‘จตุพร’ ลั่นไม่รับรัฐบาลตระบัดสัตย์ ชี้เริ่มออกอาการกลับคำ นโยบายทำไม่ได้จริง

‘จตุพร’ แนะเมื่อไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว อีกทั้ง ‘ทักษิณ’ ไม่ยอมกลับคุก เสนอ รบ.รีบพักโทษให้กลับบ้าน ลดข้อครหา ยุติอารมณ์สังคมไม่พอใจ ป้องกันหมอ-จนท.ราชทัณฑ์เดือดร้อน ลั่นไม่รับ รบ.ตระบัดสัตย์ ระบุเริ่มออกอาการกลับคำนโยบายทำไม่ได้จริง

4 ก.ย.2566-นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ผ่านไป…” ว่า ขณะนี้รัฐบาลตระบัดสัตย์เริ่มออกอาการกลับคำประกาศนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ เพราะไม่มั่นใจจะทำได้เป็นจริง ยิ่งนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คงเป็นไปไม่ได้และตัวแทนกลุ่มทุนรถไฟฟ้าในรัฐบาลต้องต่อต้านอย่างแน่นอน

นายจตุพร กล่าวว่า ตนดำรงจุดยืนไม่เอารัฐบาลตระบัดสัตย์มาตั้งแต่ พ.ค. 2535 หรือ 31 ปีที่แล้ว ดังนั้น จึงไม่ยอมรับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เพราะเป็นรัฐบาลตระบัดสัตย์ ไม่ยึดมั่นคำพูดเคยให้ไว้กับประชาชน และยังกลับคำ แล้วเปลี่ยนนโยบายไปมา ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่เหมือนเดิม ซึ่งยังไม่รู้ว่านโยบายอะไรจะทำได้จริงกันบ้าง

สิ่งสำคัญ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังนัดกินข้าวผูกสัมพันธ์ไมตรีกับผู้นำเหล่าทัพ โดยระบุถึงนโยบายเกณฑ์ทหาร ซึ่งเปลี่ยนจากเคยประกาศว่ายกเลิกมาเป็นลดจำนวนการเกณฑ์ให้น้อยลง โดยนโยบายแบบนี้ไม่ต้องประกาศก็ได้เพราะฝ่ายทหารและทุกเหล่าทัพได้ทำมาปกติทุกปี และจำนวนการเกณฑ์ทหารยังแตกต่างกันไปตามการสมัครเป็นทหารด้วย หากปีไหนสมัครมากการเกณฑ์ย่อมลดน้อยลงเป็นธรรมดา ไม่เห็นแปลก และไม่จำเป็นต้องลดการเกณฑ์เลย หรือทำเป็นนโยบายของรัฐบาลกันเลย

นอกจากนี้ รัฐบาลตระบัดสัตย์ยังเสนอลดราคาพลังงาน ซึ่งความจริงแล้วราคาน้ำมันมีการลดลงและขึ้นมาต่อเนื่อง สิ่งสำคัญถ้ารัฐบาลต้องการช่วยประชาชนกันจริงๆ ต้องกล้าประกาศว่า จะลดราคาพลังงาน แล้วไม่ยอมให้ขึ้นราคาอีกจึงน่าสนใจและเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า

“การประกาศนโยบายลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ไม่รู้ทำได้จริงหรือเปล่า และตัวแทนทุนรถไฟฟ้าที่อยู่ในรัฐบาลจะยอมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลเริ่มเสียงแผ่วเบา ออกอาการแล้ว โดยอ้างเป็นรัฐบาลผสม ไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว แต่เพื่อไทยได้คุมกระทรวงคมนาคมพรรคเดียวจึงต้องทำได้ตามประกาศหาเสียงเอาไว้”

นอกจากนี้กรณีเรือดำน้ำสั่งซื้อจากจีนแต่ใช้เครื่องยนต์เยอรมัน ซึ่งเพื่อไทยต่อต้านมาอย่างหนักสมัยรัฐบาล คสช. แล้วปัจจุบันเพื่อไทยมาคุมกลาโหม นโยบายเรือดำน้ำจะเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นจากจีนหรือไม่  ส่วนการคัดค้านการซื้ออาวุธก็เช่นกัน แต่วันนี้กลับเห็นด้วยให้ซื้ออาวุธตามความจำเป็นเพื่อให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น และจะไม่ตัดงบประมาณของกองทัพอีกด้วย สิ่งเหล่านี้จึงแสดงอาการรัฐบาลตระบัดสัตย์ได้อย่างชัดเจน เพราะกลับคำพูดที่หาเสียงเอาไว้ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลเริ่มต้นตระบัดสัตย์ สิ่งที่ตามมาจึงเป็นการกลับคำประกาศนโยบายได้อย่างไม่ต้องสงสัยกันมากเลย

นายจตุพร กล่าวถึงการพักโทษทักษิณ ชินวัตร ว่า การลดโทษเหลือติดคุกไม่ถึง 1 ปี เมื่อนักโทษเป็นคนแก่ ผู้สูงอายุ มีโรครุมมากมาย ต้องรักษาตัว ถ้ามีพระราชทานอภัยโทษทั่วไปอีก ย่อมได้รับสิทธิ์ให้พักโทษได้โดยปริยายทันที  ดังนั้น กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ควรเร่งดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษทั่วไปในปี 2566 เพื่อให้ทักษิณ ได้รับการพักโทษ ออกจากคุกกลับบ้านได้โดยเร็ว เพราะเป็นไปตามระเบียบที่ถูกต้องอยู่แล้ว อีกอย่าง สถานการณ์จะคลี่คลายได้โดยเร็วขึ้น ไม่ต้องสงสัยอะไรกันอีกเลย เมื่อทำมาถึงขนาดนี้แล้ว จึงควรรีบเสนอให้ทักษิณได้กลับบ้านจะดีกว่า

“รีบให้เขาเถอะ จะได้พักโทษโดยเร็ว เมื่อไหนๆ ก็ไม่ยอมเข้าคุกอีกแล้ว รัฐบาลควรประกาศขอพระราชทานอภัยโทษทั่วไปโดยเร็ว เพราะทักษิณ อยู่ รพ.ตำรวจ คนยิ่งสงสัยกันมาก และอาจทำให้หมอ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เดือดร้อนอีกด้วย ดังนั้น จึงควรยุติประเด็นนี้เสียเลยให้สิ้นกระบวนความกันไปเลย และไม่ต้องทำให้ใครเดือดร้อนอีก”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐา โปรยยาหอมชาวอีสาน ไตรมาส 4 รับเงินหมื่นแน่

นายกฯ ขึ้นเวทีมหาสารคาม “อุ๊งอิ๊ง” สส.เพื่อไทย พรึบ ชู 3 ปัญหาวาระแห่งชาติ ‘หนี้นอกระบบ-ยาเสพติด-ภัยแล้ง’ ย้ำคำมั่นเงินหมื่นดิจิทัลได้แน่ไตรมาส 4 ด้านปชช.คึกคักบอก ‘รักเศรษฐา’

'เศรษฐา' ลุยอีสานคุยขอจัดการปัญหาหนี้นอกระบบ - ยาเสพติด

“เศรษฐา” ลุยอีสาน พบชาวมหาสารคาม ลั่นปัญหาหนี้นอกระบบหยั่งลึกสังคมไทย ขันน็อตทุกภาคส่วนทำงานหนักขึ้น หลังตัวเลขยังไม่เป็นที่พอใจ ขีดเส้นกำหนดกรอบปราบยาเสพติด 90 วัน พร้อมรายงานสำนักนายกฯทุกเดือน

โพลชี้ชัดเจน ประชาชน อยากเห็นนายกฯ ปฏิรูปตำรวจ

นายนพดล กรรณิกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่ปรึกษามูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ และผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล เสนอผลการศึกษาเรื่อง ปฏิรูปตำรวจ กับ ศรัทธาจากประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวนทั้งสิ้น 1,597 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 - 4 พฤษภาคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา