กระตุก กรมราชทัณฑ์ 'ทักษิณ' ขอพระราชทานอภัยโทษ ต้องชี้แจงให้ชัด

‘จตุพร’ ชี้ ‘ทักษิณ ป่วยกำเริบ 4 โรคประจำตัวล้วนสาหัสสากรรจ์ กระตุกกรมราชทัณฑ์ ต้องชี้แจงการขอพระราชทานอภัยโทษให้ชัด ยันต้องผ่านการติดคุกก่อน เผยแดน 7 ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังกองนอกมีหน้าที่ลอกท่อ

23 ส.ค.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "กรรม!!" โดยกล่าวถึงส่วนการกลับไทยของทักษิณ ชินวัตร ว่า ตามหลักแล้วโทษติดคุก 8 ปีต้องผ่านด่าน 1 ใน 3 ของโทษคดีแรก 3 ปีก่อน คือ 1 ปี จึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ เมื่อถูกนำตัวเข้าเรือนจำพิเศษ ถูกกักขังที่สถานพยาบาล แดน 7 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังกองนอกมีหน้าที่ลอกท่อ เมื่อไปทำงานแล้วจะได้ลดโทษแบบวันเว้นวัน ซึ่งนักโทษใฝ่ฝันอยากไปลอกท่อที่สุด เพราะหนึ่งเดือนได้ลดโทษเหลือติดคุกแค่ 15 วัน

ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น นายจตุพร กล่าวว่า คงต้องแยกพิจารณาเป็นรายคดี ที่มีทั้งสิ้น 3 คดี แต่ต้องผ่านการติดคุกก่อน ดังนั้น การขอพระราชทานฯ กรมราชทัณฑ์ต้องชี้แจงให้ชัดว่า จะเริ่มจากโทษคดีแรก 3 ปีก่อน เมื่อครบแล้ว จากนั้นจึงมาเข้ากระบวนการของคดีที่ 2 และ 3 รวมอีก 5 ปี

"อาคารพยาบาล แดน 7 นั้น ผู้ต้องขังอย่างนายราเกซ สักเสนา นายวาสนา เพิ่มลาภ นายปริญญา นาคฉัตรรีย์ ใผ่ ดาวดิน และนายเพนกวิน ตลอดจนนักการเมืองหลายคน เคยถูกคุมตัวมาก่อน โดยช่วงนั้นจะมีแยกซอยเป็นห้องเล็กๆ เพื่อคุมขัง แต่เดี๋ยวนี้ปรับปรุงยกชั้น 2 ของอาคาร ให้เป็นที่กักขังนักโทษชื่อ ทักษิณ คนเดียว"

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อทักษิณ กลับไทย ได้โรคสุขภาพจาก รพ.ราชทัณฑ์ พบเป็นโรคประจำตัวถึง 4 โรค คือ โรคหัวใจ ปอดอักเสบ ความดันโลหิตสูง และโรคกระดูกสันหลังเสื่อม ซึ่งหนักสาหัสสากรรจ์จึงต้องมีหมอและพยาบาลประจำไว้คอยดูแลพิเศษ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวด่วนจากนายสุทธิชัย หยุ่น และ THE STANDARD NEWS พร้อมมติชนออนไลน์ ระบุตรงกันว่า ทักษิณ อาการป่วยกำเริบต้องย้ายด่วนมายัง รพ.แห่งหนึ่งกลาง กทม.เมื่อเวลาตีหนึ่งของคืนวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด กระทั่งสายวันที่ 23 ส.ค.นี้ กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงข่าวสั้นเ ระบุป็นความจริงที่ส่งทักษิณ ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ