'อดุลย์' อัด 'ประยุทธ์' ยังตอกลิ่มความขัดแย้ง ไล่ลงจากอำนาจก็ยังดื้อ ถือเป็นคราวเคราะห์ของสังคม

'อดุลย์'อัด 'ระบอบประยุทธ์'ทำให้ประเทศเสียหายต้นเหตุวิกฤติ ยังตอกลิ่มความขัดแย้ง ปชช.ออกมาไล่ลงจากอำนาจก็ยังดื้อ ถือเป็นคราวเคราะห์ของสังคมไทย โอด!ต้องทนกันต่อไป ยันต้องปฏิรูปประเทศ

24 ธ.ค.2564- นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และแกนนำผู้ก่อตั้งสภาที่ 3  กล่าวว่า อยากจะขอพูดถึงสถานการณ์ของประเทศไทย โดยเฉพาะภายใต้รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ก่อให้เกิดวิกฤตของประเทศและสังคมไทยอย่างมาก ผมขอถือโอกาสนี้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เพราะหลังจากที่ค้นพบว่า รัฐบาลประยุทธ์และพวกได้สร้างระบอบประยุทธ์ขึ้นมา ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและสังคมอย่างใหญ่หลวง ปรากฏว่ามีความบิดเบือนความจริงหลายเรื่อง จนกระทั่งหลังจากสภาที่สามได้ตรวจสอบ พบว่ารัฐบาลของระบอบประยุทธ์มีการทุจริตมาก ในประวัติศาสตร์ไทยที่เคยมีรัฐบาลมา ทั้งเลือกตั้งและเผด็จการ

นายอดุลย์ กล่าวว่า เมื่อตนบอกกับสังคมทุกคนว่า ระบอบประยุทธ์ทำให้ประเทศเสียหายอย่างไร ตนจึงได้บอกกับพรรคพวกแกนนำหลายคน ทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดง และได้ตั้งกลุ่มไทยไม่ทนขึ้นมา เพื่อขับไล่ประยุทธ์ให้พ้นจากอำนาจ โดยขอร้องให้เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก ปรากฏว่าสังคมส่วนใหญ่ ถึง 80% ลงความเห็นว่า รัฐบาลประยุทธ์มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการทำงานไม่เข้ามาตรฐาน แล้วยังดื้อ เมินการรับฟังเสียงของประชาชน ไม่ยอมใช้คนที่มีความสามารถ หลงตัวเองว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถเก่งกว่าคนอื่น มีแนวคิดที่เก่งกว่าคนอื่น ซึ่งตนรู้สึกเสียใจที่ ประเทศไทยและสังคมไทยโชคร้าย ที่เราได้ผู้นำในการบริหารประเทศอย่างนี้

แกนนำผู้ก่อตั้งสภาที่ 3 กล่าวอีกว่า ความสามารถของท่านต้องบอกเลยว่าไม่ได้มาตรฐานจริงๆอาจจะสรุปได้ก็คือว่า ถือเป็นคราวเคราะห์ของประเทศไทย ทั้งนี้อยากจะบอกว่าสำหรับตนนั้น ไม่ได้มีอคติหรือรู้จักพล.อ.ประยุทธ์เลย แต่ตนวัดจากผลงานจึงยอมรับเลยว่า คุณภาพของผู้นำรัฐบาลในขณะนี้ไร้ความสามารถ ไม่ได้มาตรฐาน ตนจึงพยายามที่จะเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ยอมเสียสละตัวเองเพื่อเห็นแก่ชาติบ้านเมืองและประชาชนที่กำลังลำบากขนาดนี้

“ขอให้ท่านลงจากอำนาจ เพื่อจะได้บุคคลที่เต็มใจจะช่วยชาติ เสียสละเพื่อชาติมาทำหน้าที่แทน แต่ก็ปรากฏว่าไร้ผลไม่ยอมฟังและไม่ยอมลงจากอำนาจ ต้องยอมรับว่าเป็นเวรกรรมและคราวเคราะห์ ของประเทศและประชาชนที่เราได้ผู้นำที่ขาดไร้ซึ่งความรับผิดชอบ ไม่รู้จักหน้าที่ของผู้นำประเทศ ที่ต้องเสียสละอะไรบ้างและไม่รักชาติบ้านเมือง และประชาชน สมกับที่พยายามจะป่าวประกาศ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าสมเพชมาก ที่เราต้องมีคราวเคราะห์ร่วมกันแบบนี้ ดังนั้นต้องบอกประชาชนว่าถ้าคุณประยุทธ์จะเป็นผู้นำต่อไปเรื่อยๆ พวกเราก็คงหมดปัญญาที่จะเรียกร้อง ให้เขาลงจากอำนาจได้ก็ถือว่าเป็นเคราะห์กรรม และทุกคนก็คงจะต้องทนๆๆๆต่อไปโดยไม่มีทางเลือก” นายอดุลย์ กล่าว

นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาดังนั้นเศรษฐกิจของโลก กับการรับมือของการกลายพันธุ์โอมิครอนที่ร้ายแรงกว่าเดิม จะมีผลให้เกิดการล้มตายตามมา ซึ่งโควิด-19 เป็นต้นเหตุที่ทำให้การรักษาไม่สามารถทำได้จึงเกิดการเสียชีวิตมากมาย ในฐานะที่ตนได้พูดคุยกับบรรดาแกนนำ ของผู้ก่อตั้งสภาที่ 3รู้สึกเป็นห่วงมากว่า เราจะแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองขณะนี้อย่างไร เพราะสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำไว้ คือ 1.ความแตกแยกของสังคมไทยและยังไม่สามารถจะมีใครที่ออกมา ทำหน้าที่ประสานความแตกแยกทางความคิดนี้ได้

"ความแตกแยกทางความคิดหรือการไม่เห็นด้วยของแต่ละฝ่าย เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมโลก สังคมการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ประชาชน แต่ขณะเดียวกันเรื่องของความขัดแย้งนั้น ถ้าความเห็นเขาไม่ตรงกันก็สามารถหาทางอยู่ร่วมกันได้ โดยยึดกติกาที่ถูกต้อง แต่พลเอกประยุทธ์กลับไม่ได้ทำเลย กลับตอกลิ่มความแตกแยกมากขึ้น"

นายอดุลย์ กล่าวต่อว่า 2. ขณะนี้จะเห็นได้ว่าเราได้ชื่อว่ามีรัฐบาล แต่การบริหารเปรียบเสมือนไม่มีรัฐบาลเลย เพราะทุกอย่างปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจความเป็นอยู่ คนตกงาน รัฐได้แต่นำเงินที่กู้มาหรือเก็บภาษีมาแจกอย่างเดียว ไม่ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันให้ประชาชน อยู่ได้บนลำแข้งของตัวเอง ตนเชื่อว่าประชาชนเขาไม่ได้เต็มใจที่จะให้รัฐมาแจกทุกวัน แต่เขาอยากอยู่ด้วยลำแข้งเขามากกว่า ถ้ารัฐบาลมีนโยบายที่ดีเป็นรูปธรรม และทำอะไรให้จับต้องได้ แต่รัฐบาลนี้ด้อยความสามารถ

และ3. หลักการปกครองประเทศ ความยุติธรรมต่างๆถูกรัฐบาลประยุทธ์ทำลาย บิดเบือนจนไม่เหลือ องค์กรอิสระก็ถูกครอบงำและออกมาค้านทุกอย่าง ค้านสายตาประชาชนไม่เห็นชอบด้วยกับ สิ่งที่ทำทุกเรื่อง นี่เป็นสิ่งที่เสียหายมาก ประเทศไทยเสื่อมเสียมาก แม้แต่ทั่วโลกเริ่มไม่ยอมรับผลการตัดสิน ทางกระบวนการยุติธรรมของไทยเรา ทุกอย่างเสียหายหมด เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทุจริต หรือทำอะไรให้โปร่งใสเสียหายหมด

"รัฐบาลซื้อพรรคพวก ซื้อเสียงสภาเริ่มคลอนแคลนไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน เพราะไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ประเทศไทยยังโชคดีเพราะมีพระสยามเทวาธิราช คงโดนบันดาลให้ปีหน้าที่จะขึ้นพ.ศ. ใหม่นี้ พล.อ.ประยุทธ์คงจะเห็นแล้ว สมควรลงจากเวทีได้แล้ว และปล่อยให้ผู้ที่มีความสามารถมาทำหน้าที่แทน และแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ตอนนี้ประเทศชาติของเรา ต้องทำเรื่องปฏิรูปเพราะทุกอย่างมันพังหมดแล้ว ทุกอย่างต้องหาคนเก่งทุกฝ่ายมาช่วยเหลือ และช่วยกันทำแต่ละองค์ประกอบที่ถูกทำลายย่อยยับไป ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ให้ได้มาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของประชาชน เพื่อที่เราจะได้อยู่กันอย่างสันติมีความสุข เจริญก้าวหน้าและมีสังคมที่ดี มีเศรษฐกิจที่ดีและเมื่อนั้นเราพร้อมแล้ว เราก็ค่อยมีการเลือกตั้งหาผู้แทนราษฎร และหาคนที่มาทำหน้าที่ เป็นตัวแทนให้กับประชาชนอย่างแท้จริง " นายอดุลย์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อดุลย์’ แนะฝ่ายค้านไม่ควรยื่นซักฟอก เหตุทำแก้รธน.เสียของ

“อดุลย์”เบรกฝ่ายค้านไม่ควรยื่นญัตติซักฟอกเพราะนายกฯจะชิงยุบสภาฯก่อนทำให้ร่างแก้ไขรธน.ตกไปทั้งหมด แนะไม่ต้องมีสสร.จะขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.และเสียเวลา กมธ.ยกร่างรธน.ต้องมาจากหลากลายปิดช่องการครอบงำ ‘คนละครึ่งพลัส’ ช่วยกระตุ้นศก.แต่ไม่ควรทำต่อเนื่องสร้างภาระหนี้ให้ลูกหลาน จี้นายกฯใช้ความเด็ดขาดล้างบ้างขรก.ทุจริตต้นเหตุทุนสีเทา

'ดร.สุวิทย์' ชู เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม ขับเคลื่อนประเทศด้วยรากแห่งจารีต ปีกแห่งนวัตกรรม

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม” (Sufficiency Innovation Economy): ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยรากแห่งจารีต × ปีกแห่งนวัตกรรม มีเนื้อหาดังนี้

‘อดุลย์’ บี้ 'อนุทิน' ยึด MOA เคร่งครัด วอนหนุนร่างนิรโทษฯ

‘อดุลย์’บี้นายกฯอนุทิน ทำตาม MOA อย่างเคร่งครัด เร่งพิสูจน์ผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่าให้ประชาชนผิดหวังเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา เตือนอย่าให้เกิดทุจริตคอร์รัปชันจะเกิดวิกฤตศรัทธานักการเมืองซ้ำรอยอีก  วอนหนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองให้มีผลบังคับใช้ก่อนเลือกตั้ง และสร้างอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ตามติครม.30ธ.ค.46ให้แล้วเสร็จ

ชงเกษียณ65/คืนตังค์หวยกิน

นายกฯ ลั่นประเทศไทยมีอนาคต อาจชะงักงันบ้าง เหตุติดหล่มการเมือง ปลุก ปชช.รักสามัคคี ไม่ขัดแย้ง นักการเมืองก็ไม่กล้าขัดแย้ง แย้มแนวคิดเกษียณอายุ 65 ปี อ้างศาลยังทำได้

นายกฯ ลั่น การเมืองมีเสถียรภาพ แก้นิดเดียวเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ไม่ให้กลุ่มทุนชี้นำ

นายกฯ ลั่นการเมืองมีเสถียรภาพ เหลือแก้นิดเดียว เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ไม่ให้กลุ่มทุนชี้นำ ชมรัฐบาลเก่า "2 พิชัย" สู้กำแพงภาษีทรัมป์ พร้อมทำตามสหรัฐฯ ช่วยไกล่เกลี่ย ข้อพิพาท2ประเทศ หากยอมลดภาษี โว ไทยมีอนาคต อาจชะงักงันบ้าง เหตุติดหล่มการเมือง ปลุก ปชช.รักสามัคคี ไม่ขัดแย้ง นักการเมืองก็ไม่กล้าขัดแย้ง