28 ก.พ.2568 - สฤณี อาชวานันทกุล นักเขียนและนักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีทางการไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คน กลับประเทศจีน ว่า
ยังไม่รู้จะตกใจอะไรมากกว่ากัน ระหว่างการแถลงของรัฐบาลเรื่องการแอบส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับจีน กับคอมเม้นท์ของคนไทยจำนวนมากที่ดูเหมือนไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมในรอบ 10 ปีนี้เลย แต่ในฐานะที่ทำวิจัยในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน สอนภาคธุรกิจเรื่องการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านมาหลายปี อยากบันทึกความเห็นของตัวเองต่อกรณีนี้สักเล็กน้อย และชวนแลกเปลี่ยนกันนะคะ
(อันนี้คือ พยายามคิดแบบ realpolitik ที่ดูจะเป็นแฟชั่นสมัยนี้ แล้ว ไม่พูดเรื่องหลักการ มนุษยธรรม จริยธรรมใดๆ แม้จะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้สำคัญมากก็ตาม)
1. ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจอย่าง จีน รัสเซีย เมกา ที่จะอวดเบ่งหรือทำอะไรๆ ที่ค้านสายตาชาวโลกโดยไม่ต้องแคร์ข้อครหาได้
2. ข้อตกลงระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนฉบับต่างๆ เปรียบเสมือน “เกราะป้องกัน” และ “หลังพิง” ที่ไทยใช้อ้างเพื่อปกป้องตัวเองจากการคุกคามของประเทศที่ใหญ่กว่าได้ (ข้อตกลงเหล่านี้เกิดขึ้นก็เพื่อปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า)
3. การทำตามข้อตกลงเหล่านี้ + แสดงตัวว่าเคารพในปทัสถานโลก หรือทำตัวเป็นผู้นำโลกในเรื่องนี้ สามารถเป็น ”เครื่องมือ“ สร้างอำนาจต่อรองแบบ soft power (อำนาจโน้มนำให้ประเทศอื่นเกรงใจและทำตามความต้องการ) สำหรับประเทศเล็กๆ อย่างไทยได้ (ดูตัวอย่างประเทศอย่าง นอร์เวย์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์)
พูดอีกมุมก็คือ ประเทศเล็กๆ ไม่ว่าจะพยายามขาย “สินค้าทางวัฒนธรรม” แค่ไหนก็ตาม ลำพังยอดขายเหล่านั้นก็ไม่มีทางสร้าง soft power ได้ ถ้าไม่ยึดมั่นในปทัสถานที่ประชาคมโลกตกลงร่วมกัน (ซึ่งเป็นประโยชน์กับตัวเองด้วย)
4. มีเสียงด่ารัฐบาลประยุทธ์มากมายเกือบ 10 ปี ว่าเป็นเผด็จการ ไม่แยแสเรื่องสิทธิมนุษยชน คุกคามคนในชาติตัวเอง เป็นลูกไล่จีน ฯลฯ — รัฐบาลเพื่อไทยในฐานะรัฐบาลชุดแรกที่มาจากฝั่ง “ประชาธิปไตย” หลังรัฐบาลทหาร ก็เคยประณามรัฐบาลทหารในประเด็นเหล่านี้อย่างรุนแรง
5. สิ่งที่ไทยทำในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เช่น การออกกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานอุ้มหาย การเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกต่อชาวโลกว่า ไทยพร้อมแล้วที่จะกลับสู่วิถีประชาธิปไตย กลับมาเป็นสมาชิกประชาคมโลก เดินตามปทัสถานโลก — ดังนั้นชาวโลกจงกลับมาเชื่อถือไทยเถอะนะ กลับมาลงทุนหน่อยนะ ฯลฯ
6. การแอบส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับจีนรอบนี้ (แถมรัฐบาลจีนยืนยันก่อนรัฐบาลไทยอีกว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นจริงๆ) ทำให้สิ่งที่ไทยพยายามสร้าง ความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่พยายามกอบกู้ในข้อ 5. “พังพินาศ” อย่างสิ้นเชิง
7. นักวิชาการบางคนมองว่า การส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับจีนรอบนี้คือ “เงื่อนไข” ที่ไทยจำเป็นต้องรับ เพื่อ “แลก” กับการที่จีนเข้ามาปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนตัวไม่เห็นเบาะแสของเรื่องนี้เลย และมันก็ฟังดูไม่เป็นเหตุเป็นผล เพราะจีนมีแรงจูงใจเต็มเปี่ยมอยู่แล้วที่จะจัดการกับแก๊งคอล เพราะมีดาราและประชาชนตัวเองจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ + “จีนเทา” ทำให้ภาพลักษณ์จีนตกต่ำ แถมปกติรัฐบาลไทยก็กุลีกุจอเอาใจจีนอยู่แล้ว (ไม่ต่างจากสมัยประยุทธ์) ไม่เห็นว่าจีนจำเป็นต้องยื่นเงื่อนไขนี้มาแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บุกอัยการสูงสุด! มัด ’ฮวด-คนสนิทฮุนเซน‘ พัวพันอุ้มหายวันเฉลิม
พี่สาววันเฉลิม–มูลนิธิผสานฯ ยื่นคลิปเสียง-ภาพถ่าย มัด “เคลียง ฮวด” คนสนิทฮุนเซน เชื่อมีเอี่ยวไล่ล่าผู้เห็นต่างในไทย–กัมพูชา จี้รัฐหยุดนิ่งเฉย พร้อมสอบสัญชาติไทย หากพบเกี่ยวข้อง ต้องดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ ทุเลาการบังคับโทษจำคุก ต่างจากส่งตัวรักษานอกเรือนจำ
ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน เผยความหมายกฎหมายชัดเจน “การทุเลาการบังคับโทษจำคุก” กับ “สิทธิในการส่งตัวผู้ต้องขังไ
เวทีอาเซียน ถกปมสารพิษเหมืองแร่ปนเปื้อนแม่น้ำกก ชี้ผลกระทบข้ามแดนละเมิดสิทธิคนในพื้นที่
ยกสารพิษจากเหมืองแร่ในน้ำกก-น้ำสายหารือในที่ประชุมกรรมการสิทธิอาเซียน “ผู้แทนไทย”ชี้ผลกระทบข้ามแดนละเมิดสิทธิของคนในพื้นที่ เครือข่ายภาคประชาชนผิดหวังนายกรัฐมนตรีไม่ให้ความสำคัญ สส.มานพแนะตั้งคณะทำงานเฉพาะกิ0แก้ด่วน-จี้ยกหูคุยกับจีน
'ผู้นำชีอะห์' ลากไส้ NGO ต่างชาติ จุดไฟใต้ ช่วย BRN ตามวาระ 'ตะวันตก' แบ่งอำนาจอธิปไตยไทย
'ผู้นำชีอะห์'ลากไส้NGOต่างชาติที่มีต่อปัญหาชายแดนใต้ แฉเบื้องหน้าอ้างสิทธิมนุษยชนเบื้องหลังคือเครื่องมือแทรกแซงทำเป็นผู้หวังดีแต่ได้ประโยชน์จากทุกฝ่าย ช่วย 'BRN' เปลี่ยนภาพลักษณ์จาก'กลุ่มติดอาวุธ'เป็น'ขบวนการทางการเมือง'ตามวาระ'ตะวันตก' แบ่งอำนาจอธิปไตยไทย แนะรัฐไทยควรมี 'NGO ฝ่ายความมั่นคง' ตอบโต้
ชี้สายการบินแห่งชาติไม่รับผู้ติดเชื้อ HIV เข้าทำงานโดยไม่มีเหตุจำเป็นถือว่าละเมิดสิทธิ!
กสม.เผยกรณีบริษัทสายการบินแห่งชาติปฏิเสธไม่รับผู้ติดเชื้อเอชไอวีเข้าทำงานโดยไม่มีเหตุผลอันจำเป็น เป็นการละเมิดสิทธิ แนะกระทรวงการคลังกำกับดูแลให้เป็นไปตามหลักสากล
'อังคณา' ชี้ชัดกติกาสากล 'สิทธิความเป็นส่วนตัว' ลั่นเห็นด้วยศาลนัดไต่สวนทักษิณป่วยทิพย์
จากกรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งไต่สวนปมบังคับโทษนายทักษิณ ชินวัตร ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกหรือไม่ โดยศาลนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568