ล้อมคอกโจรไซเบอร์ เดินหน้า 'ปอง.2'

แฟ้มภาพ

อสส. เปิด ปอง. 2  เดินหน้าพัฒนาศักยภาพบุคลากร รับมือรับมืออาชญากรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น  ชี้เป็นหลักสูตรติดอาวุธทางปัญญาที่สำคัญในการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศ

7 ก.ค.2567 – ที่ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานฝ่ายสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดโครงการอบรมหลักสูตร การพัฒนาทักษะในการดำเนินคดีฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประจำปี 2567 (ปอง.2) ร่วมกับนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในฐานะประธานฝ่ายสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

โดยมี นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายโกวิท ศรีไพโรจน์ อธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ นายวีระชาติ ศรีบุญมา ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการดำเนินคดีชั้นสูง นายพรชัย ชลวาณิชกุล อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายกิตติศักดิ์ วงษ์สวัสดิ์ ประธานรุ่น ปอง.1 และนายทีปกร โกมลพันธ์พร อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมพิธี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายไพรัช กล่าวว่า หลักสูตร การพัฒนาทักษะในการดำเนินคดีฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประจำปี 2567 (ปอง.2) เป็นหลักสูตรต้นแบบของสำนักงานอัยการสูงสุดที่จัดร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อพัฒนาศักยภาพให้ข้าราชการในกระบวนการยุติธรรม มีความรู้ความเข้าใจในการปราบปรามคดีฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ซึ่งคดีเหล่านี้นับวันมีแต่จะทันสมัยเพราะผู้กระทำความผิดมีทั้งฐานะทางการเงินและมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ

นายเทพสุ  ได้กล่าวว่า หลักสูตร การพัฒนาทักษะในการดำเนินคดีฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประจำปี 2567 (ปอง.2) เป็นหลักสูตรที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว ถือได้ว่าเป็นหลักสูตรติดอาวุธทางปัญญาที่สำคัญในการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศชาติเป็นอย่างมาก แต่ละวันมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าสูง จึงมีความจำเป็นต้องเร่งสร้างองค์ความรู้สมัยใหม่ และบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมมือกันต่อต้านภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นายโกวิท ศรีไพโรจน์ อธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ ได้ให้รายละเอียด หลักสูตร การพัฒนาทักษะในการดำเนินคดีฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประจำปี 2567 (ปอง.2) ว่าเป็นหลักสูตรต้นๆ ของประเทศไทยที่ศึกษาแบบเจาะลึกเกี่ยวกับการดำเนินคดีฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยผู้เข้ารับการอบรมมาจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ ข้าราชการอัยการ ข้าราชการจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ข้าราชการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการจากกรมการปกครอง ข้าราชการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และข้าราชการอื่นที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในระดับตั้งแต่ตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนขึ้นไปหรือเทียบเท่า รวมทั้งสิ้น 120 คน

นายโกวิท ระบุว่า มีสถาบันฝึกอบรมการดำเนินคดีชั้นสูง เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักสูตร มีนายวีระชาติ ศรีบุญมา ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการดำเนินคดีชั้นสูง เป็นผู้อำนวยการหลักสูตร และนายทีปกร โกมลพันธ์พร อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ดำเนินการหลักสูตร โดยอบรมระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 27 กันยายน 2567.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กลุ่ม สว. เตรียมยื่น ป.ป.ช. ฟัน 'ทวี-อธิบดีดีเอสไอ' รับสอบคดีฟอกเงิน

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. กล่าวว่า ในวันอังคารที่ 11 มี.ค. เวลา 15.00น. กลุ่มสว.ประมาณ 30คน จะเดินทางยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เอาผิดพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

เบิกตัว 'ทนายตั้ม-เมีย' กับพวก ขึ้นศาล ตรวจหลักฐานคดีโกง 'เจ๊อ้อย'

ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำอทย.109/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม

'สว.สรชาติ' ลั่นไม่ผิดฟอกเงิน-ไม่มีฮั้ว เชื่อดีเอสไอจะยุติสอบเพราะไร้หลักฐาน

นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ(กคพ.)รับคดีฮั้วเลือกสว.ฐานความผิดฟอกเงิน ไว้พิจารณา ว่า ประเด็นฟอกเงินเป็นอำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ซึ่งตามกรอบคือ

'ภูมิธรรม' แจงไม่ได้ตอบโต้ใคร หลังโพสต์เฟซบุ๊กร่ายยาว คดีฮั้วเลือก สว. ลั่นไม่ใช้การเมืองทำร้ายกัน

นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการออกมาโพสต์ ใน Facebook ส่วนตัว ถึง การทำหน้าที่คณะกรรมการประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.)

ตั้ง 'คดีฮั้ว สว.' แค่ฟอกเงิน ชี้ชัดดีลการเมือง 'เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน'

'รังสิมันต์' ซัดประหลาด 'กคพ.' ตั้งคดีฮั้ว สว. แค่ฟอกเงิน ทำไมไม่ตั้งต้นที่อั้งยี่ซ่องโจร ชี้ชัดดีลการเมือง 'เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน' ข้องใจ กกต. ดึงคดีอืด

สว.สำรอง ให้กำลังใจ 'ภูมิธรรม' หลังบอร์ด กคพ. ไม่รับอั้งยี่-ซ่องโจรเป็นคดีพิเศษ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารกระทรวงยุติธรรม ว่าภายหลังจากที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)