
16 ม.ค.2567-นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องมีบุตร ไม่ใช่เรื่องยาก โดยระบุรายละเอียดว่าผมเห็นข่าวรัฐบาลประกาศให้การเกิดเป็นวาระแห่งชาติ ก็รู้สึกตกใจ ไม่คาดคิดว่า ปัญหาการขาดเด็กเกิดใหม่ในยุคนี้ จะต้องถึงขั้นประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ เป็นการให้ความสำคัญขั้นสูงสุด ซึ่งแตกต่างกับในยุคสมัยผมเป็นเด็ก ครอบครัวผม มีพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน 8 คน และแต่ละครอบครัวก็มีลูกจำนวนหลายคนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนั้น
แต่ตอนนี้กลับตาลปัตรกัน ในยุคนั้นต้องรณรงค์ให้มีการคุมกำเนิด และคนที่มีบทบาทมากที่สุด ก็คือคุณมีชัย วีระไวทยะ เจ้าของฉายาถุงยางอนามัย ที่เรียกกันว่า ถุงมีชัย รวมถึงสโลแกน ในการรณรงค์เรื่อง “ลูกมากจะยากจน” หรือ “ลูกหนึ่งคนจนไป 7 ปี” หรือ ชีวิตดีมีลูกแค่2คน หญิงก็ได้ชายก็ดี“
วันนี้สังคมเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ความคิดคนก็เปลี่ยนไปด้วย ด้วยอาจจะเหตุผลหลายประการ ทั้งภาวะเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม จึงทำให้คนรุ่นใหม่ รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากมีลูก คิดว่าการมีลูกเป็นภาระ เป็นการสร้างบาปให้ลูกที่เกิดมาเผชิญกับสังคมที่เลวร้าย จนทำให้คนรุ่นใหม่ไม่อยากจะมีบุตร ซึ่งทำให้สังคมไทยขาดแคลนเด็กเกิดใหม่ในแต่ละปี
ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติก็ได้ เพียงแต่รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหา จัดโปรโมชั่น มีแรงจูงใจให้เป็นที่น่าเชื่อถือของสังคม เพราะที่ผ่านมาโครงการที่เกี่ยวข้องกับแม่และเด็กล้มเหลว พรรคการเมืองไม่ได้นำนโยบายที่ใช้หาเสียงมาปฏิบัติให้เป็นจริง เช่น นโยบายมารดาประชารัฐ นโยบายดูแลเด็กอ่อน นโยบายเรียนฟรีอย่างแท้จริง ฯลฯ
ถ้าหากจะส่งเสริมให้มีการเกิดให้มากขึ้นจริง รัฐบาลต้องมีแรงจูงใจ สร้างหลักประกันได้ว่า เด็กเกิดใหม่ จะไม่เป็นภาระของพ่อแม่และครอบครัว เช่น
1.รัฐดูแลสวัสดิการตั้งแต่วันตั้งครรภ์ จ่ายค่าบำรุงครรภ์ ค่าฝากครรภ์ ค่าทำคลอด
2.เมื่อคลอดมาแล้ว ดูแลเรื่องอุปกรณ์การเลี้ยงเด็กอ่อน ค่านมเด็กอ่อน
3.มีเงินเดือนให้กับเด็กอ่อน และค่าเงินเดือนพี่เลี้ยง
4.จัดเงินทุนหรือทุนการศึกษา ตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรี
เพราะฉะนั้นถ้าหากว่า ครอบครัวใหม่หรือชีวิตคู่ใหม่ มีความมั่นใจในสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะตัดสินใจมีลูกขึ้นมาทันที แต่เบื้องต้นก่อนที่จะรณรงค์ให้มีการคลอดลูกและเลี้ยงดูอย่างมีคุณภาพ ขอให้รัฐบาลเข้าไปดูแลเด็กเกิดใหม่ ที่พ่อแม่ไม่มีปัญญาเลี้ยงดู ทิ้งขว้างตามที่สาธารณะ หรืออยู่ในสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าให้ดีเสียก่อน เพื่อสร้างหลักประกันและความมั่นใจ หรือเป็นแรงจูงใจให้กับคนที่ตัดสินใจจะมีลูก โดยไม่จำเป็นต้องยกให้เป็นวาระแห่งชาติก็ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
‘เทพไท’ เปิดสาเหตุ 'เพื่อไทย' ไม่กล้ายื่นซักฟอก ทั้งที่ตัวเองได้เปรียบ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิประบุว่า
'น้ำท่วมหาดใหญ่' เพิ่มเงื่อนไขซักฟอก 'อนุทิน'
นายเทพไท เสนพงศ์ โพสต์คลิปพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า น้ำท่วมหาดใหญ่ เพิ่มเงื่อนไขซักฟอกอนุทิน
เทพไท แนะข้อเสนอ วิน-วิน 3 พรรคการเมืองได้ทางออกที่ดีทุกฝ่าย
นายเทพไท เสนพงศ์ นักวิเคราะห์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท-คุยการเมือง" หัวข้อ แนะทางออก win-win ทั้ง3พรรค
รัฐบาลไทยอย่าชะล่าใจ! ประจานให้ชาวโลกรู้ซึ้ง 'สันดานเขมร'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จับโป๊ะรัฐบาลกัมพูชา ประจานต่อประชาคมโลก
ฟันธง! สถานการณ์บีบ 'ปชน.' ต้องยื่นซักฟอก ยอมทิ้งแก้รธน.
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สุดท้าย พรรคส้ม ต้องยื่นซักฟอกรัฐบาล


