'หมอวรงค์' ตีความพรบ.ราชทัณฑ์ จะขัดแย้งป.วิอาญาไม่ได้ 'ทักษิณ' ต้องกลับไปจำคุกตามม.246

22 ม.ค.2568 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

#เรื่องใหญ่ทักษิณต้องกลับไปติดคุก

ผมได้เห็นความขัดแย้งของข้อกฏหมาย เกี่ยวกับนายทักษิณที่อ้างว่ารักษาอาการป่วยวิกฤติ ที่ร.พ.ตำรวจ ต้องขออนุญาตศาลก่อนไปหรือไม่ และเมื่อรักษาครบกำหนดออกจากโรงพยาบาล ต้องกลับไปติดคุกหรือไม่

ฝ่ายราชทัณฑ์อ้างว่าทักษิณป่วยวิกฤติ (หลายฝ่ายไม่เชื่อรวมทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชน)ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ

การส่งตัวไปรักษาที่ร.พ.ตำรวจ ฝ่ายราชทัณฑ์อ้างใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 วรรคสอง ประกอบกฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563

ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจผู้บัญชาการเรือนจำ มีอำนาจส่งตัวผู้ต้องขัง ไปยังสถานบำบัดรักษาสำหรับโรคนั้นได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาล

ประกอบกับมาตรา55 วรรคท้าย กำหนดว่า ในกรณีที่ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำตามวรรคสอง มิให้ถือว่าผู้ต้องขังนั้นพ้นจากการคุมขัง

ตามพรบ.ราชทัณฑ์2560 จึงถือว่า การที่นายทักษิณรักษาตัวที่ร.พ.ตำรวจ เป็นอำนาจของฝ่ายราชทัณฑ์ไม่ต้องขออนุญาตศาล และการรักษาอยู่ร.พ.ถือว่ายังถูกคุมขัง เมื่อครบกำหนดจึงกลับบ้าน ไม่ต้องกลับเรือนจำ

ฝ่ายที่เห็นแย้ง อ้างมาตรา246ของพรบ.ให้ใช้ประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2477(ป.วิอาญา) กำหนดให้ ศาลมีอำนาจสั่งใหทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อน จนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไปในกรณีต่อไปนี้

(๒) เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก

ใน(๒)นี้ต้องถือว่า ถ้านายทักษิณเจ็บป่วยวิกฤติจริง การเจ็บป่วยวิกฤติอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ถ้าจะไปรักษาร.พ.ตำรวจ ต้องขออนุญาตศาล

ในวรรคท้ายของมาตรา246นี้ กำหนดว่า ให้หักจำนวนวันที่จำเลยอยู่ในความควบคุมตามมาตรานี้ออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา

ตีความได้ว่า การที่นายทักษิณรักษาตัวที่ร.พ.ตำรวจ 6เดือนนี้ ไม่นับว่าถูกจำคุก เมื่อไม่ถูกจำคุกเลย ต้องกลับเรือนจำไปเริ่มต้นจำคุก

ปัญหาจึงเกิดขึ้น เมื่อมาตรา55ของพรบ.ราชทัณฑ์ และกฏกระทรวง ขัดแย้งกับมาตรา246ของป.วิอาญา ต่างฝ่ายต่างอ้างอิงพรบ. จึงต้องไปดูมาตรา6 ของพรบ.ราชทัณฑ์2560 กำหนดว่า

มาตรา 6 กรมราชทัณฑ์อาจดำเนินการให้มีมาตรการบังคับโทษด้วยวิธีการอื่นนอกจากการควบคุม ขัง หรือจำคุกไว้ในเรือนจำ แต่มาตรการดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมตลอดถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ

สรุปได้ว่ามาตรา55 ของพรบ.ราชทัณฑ์ 2560 และกฏกระทรวง จะไปขัดแย้งกับมาตรา246 พรบ.ป.วิอาญา 2477 ไม่ได้ จึงขอฝากให้ฝ่ายราชทัณฑ์ รวมทั้งนายกอุ๊งอิ๊งรับรู้ไว้ด้วยว่า พวกท่านหมิ่นเหม่ที่ขัดกฏหมาย

ท้ายที่สุดจึงมีบทสรุปคือ
1.นายทักษิณป่วยวิกฤติที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ถึงขนาดต้องไปรักษาที่ร.พ.ตำรวจจริงหรือไม่ ต้องรอ ผลตรวจสอบจากแพทยสภา และป.ป.ช.

2.ถ้านายทักษิณป่วยวิกฤติ(สมมติว่าจริง) ต้องส่งรักษาตัวที่ร.พ.ตำรวจ ต้องขออนุญาตศาลก่อน เพราะพรบ.ราชทัณฑ์และกฏกระทรวง จะขัดแย้งกับ ป.วิอาญาไม่ได้

3.การที่รักษานายทักษิณหายแล้ว ใช้เวลา6เดือนในร.พ.ตำรวจ ต้องกลับไปจำคุกที่เรือนจำ เพราะการรักษาที่ร.พ. ไม่นับว่าเป็นการจำคุก เพราะพรบ.ราชทัณฑ์และกฏกระทรวง จะขัดแย้งกับ ป.วิอาญาไม่ได้

นี่คือระบบถ่วงดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับตุลาการ ที่ออกแบบมาอย่างดี ดังนั้นนายทักษิณจึงต้องกลับไปจำคุก ตามมาตรา246 ของป.วิอาญา