไม่
นพ.ชลน่าน ระบุให้ กก.บห.เพื่อไทยเคาะเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ประกบร่วมกับของพรรคก้าวไกลหรือไม่
เปิดเซฟ '3 รมต.' บิ๊กเพื่อไทย 'พวงเพ็ชร' อู้ฟู่สุด 871 ล้าน
ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน 3 รมต. เพื่อไทย 'ภูมิธรรม' รวย 49 ล้าน 'พวงเพ็ชร' อู้ฟู่ 871 ล้าน บ้าน 9 หลัง 333 ล้าน 'จักรพงษ์' มี 56 ล้าน ปล่อยกู้บริษัทบิดา 20 ล้าน มีพระสมเด็จ 7 ล้าน
'บิ๊กป๊อก' นั่ง รมว.มหาดไทย 9 ปี จนลง 3 ล้าน!
ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน 'อนุพงษ์' รอบ 9 ปี มี 34 ล้านบาท ที่ดิน 6 แปลง 4.9 ล้าน บ้านพักตึก 2 ชั้น 5 ล้าน รถยนต์ 5 คัน 3.1 ล้าน มีนาฬิกาหรู 2 เรือน จักรยาน 2 คัน ปืน 21 กระบอก