'ครม.ทักษิณาฐา'

ส่องกันอยู่ร่วมเดือน

รัฐมนตรี ว่าที่รัฐมนตรี ลุ้นกันชนิดกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับกันหลายวัน เพราะคนที่อยู่ไม่รู้ว่าจะหลุดหรือไม่ ส่วนคนมาใหม่ไม่รู้จะได้เสียบหรือเปล่า

วานนี้ (๒๘ เมษายน) คลอดเรียบร้อยครับ "ครม.ทักษิณาฐา"

ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาดังนี้

๑.ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ  พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

นายเศรษฐา ทวีสิน รมว.การคลัง พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

๒.ให้แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง

นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นางสาวจิราพร สินธุไพร เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

บทสรุปของการปรับ ครม.ครั้งนี้คือ คนมีอำนาจตามกฎหมายไม่ได้ตัดสินใจ เพราะคนปรับตัวจริงคือผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล

นี่คือผลงานชิ้นโบดำของ นักโทษที่อยู่ระหว่างการพักโทษ "ทักษิณ ชินวัตร"

๒๖ เมษายน "ภูมิธรรม เวชยชัย" พา นายกฯ เศรษฐา ไปกินข้าวเที่ยงกับ "นักโทษชายทักษิณ"

อมวัดมาพูดก็ไม่เชื่อครับ ถ้าบอกว่าไปกินข้าวกันเฉยๆ  ไม่ได้ถือโผปรับ ครม.ไปให้นักโทษชายตรวจเป็นขั้นสุดท้าย ด้วย

เพราะมันไม่มีเหตุให้ต้องไปกินข้าวเที่ยงในช่วงเวลาที่กระแสข่าวปรับ ครม.ลงตัวเกือบทั้งหมดแล้ว

จะเห็นว่าครั้งนี้ ทั้งนายกฯ เศรษฐา และ "ภูมิธรรม เวชยชัย" ไม่พูดในรายละเอียดว่าไปกินข้าวแล้วคุยอะไรกัน           ต่างจากครั้งก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง

ก่อนนี้คุยกันไม้จิ้มฟันยันเรือรบ มีทั้งข้าวโพด ยางพารา  ไฟป่า พีเอ็ม ๒.๕ ฯลฯ

ฉะนั้น วันที่ ๒๖ เมษายน คือวันที่ นายกฯ นำโผ ครม.ไปให้ นักโทษที่อยู่ระหว่างการพักโทษตรวจ ก่อนที่จะดำเนินการขั้นถัดไป

และผลการปรับ ครม.ครั้งนี้ ก็ยิ่งยืนยันว่า นายกฯ เศรษฐา เป็นผู้ไร้อำนาจในการจัดสรรอำนาจอย่างแท้จริง

เพราะการหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของ "หมอชลน่าน ศรีแก้ว" รวมทั้งการเปลี่ยนเก้าอี้ของ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" และ ปริศนาจาก "ปานปรีย์ พหิทธานุกร" ล้วนอยู่นอกเหนือจินตนาการของ นายกฯ เศรษฐา ทั้งสิ้น

กรณี "หมอชลน่าน" ยิ่งกว่าเสร็จนาฆ่าโคถึก

มันคือการฆ่าแม่ทัพทิ้ง เพราะเกรงบารมีถูกแชร์     

"นักโทษชายทักษิณ" มิได้เกรงว่า "หมอชลน่าน" จะขึ้นมาเทียบชั้นตัวเอง แต่ต้องการเว้นพื้นที่อำนาจและบารมีไว้ให้  "อุ๊งอิ๊ง" ต่างหาก

บทบาทหมอ "หมอชลน่าน" เมื่อครั้งการจัดตั้งรัฐบาลปีที่แล้ว ถือว่าโดดเด่น และต่ำตมในคราวเดียวกัน

โดดเด่นในสายตา สาวกที่เหนียวแน่นของพรรคเพื่อไทย

และต่ำตมในสายตา "ด้อมส้ม" ที่มองว่า "หมอชลน่าน" คือ นักการเมืองตระบัดสัตย์ และทรยศต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์

"หมอชลน่าน" ใช้เหตุผลในการลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าคือการรักษา "สัจจะ"

เพราะเคยประกาศไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้งว่า "...ถ้าพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐ จับมือกับลุงป้อม ผมในฐานะหัวหน้าพรรคพร้อมจะลาออก..."

แต่เสียงก่นด่าหนาหูกว่าเสียงชื่นชม

ในมุมของพรรคเพื่อไทย มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก "หมอชลน่าน" คือวีรบุรุษ

ลำพัง นายกฯ เศรษฐา ที่พรรษาการเมืองน้อยนิด ไม่มีทางที่จะเขี่ย "หมอชลน่าน" ออกจากคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

แต่เพราะอำนาจในการปรับ ครม.อยู่ในมือ นักโทษที่อยู่ระหว่างการพักโทษ และอยู่ในความควบคุมของกรมคุมประพฤติ ต่างหาก

ยิ่งตอกย้ำว่า นายกฯ เศรษฐา ไร้อำนาจแทบจะสิ้นเชิง จากการโยกเก้าอี้ของ สอง รัก-ยม

"สมศักดิ์ เทพสุทิน" กลับเพื่อไทยไม่ต้องต่อแถวใหม่แถมได้รับโบนัสก้อนโต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อีกตำแหน่ง

วันนี้บุคคลที่มีส่วนสำคัญปูทาง "นักโทษเทวดา" ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแล้ว

"สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ไม่ต้องอธิบายให้มากความ "สมศักดิ์" เป็นอย่างไร "สุริยะ" ก็เป็นเช่นนั้น อยู่ในวิถีวงโคจรเดียวกัน

โฉมหน้า ครม.ที่ปรับออกมาจึงไม่ใช่ "เศรษฐา ๒" แต่เป็น "ทักษิณาฐา"

อนาถา ที่นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดต้องกล้ำกลืน

แต่กรณีของ "ปานปรีย์ พหิทธานุกร" หาได้ยากยิ่ง ลาออกทันทีหลังได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพียงตำแหน่งเดียว จากที่เคยควบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี

และเนื้อหาในจดหมายลาออกเป็นการทิ้งระเบิดลูกใหญ่

ประจานว่าการจัดเก้าอี้รัฐมนตรีมีปัญหา

"...สาเหตุของการปรับผมออกจากรองนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ผมเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับผมไม่มีผลงานแน่นอน เพราะผมทุ่มเทการทำงานด้านต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ..."

"... สุดท้ายนี้ ผมหวังว่า การปรับคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ช่วยให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพมากขึ้น โปร่งใส และรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป ขอขอบพระคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้โอกาสผมได้ทำงานกับรัฐบาลนี้มาช่วงเวลาหนึ่ง..."

ครับ...จดหมายของ "ปานปรีย์" ไม่ได้ชี้ไปที่นายกฯเศรษฐา

เพราะมีการแทรกแซง!

"ปานปรีย์" จึงหวังว่า ครม.ชุดใหม่ จะโปร่งใส รักษาผลประโยชน์ชาติ!

ราวกับว่า "คนโกง" กลับมาเต็มตัวแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความตายกับการเมือง

เห็นความเคลื่อนไหวในโซเชียลบางส่วนแล้วไม่สบายใจ ความสูญเสียไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน สิ่งที่ไม่ควรเกิดคือ การเยาะเย้ย ถากถาง สมน้ำหน้า

ข่าวดีในรอบปี!

วานนี้ (๑๓ พฤษภาคม) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์พระ ๒ รูป

วาทกรรม 'ข้าวเน่า'

ว่าแล้วเชียว.... สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โฆษกรัฐบาล "ชัย วัชรงค์" แถลงข่าวเรื่องข้าวเก่าเก็บ ๑๐ ปีเป็นตุเป็นตะ

เรื่องน่ากลัวของ 'ข้าว'

นับถอยหลังแล้วจริงๆ เรื่องข้าวเก่าเก็บ ๑๐ ปี กินได้ แถมหอมอร่อย กลายเป็นประเด็นดรามา ที่ดูเหมือนว่า รัฐบาลมีเป้าหมายอย่างอื่นมากกว่า ที่จะเชียร์ให้กินข้าวจริงๆ