'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ชี้ปรองดองต้องไม่สองมาตรฐานห้ามมีคดี 112-ทุจริต

อดีตบิ๊กข่าวกรองซัดกฎหมายปรองดอง บอกเห็นด้วยแต่ต้องไม่ทำสองมาตรฐาน ซ้ำร้ายต้องไม่นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 และคดีโกง

27 พ.ย.2566 - นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวอข้อ “ปรองดอง?” ระบุว่า นักการเมืองเคลื่อนไหวเสนอกฏหมายปรองดอง ถามว่าการปรองดองดีไหม ดีแน่นอน ทำตามพระบรมราชโองการของในหลวง ร.9 ให้คนไทยรู้รักสามัคคี

แต่การปรองดองต้องไม่สองมาตรฐาน ความขัดแย้งทางการเมืองคุยกันได้ ก็เห็นนักการเมืองต่างพรรคคุยกันหลังประชุม รัฐสภาเป็นบ่อนในการล๊อบบี้อยู่แล้ว สภาเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน ไม่มีอะไรคุยกันไม่ได้

ประชาชนคัดค้านการนิรโทษกรรม ความผิด ม.112 ที่เป็นคดีความมั่นคง ที่มุ่งทำลายสถาบันหลักของชาติ

ขอคัดค้านการนิรโทษกรรมคดีทุจริต ที่ทุกพรรคบอกว่าต้องกำจัดการทุจริต หากยกโทษคดีทุจริตคราวนี้ได้ มั่นใจได้ว่า ไทยจะมีการทุจริตไม่จบสิ้น นักการเมืองทำผิดก็ยกโทษกันเอง สนุกดี

ตราบใดที่ใช้สองมาตรฐาน คนหนึ่งผิดต่อแผ่นดินนอนโรงพยาบาล เพราะคนมีอำนาจนิ่งเฉย อีกคนหนีคุกหัวซุกหัวซุน ถูกไล่ล่า

นี่คือความแตกแยกที่ชัดเจน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศชอ. คัมแบ็ค! ประกาศกลับมาแล้ว พร้อมลุยใช้กฎหมาย ม.112 ปกป้องสถาบัน

เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ.โพสต์ข้อความว่า "กลับมาแล้ว" หลังจากเมื่อเดือนกันยายน 2566 ได้ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวใช้กฎหมายในการปกป้อง ช

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

ทำลายสถิติ! ผู้ต้องขังยังเพิ่มพุ่ง 46 คน คดี ม.112 เกินครึ่ง ผู้อดอาหารประท้วงยังถูกขังต่อ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ปัจจุบัน (4 เม.ย. 2567) มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก อย่างน้อย 46 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีมาตรา 112 เกินกว่าครึ่ง เป็นจำนวน 28 คน