'จตุพร' ฟันธง พรก.กู้เงิน ทางลงไม่แจกดิจิทัล จุดเปลี่ยนนายกฯ สว.ไม่ได้ซักฟอก

'จตุพร' มั่นใจนายกฯ ประหลาด อยู่ได้ไม่เกินเมษาฯนี้ ระบุจุดเปลี่ยนสำคัญมาจากดันออก พรก.กู้เงินจนถูก ครม.ตีตก เชื่อ สว.ไม่ได้ซักฟอก เหตุ 'เศรษฐา' คนหน้าบางขอรับผิด ยอมสละตำแหน่งกลับไปอยู่บ้าน

31 ม.ค.2567- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ โดยเชื่อว่า นายกฯ ที่มาแบบประหลาด จากตั้งรัฐบาลผิดปกติ จะอยู่ได้ไม่เกินเมษานี้ พร้อมมั่นใจการดัน พรก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาแจกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นจุดเปลี่ยนนายกฯ ถูกบีบให้หน้าบางขอสละอำนาจเพื่อรักษาดีลไว้

นายจตุพร กล่าวถึง สว.จะอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตาม ม.153 ของ รธน.ว่า อาจเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม อีกทั้งเชื่อว่าจะไม่ได้อภิปรายเพราะ นายกฯ จะไปก่อน หรืออาจไปช้าแต่คงไม่เกินเดือนเมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการเบี้ยวดีลกันแล้วจะนำพาไปสู่อีกสถานการณ์หนึ่ง ซึ่งต้องจับตาหลัง 18 กุมภาพันธ์นี้ที่นักโทษชั้น 14 รพ.ตำรวจ จะใช้สิทธิพักโทษกลับไปอยู่บ้าน

“ถึงวันนี้รัฐบาลมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันแล้วหรือยัง ไม่สมกับประกาศเป็นพรรคนักบริหาร คิดใหญ่ทำเป็นเลย ดังนั้นการเล่นเกมดีลนี้ เหมือนกับการเล่นกับไฟ ซึ่งไม่ง่ายเลย แม้ไม่ติดคุกสักวันเดียว แต่อยู่ รพ.ตำรวจ ก็ถูกประณามทุกวัน กระทั่งกล้องวงจรปิดเสียทุกตัวแสดงถึงการประจานกันแล้ว"

นายจตุพร กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลต่างรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ แต่เงียบ ไม่พูดจาผลีผลามอะไร อีกทั้งถ้าไม่รู้ถึงดีลแล้ว คงแสดงความไม่พอใจที่พรรคเพื่อไทยไม่เสนองบประมาณแผ่นดิน จนทำให้การบริหารรัฐบาลไม่มีงบประมาณมาใช้จ่าย ดังนั้น ทุกพรรคคงรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาจริงที่จะมีการปฏิบัติการเมื่อดีลตกลงกันไว้ถูกเบี้ยว

อีกทั้งเชื่อว่า การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นจุดพลิกทางการเมือง เพราะต้องนำเข้า ครม.เพื่อออกเป็น พรก.กู้เงิน แล้วไม่ผ่านการพิจารณา โดยเชื่อว่าไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดกล้าให้ผ่าน แต่จะมีคนหน้าบางขอแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งไม่กี่วันก็จะได้พิสูจน์กัน

"การบริหารงานแต่ละกระทรวงที่มีนักการเมืองมืออาชีพคุมอยู่ ทุกคนเงียบ ผิดปกติกันหมด ไม่มีงบประมาณยังไม่โวยวาย ส่วนนายกฯ มีอำนาจกลับไม่มีเงินบริหารประเทศ สิ่งนี้ถ้าไม่มีดีลกันไว้ย่อมเกิดมาไม่ได้ เหมือน สว.ระดับนายพลมาโหวตเลือนายกฯ แต่ยังมาอภิปรายทั่วไปแสดงว่าไม่มีดีลก็ทำไม่ได้กับสิ่งนี้ เพราะไม่มีที่ไหนทำกัน"

นายจตุพร ยอมรับว่า ที่ผ่านมาตนเองถูกกล่าวหามาตลอดที่มีคนใหญ่คนโตของประเทศเข้าไปพบเมื่อครั้งติดคุกแล้วออกจากคุกจึงเปลี่ยนไปจากคนเสื้อแดง อย่างไรก็ตามการเข้าพบนั้นคนที่มาจากเสื้อแดงลำดับถัดไปจากตำแหน่งประธาน นปช.ก็ได้เข้าพบด้วย ส่วนตนหลังจากการเข้าพบยังต้องติดคุกอยู่อีกเป็นปี

อย่างไรก็ตาม การกล่าวหาตนมีมาต่อเนื่อง เพราะรับรู้ได้ดีว่า ตนวิจารณ์รัฐบาลเพื่อไทยที่ตั้งขึ้นด้วยความผิดปกติ เกิดจากการดีล และเป็นรัฐบาลตระบัดสัตย์จากสัญญาหาเสียงไว้กับประชาชน แสดงถึงการตระบัดสัตย์เพื่อดีลได้ร่วมรัฐบาลของพวกต่างสีเสื้อ ดังนั้นสถานการณ์ปัจจุบันจึงไม่มีความขัดแย้งของสีเสื้อเหลืออยู่แล้ว เพราะในระดับตั้งรัฐบาลยังผสมสีเสื้อของทุกฝ่ายกันหมด

"ยังมีการมาอ้างอีกว่า การตระบัดสัตย์เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ทั้งที่ประเทศไม่ได้เดินไปไหนเลย แต่พวกตระบัดสัตย์ได้เดินไปเพื่อตัวเองอย่างเดียว ที่ต้องพูดวิจารณ์กันเพราะไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดความเหลื่อมล้ำ อยากให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรเท่าเทียมกัน โดยหวังว่า สักวันประชาชนจะเข้าใจ เพื่อนำไปสู่การปฎิรูปประทศ หรือเกิดปฏิวัติประเทศไม่ว่าจะได้ระบอบไหนก็ตาม แต่ขอให้ทำเพื่อประชาชน" นายจตุพร กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯซวยแล้ว! ภาคปชช.อ้างคำวินิจฉัยกฤษฎีกาคุณสมบัติ 'ทนายถุงขนม' ยื่นป.ป.ช.เอาผิด

สืบเนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี เฉพาะตามมาตรา 160(6) ประกอบกับมาตรา 98 (7) และมาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญ

'ก้าวไกล' รุมจวก 'เศรษฐา' เก่งแต่ใช้ปากต่อว่าคนอื่นแต่ทำงานไม่ได้เรื่อง

'ชุติพงษ์' ฟาด 'เศรษฐา' แก้ปัญหาสารเคมี ถ้าใช้ปากทำงานมาเป็นฝ่ายค้านดีกว่า ไม่ต้องเป็นรัฐบาล ชี้มีอำนาจแต่สั่งการไม่ได้ผลสักอย่าง 'ทวิวงศ์' เผยเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่อยุธยา

'หมอนทองเขาบรรทัด' สินค้า GI รายการที่ 3 ของตราด

รัฐบาลมุ่งเพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่นไทย ขึ้นทะเบียนทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จังหวัดตราด เพื่อความเชื่อมั่นคุณภาพสินค้า ยกระดับรายได้ชุมชน