‘ไอซ์ รัชนก’ ซัดนายกฯ ไม่กล้าปฎิรูป ตร.-ทหาร แต่มาวีน ขรก.ปราบส่วย-ทุนจีน

12 พ.ย.2566-น.ส.รัชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก้าวไกล ทวิต Rukchanok Srinork @nanaicez ระบุว่า นายกที่ไม่อยากจะปฏิรูปอะไรสักอย่าง ทั้งวงการทหาร ตำรวจ ระบบข้าราชการ แต่อยากจะแก้ปัญหาที่ใหญ่ระดับโครงสร้างประเทศอย่างเรื่อง ส่วย ทุนจีน ตัวเองยังไม่กล้าหาญพอจะชนกับฝ่ายไหนเลยด้วยซ้ำ แล้วมาวีนใส่ระดับปฏิบัติการจะให้เค้าทำอะไร จับๆไปบางทีสาวไปเจอผู้บังคับบัญชาตัวเองแล้วให้ไปยังไงต่อ ข้าราชการตัวเล็กๆที่อยู่ในแต่ละหน่วยงานเค้าก็รอระบบที่จะมาปกป้อง ถ้าเค้ากล้าที่จะออกมาพูดหรือออกมาจัดการต้นตอจริงๆอยู่ คุณจะกล้าชนกล้าทำลายโครงข่ายอำนาจที่ฝังรากลึกมานานไหม

เรื่องใหญ่ระดับนี้มีคนใหญ่คนโตเป็นแบคอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น ถ้านายกยังขี้หดตดหายกับแค่คำว่าปฏิรูป แล้วหวังว่าปัญหาจะแก้ได้ด้วยการตวาดใส่ระดับปฏิบัติการ อาการก็น่าเป็นห่วงอยู่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'

'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.

‘เศรษฐา’ แจงยิบปรับครม. ขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ทำให้ไม่สบายใจ บอกมีคนแทนในใจแล้ว

‘เศรษฐา’ เผย ส่งข้อความผ่านกลุ่มงานต่างประเทศขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ถ้าทำให้ไม่สบายใจ บอกได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว ชี้มีทั้งคนสมหวัง-ผิดหวัง พร้อมรับผิดชอบ แย้มมองหาคนใหม่ตั้งแต่เมื่อคืน ดีกรี การทูต-การเมือง ทำงานเบื้องหลัง’เพื่อไทย’ มานาน

‘จตุพร’ ซัดอำนาจเบื้องหลังปรับครม. ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะไปตรวจสุขภาพจิต

‘จตุพร’เย้ยอำนาจเบื้องหลังปรับ ครม.ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะรีบไปตรวจสุขภาพจิต อ้างเขี่ยทิ้งชลน่าน สะท้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีมาตรฐานอารมณ์ ส่วน ‘ปานปรีย์’ลาออก รมต.ต่างประเทศ บอกความนัยคนจริง ยึดหลักการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้

‘เด็กเศรษฐา’ ข้องใจ ‘ปานปรีย์’ ลาออกหลังมีพระบรมโองการ ชี้ไม่เคยมีใครทำ

ตกใจกับการตัดสินใจ ที่เกิดขึ้นหลังมีพระบรมราชโองการฯ ซึ่งไม่เคยมีใครกระทำแบบนี้มาก่อน เพราะมันไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธตำแหน่งเพียงอย่างเดียว