
2 ก.พ. 2567 – นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “ขบวนการล้มล้างการปกครอง” โดยระบุว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล มีการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นหลากหลาย มีความพยายามที่จะบิดเบือนคำวิจฉัยของศาล เพื่อสร้างความรู้สึกว่าถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรม บางคนถึงขนาดที่ต้องตอบโต้หาว่าศาลรัฐธรรมนูญล้ำแดน ต้องใช้อำนาจโต้กลับ และมีการใช้คำพูดถากถางในโซเชียล
สิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องเข้าใจ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สรุปว่า มีการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น
แต่เคยเกิดขึ้น ในปี พ.ศ. 2564 ที่มีการชุมนุมในปี 2563 ประกาศ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” แต่แฝงเร้นคำพูดให้เยาวชนทั่วไปเข้าใจผิดว่า ต้องการให้สถาบันฯ อยู่เคียงคู่กับประชาชนได้อย่างสงบสุข และการชุมนุมครั้งนั้น ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯเช่นกัน
การถูกชี้ว่าล้มล้างการปกครองในครั้งนั้น จะขายคำว่า “ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง” แต่ครั้งล่าสุดที่เสนอแก้ไขมาตรา112 แต่จริงๆ แล้วก็คือซ่อนเร้นการยกเลิกมาตรา 112 และไปเขียนกฏหมายใหม่ เพราะประชาชนอาจรู้ไม่เท่าทัน
ประเด็นสำคัญที่ต้องการสื่อคือ วันนี้แผนการล้มล้างการปกครองระบอบนี้ฯ ได้มีการตั้งข้อสงสัยว่า มีการวางแผนทำกันเป็นขบวนการหรือไม่? จะจริงหรือที่การเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มนั้นต่างฝ่ายต่างทำ บนความเชื่อของตนเอง
เพราะการล้มล้างทั้งสองเหตุการณ์นั้น มีการขับเคลื่อนของผู้แสดงที่หนุนซึ่งกันและกัน กลุ่มเยาวชนหนุนพรรค และพรรคก็หนุนเยาวชน มี NGO ที่รับเงินต่างชาติมาขับเคลื่อนในทิศทางเดียวกัน
ขานรับกับสื่อที่เขามีอยู่ในมือจำนวนมาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นี่ยังไม่นับรวมรัฐบาลต่างประทศ หรือวงการทูตที่แสดงออก ในการแทรกแซงการเมืองไทย แบบไม่ต้องเกรงอกเกรงใจรัฐบาลไทย
อยากบอกพี่น้องประชาชนว่า เรากำลังเผชิญกับขบวนการการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่ไม่ต้องใช้เรือปืนมาปิดปากอ่าวไทย เพียงแค่ใช้คำว่าประชาธิปไตย มาปั่นให้กับคนกลุ่มหนึ่ง และอาศัยสื่อสมัยใหม่ แค่นี้ก็สั่นคลอนประเทศได้
ถึงเวลาที่พี่น้องไทย ต้องร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ถ้าเขาทำลายศรัทธาสถาบันฯ ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวประเทศได้ เท่ากับเขาล้มระบบนี้ได้ และอาจจะสถาปนาระบบใหม่ที่เลวร้ายกว่าเดิม ภายใต้การควบคุมของจักรวรรดินิยม แต่มีคำสวยหรูคือประชาธิปไตย
ขอเตือนเหล่าขบวนการนี้ว่า พวกคุณคิดจะตัดรากแก้วต้นไม้ ถ้าอายุต้นไม้ไม่มากคุณตัดได้และไปล้อมปลูกได้ แต่ไม้ใหญ่ที่อายุร่วม 700 – 800ปี ที่ให้ความสงบร่มเย็นแก่ผู่อาศัย ขอบอกไว้เลยว่ายาก แต่ถ้าไปเอาคนต่างถิ่นมาช่วยตัด ถ้าตัดได้ ทุกอย่างก็ต้องล่มสลายตามกันไป รวมทั้งพวกคุณด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พี่คนดี’ ร่ายกลอนแซะ ‘เท้งจะฟาดเทาไม่เลี้ยง’ ด้อมเชื่อออกลูกเป็นลิง!
เพจ P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์บทกลอนในเฟซบุ๊กระบุว่า
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
'ไทยภักดี' ไม่สนหลุดโพล! ลุยช่วยน้ำท่วม หาดใหญ่จบไปต่อปัตตานี
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เดินหน้าช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่แม้ไม่มีไทยภักดีในผลโพล
'หมอวรงค์' นำ 'ไทยภักดี' เปิดตัว 100 ว่าที่ผู้สมัครล็อตแรก ปักธง 'กทม.-ภาคใต้'
‘หมอวรงค์’ ประกาศนำทัพ ‘ไทยภักดี’ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง เปิด 100 ว่าที่ผู้สมัครล็อตแรก หวังปักธง กทม.-ภาคใต้ พร้อมประกาศชนทุนเทา เชื่อรัฐบาลยุบสภาเร็ว ชิงความได้เปรียบการเมือง
คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี


