'เทพมนตรี' หยาม 'พิธา' ขาดความกล้าหาญ มันก็ปราชัยพ่ายแพ้ร่ำไป

14 ก.พ.2567 - นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมจดหมายของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เขียนถึงน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาคดีม. 112 ว่า

เดือด!

ภาวะผู้นำทางจิตวิญญาณกล้าทำต้องกล้ารับ มิใช่การแสดงแบบลิเก ไม่เคารพความจริงคือการไม่เคารพตัวเอง กบฎผีบุญในอดีตรวมถึงผู้ปราบดาภิเษกเขากล้าแม้กระทั่งเผชิญกับความตาย ไม่หลบอยู่หลังใคร

ดังนั้นจะไม่มีวันได้รับชัยชนะ ริอาจจะเปลี่ยนแปลงแผ่นดิน แต่ขาดความกล้าหาญทั้งทางด้านจริยธรรมและการศึก มันก็ปราชัยพ่ายแพ้ร่ำไป

โบราณว่าแม่ทัพ หรือนายกองต้องเป็นผู้ฉลาดเฉลียวรู้กลศึก ไม่ใช่โง่เหง้าเต่าตุ่นกักขฬะ เป็นอันธพาล หยาบคาย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ความกตัญญูรู้คุณแผ่นดินหรือยังประโยชน์สุขให้ผู้อื่นก็ไม่มี ใช้คนราคาถูกสนตะพายโยนเศษเงินให้ก็บูชาเจ้าลัทธิ

การเลือกใช้คนจึงเป็นการยุทธศาสตร์ที่จำเป็น แต่ที่เห็นอยู่ใช้ใครเข้ามากี่รุ่นก็มีปัญหาทางสติปัญญา ท่องจำลักจำเอาวาทกรรมมาเผยแพร่ไม่ใช่ของจริง

แพ้ราบคาบทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ครับ แน่จริงต้องออกมา แสดงตัวเลยว่าข้าคือคนที่จะมาจัดวางพระราชสถานะ ไม่ใช่ร้องตะโกนกันอยู่ในสภาเมรุเผาศพ

ปล.จดหมายของจริง โพสต์เองเออเอง
มีแต่ด้อมที่ยังอยู่ในกะลาอับปรีย์จัญไรที่ไม่รู้เรื่อง!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ได้ปาดหน้า! 'พิธา' ตั้งใจมาเชียงใหม่จริง ลั่น ก.ก.ได้อันดับ 1 ต้องช่วยกันทำงาน

'พิธา' รับตั้งใจมาเชียงใหม่จริง แต่ไม่ได้ปาดหน้า 'ทักษิณ' ยัน ไม่มีนัยยะการเมือง มองกระแสพื้นที่ ไม่มีใครเป็นเจ้าถิ่น ลั่น 'ก้าวไกล' ได้รับคะแนนความไว้วางใจได้ สส.มากเป็นอันดับ 1 ก็ต้องช่วยทำงาน​

ฝ่ายค้านกู้ศรัทธา? 'พิธา' บอกลาสภา

การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นเวทีของฝ่ายค้านนำโดยพรรคก้าวไกล และพรรคประชาธิปัตย์ ซ้อมใหญ่ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมสภาหน้าตามรัฐธรรมนูญ 151

‘พิธา’ ชี้ยุบพรรคคือการติดเทอร์โบให้พรรคที่ถูกยุบ ได้แต้มต่อเลือกตั้งครั้งหน้า

ที่โรงแรมเมเปิ้ล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 วันนี้ ถึงการอภิปรายทั่วไปตาม ม.152

ทำลายสถิติ! ผู้ต้องขังยังเพิ่มพุ่ง 46 คน คดี ม.112 เกินครึ่ง ผู้อดอาหารประท้วงยังถูกขังต่อ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ปัจจุบัน (4 เม.ย. 2567) มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก อย่างน้อย 46 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีมาตรา 112 เกินกว่าครึ่ง เป็นจำนวน 28 คน

อึ้ง! เปิดคำฟ้อง 'ตะวัน-แฟรงค์' บีบแตร ขับรถแทรก ไล่ติดตาม ขบวนเสด็จ ท้าทาย-ดูหมิ่น

'แฟรงค์ได้ร่วมกันบีบแตรรถยนต์ตลอดเวลาเสียงดังยาว 1 - 2 นาที และขับรถยนต์แทรกคันอื่น ๆ ที่หยุดรอขบวนเสด็จ เพื่อขับแทรกเข้าไปในเส้นทางของขบวนเสด็จที่กำลังเคลื่อนผ่านบริเวณทางต่างระดับมักกะสันที่รถยนต์ของผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่ ต่อมาเมื่อขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว จำเลยทั้งสองคนได้ขับรถไล่ติดตามขบวนเสด็จไปในระยะกระชั้นชิดและบีบแตรลากยาวโดยไม่มีเหตุอันควร'