'ทนายอั๋น' ควงมือต่อยศรีสุวรรณวอนศาล รธน.ปัดตกคำร้อง กกต.ฟัน 'พิธา'

'ทนายอั๋น' ควงลุงศักดิ์ ยื่นหนังสือวอนศาลรัฐธรรมนูญปัดตกคำร้อง กกต.ยื่นวินิจฉัย 'พิธา' ถือหุ้นสื่อ พร้อมเดินหน้าเอาผิดมาตรา 157 กับกกต.

13 ก.ค.2566 - ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ ซึ่งเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณ จรรยา เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ยกคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการถือหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) พระราช​บัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 (3) หรือไม่ โดยอาศัยเหตุแห่งรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ ซึ่งนายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่ามาตรา 82 วรรคสี่บัญญัติว่า กรณีที่ กกต.เห็นว่า ส.ส. หรือ ส.ว. คนไหนมีสมาชิกภาพสิ้นสุดลง ให้ กกต.ส่งเรื่องยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กกต.ต้องดำเนินการภายใต้ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน วินิจฉัยชี้ขาดมาแล้ว แต่ที่ตนและคนไทยเคลือบแคลงสงสัยคือ กกต.ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ระเบียบวิธีการดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ เพราะเรื่องการไต่สวน สอบสวนนั้นระบุชัดเจนว่า ต้องเป็นการรวบรวมหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย พิสูจน์ความผิด และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายพิธา แต่จะเห็นว่า กกต.ไม่ได้ดำเนินการในส่วนนั้น ดังนั้นจึงมายื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยเรื่องนี้อย่างละเอียด เอาหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งมวล รักษาไว้ซึ่งมาตรฐานความยุติธรรม เพื่อความสุขแก่คนไทย

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้หลักฐานที่ กกต.ส่งมาที่ศาลรัฐธรรมนูญนั้น มีเพียงข้อมูลในส่วนของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ, นายศรีสุวรรณ จรรยา, นายเสรี สุวรรณภานนท์ และนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ที่ยื่นมาเท่านั้น ส่วนที่ตนเองยื่น 2-3 ครั้งที่ผ่านมา อาจจะมีการรวมส่งมาด้วย แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะรวมส่งมา วันนี้จึงนำเอกสาร ประกอบด้วย กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด ปี 2561 มายื่นถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อประกอบกาพิจารณาวินิจฉัยปัดตกคำร้องของ กกต.ด้วย ซึ่งทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมในวันที่ 19 ก.ค.นี้

เมื่อถามว่ามองเรื่องนี้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า สิ่งที่เขาคิดนั้น ตนเองคิดไม่ทัน เพราะหัวใจคนละอันกัน แต่สิ่งที่เห็นคือการทำไม่ถูกต้องตามระเบียบ ขั้นตอนที่ควรจะเป็นไป ซึ่งได้ต่อสู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น แม้ว่าอาจจะไม่ได้มาในฐานะของนายพิธา แต่มาในฐานะของพลเมือง ที่เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ถือว่าสิ้นสุดประบวนการที่อาจจะทำได้ แต่เมื่อประชาชนฝากความหวังไว้กับตน ต้องการเห็นเอาให้สุดกับ กกต. ซึ่งวันนี้จะไปที่ กกต.ต่อ เพื่อยื่นหนังสือขอให้ กกต.เปิดเผยข้อมูลที่มั่นหน้ามั่นโหนกมากว่าคำวินิจฉัยเป็นอย่างไร ข้อมูลหลักฐานเป็นอย่างไร เมื่อความปรากฏแล้ว อาจจะดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่ศาลอาญาต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยธวัช'ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาสู้คดียุบพรรคเพิ่มอีกรอบ!

'ชัยธวัช' ลุ้นศาล รธน.ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค มองเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต้องหาพยาน-หลักฐาน สู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฎการณ์งูเห่าน้อยกว่า 'อนาคตใหม่' เหตุสถานการณ์ต่างกัน

ศาลรธน. ไม่รับคำร้องขอวินิจฉัยอำนาจสภาฯแก้รัฐธรรมนูญ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของประธานรัฐสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256