ฟันธง 'เศรษฐา' ไม่รอด ถึงเวลาทบทวน 'ดีลลับการเมือง'

24 พ.ค. 2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ฟันธงล่วงหน้า เศรษฐารอดยาก ไม่เกี่ยวกับดีลการเมือง

สถานการณ์การเมืองหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6:3 รับคำร้องของ 40 สว. ไว้พิจารณา และมีมติ 5:4 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลเศรษฐากันอย่างกว้างขวาง

ในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองคนหนึ่ง ขอวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ ออกเป็น 2 ส่วน คือ

1.มติของศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่

2.นายทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มอนุรักษ์ ยังแนบแน่น หรือพร้อมจะแตกหักทางการเมืองกันแล้วหรือยัง

ประเด็นแรก ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าหากดูจากมติการรับคำร้อง และมติการหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว หากพิจารณาลงในรายละเอียดของผลการลงมติ และคำวินิจฉัยส่วนบุคคลของตุลาการเสียงข้างน้อย ในประเด็นให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว เห็นได้ว่าข้อต่อสู้ของนายเศรษฐาเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะประเด็นที่นายเศรษฐาควรรู้ว่า นายพิชิต ชื่นบาน ขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรี รวมถึงรายละเอียดในหนังสือสอบถามของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และหนังสือตอบข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความชัดเจนว่าจงใจจะสอบถามในบางประเด็น และไม่ต้องการคำตอบในบางประเด็น เพื่อสร้างความชอบธรรมในการทูลเกล้าฯ เสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อดูข้อกฎหมายและเจตนาความต้องการของนายเศรษฐาแล้ว เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ประเด็นสอง ดีลลับทางการเมือง ระหว่างนายทักษิณกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมนั้น ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการให้นายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อล้มดีลทางการเมืองกัน เพราะตอนนี้ทั้งฝ่ายระบอบทักษิณและกลุ่มอนุรักษ์นิยม ไม่พร้อมจะแตกหักกัน ฝ่ายระบอบทักษิณยังไม่มีตัวตายตัวแทนขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายเศรษฐา และไม่ยอมยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคการเมืองอื่น นายทักษิณยังไม่พร้อมแตกหัก หรือเป็นศัตรูกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งเคยได้รับบทเรียนมาแล้วว่า เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มอนุรักษ์นิยมก็เจ็บตัว และพ่ายแพ้จนไม่มีแผ่นดินอยู่

ส่วนกลุ่มอนุรักษ์นิยมเช่นเดียวกัน แม้อาจจะไม่พอใจในบทบาทของนายทักษิณอยู่บ้าง แต่ก็มีความจำเป็น ต้องใช้บริการนายทักษิณทางการเมืองต่อไป ยังไม่มีตัวแทนของฝ่ายกลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่จะพอสู้กับพรรคก้าวไกลได้ จึงยอมจับมือกับระบอบทักษิณต่อไป ดีกว่าปล่อยให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล และยังจำเป็นต้องสามัคคีกันต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือจนกว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีผู้นำทางการเมืองโดดเด่นเป็นที่ยอมรับของประชาชน พอจะสู้กับตัวผู้นำของพรรคก้าวไกลได้

ถ้าเลือกได้ ทั้งฝ่ายระบอบทักษิณและกลุ่มอนุรักษ์นิยม ยังคงสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นหรือเกิดอุบัติเหตุจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ต้องพ้นจากตำแหน่งไป ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องมา ทบทวนดีลการเมืองกันใหม่อีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร คนรุ่นใหม่เพียบ ดึงคนใกล้ชิดมดดำ เสริมทีมเลือกตั้ง

เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย คนรุ่นใหม่เพี๊ยบ น้องชาย-คนสนิท มดดำ / มดเล็ก-รวีภัทร์ อดีต สส.กอล์ฟ กาญจนบุรี จั๋ง พงศ์ศรัณย์ อดีตรองเลขาธิการนายกฯ

'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า

กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ