ข้องใจ! 'นายกฯอิ๊งค์-บิ๊กเพื่อไทย' ทำไมขยันลงพื้นที่ภูเก็ต

10 ม.ค. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “อุ๊งอิ๊ง หนีกระทู้สภา ไปกระทู้ภูเก็ต” โดยระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และคณะ เดินทางจากไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการลงพื้นที่ภูเก็ตอยู่หลายประเด็น เช่น

1.ทำไมต้องตรวจราชการในวันพฤหัสบดี ทั้งที่รู้ว่าเป็นวันที่ต้องตอบกระทู้ถามสดของ สส. ซึ่งน่าจะล็อกวันพฤหัสบดี ไม่รับนัด หรือมีภารกิจอื่นใด ควรสแตนด์บายเพื่อตอบกระทู้ถามสดอย่างเดียว เหมือนกับสมัยนายชวน หลีกภัย นายสมัคร สุนทรเวช หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ปักหลักตอบกระทู้ถามสดในทุกวันพฤหัสบดี

2.นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีส่วนใหญ่ จะใช้วันหยุดเป็นวันตรวจราชการลงพื้นที่ เหมือนกับนักการเมืองทั่วไป เช่น สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน ได้ใช้วันเสาร์-อาทิตย์เดินไปตรวจราชการทุกสัปดาห์ แต่นางสาวแพทองธาร มักจะใช้วันเสาร์-อาทิตย์ เป็นวันครอบครัว เป็นวันพักผ่อน เช่น พาครอบครัวร่วมกิจกรรมฟังเพลงในสวน หรือเชียร์ฟุตบอล

3.ทำไมนายกรัฐมนตรี หรือแกนนำของพรรคเพื่อไทย ชอบเดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตบ่อยๆ เช่น สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน ไปภูเก็ต 3 ครั้ง นายทักษิณ ชินวัตร ระหว่างพักโทษยังเดินทางไปภูเก็ต นางสาวแพทองธารยังหนีกระทู้ถามที่สภาฯ ไป อ.กระทู้ ภูเก็ต

มีหลายคนตั้งคำถามว่า การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ของแกนนำพรรคเพื่อไทยบ่อยๆ เช่นนี้ มีวาระอะไรซ่อนเร้นหรือไม่ หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนบ้างไหม มีหลายจังหวัดรู้สึกอิจฉาจังหวัดภูเก็ต ที่ผู้นำประเทศหลายคนเห็นความสำคัญของจังหวัดภูเก็ต หรืออาจจะเป็นเพื่อต้องการไถ่บาป หรือชดเชย ที่ครั้งหนึ่งแกนนำพรรคเพื่อไทย เคยประกาศย้ายสถานที่ก่อสร้างศูนย์การประชุมระดับนานาชาติ ที่จังหวัดภูเก็ต ไปก่อสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเหตุผลเพราะคนภูเก็ตไม่เลือก สส.พรรคเพื่อไทย ถ้าเลือกเมื่อไหร่ค่อยไปพัฒนา แต่จนถึงบัดนี้คนภูเก็ตไม่เคยเลือก สส.พรรคเพื่อไทยเลยแม้แต่คนเดียว

การลงพื้นที่ครั้งนี้ของแกนนำพรรคเพื่อไทย ถ้าหากเป็นความบริสุทธิ์ใจเพื่อพัฒนาจังหวัดภูเก็ตจริง ก็แสดงความยินดีและดีใจกับชาวภูเก็ตด้วย แต่ถ้ามีวาระซ่อนเร้น หรือผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นหน้าที่ของคนภูเก็ตและประชาชนคนไทยทุกคน ต้องช่วยกันตรวจสอบต่อไป.