'กสม.' เน้นย้ำการฝึกทหารที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกทหารใหม่กองทัพเรือ ชื่นชมกองทัพในมาตรการป้องกันการซ้อมทรมานทหารเกณฑ์
7 มี.ค.2568- นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่กสม.ได้ประสานความร่วมมือกับทางกองทัพ เพื่อดำเนินงานร่วมกันในการป้องกันการทรมานและการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม นั้น
เมื่อเช้าวันที่ 5 มี.ค. 2568 ตนได้รับเชิญจากกรมกำลังพลทหารบก กองทัพบกให้ร่วมรับชมนิทรรศการสร้างการรับรู้ด้านกำลังพล และมาตรการควบคุมและป้องกันการลงทัณฑ์หรือลงโทษ จากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยมีพลเอก ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธาน และได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “การลงโทษทางทหารภายใต้มาตรการด้านสิทธิมนุษยชน” ร่วมกับผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ผู้แทนกรมพระธรรมนูญ และผู้แทนกรมเสมียนตรา ณ หอประชุมกิตติขจร กองบัญชาการกองทัพบก โดยพูดถึงหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี อนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนก.พ.2566 เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้เข้าร่วมรับฟังการเสวนา ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงานในสังกัดกองทัพบก ให้สามารถนำไปถ่ายทอด ชี้แจง ทำความเข้าใจกับบุคคลกรในหน่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นย้ำว่ามาตรการการลงโทษพลทหารต้องเป็นไปตามกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน ไม่ละเมิดสิทธิในชีวิตและร่างกาย ไม่ทำร้ายหรือทรมาน รวมทั้งไม่ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทหาร ทั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีที่กระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่ง ที่ 1379/2567 และกองทัพบกมีคำสั่ง ที่ 499/2567 เรื่อง มาตรการควบคุมและป้องกันการลงทัณฑ์หรือลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและแบบธรรมเนียมทหาร ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก โดยได้มีการแจ้งเวียน อบรมให้ความรู้และกำชับผู้เกี่ยวข้องให้ถือปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้โดยเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการลงทัณฑ์หรือลงโทษที่ขัดต่อกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2568 โดยน.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช คณะกรรมการกสม.และตนเอง รวมทั้งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดย กสม. และคณะ ได้ประชุมร่วมกับผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่และคณะผู้บริหารศูนย์ฝึกฯ ได้รับทราบภารกิจหน้าที่ของศูนย์ฝึกฯ แนวคิดในการจัดการฝึกและอบรมตามข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ตลอดจนการฝึกอบรมภายใต้มาตรการความปลอดภัยของกองทัพเรือ (NAVY - SAFETY 2025) จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกทหารใหม่ ใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านนโยบายการบริหารจัดการศูนย์ฝึกฯ ด้านกระบวนการฝึกทหารใหม่ ด้านอาคารสถานที่และสภาพทางกายภาพ และด้านการรักษาพยาบาล เพื่อประเมินมาตรการที่ใช้ในการป้องกันการทรมานและการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ซึ่งโดยภาพรวมพบว่า ศูนย์ฝึกฯ ได้ดำเนินการฝึกทหารใหม่ตามมาตรการความปลอดภัยและแนวปฏิบัติที่ดี เช่น มาตรการป้องกันโรคลมแดด (Heat Stroke) มีการแสดงธงสีต่าง ๆ เพื่อกำหนดระยะเวลาในการฝึกกลางแจ้ง การพัก การดื่มน้ำ รวมทั้งมีการพ่นละอองน้ำช่วยคลายร้อน มีการดูแลทหารใหม่และส่งเสริมสภาพการฝึกที่ปลอดภัย มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามอาคารสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อทหารใหม่โดยเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจละเมิดสิทธิ เช่น ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ต้องไม่มีการลงโทษในลักษณะการทำร้ายร่างกายโดยเด็ดขาด ห้ามลงโทษชนิดถูกเนื้อตัวร่างกายของทหารใหม่ รวมทั้งงดท่าทำโทษที่อันตราย ซึ่งมาตรการเหล่านี้สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชน
นอกจากนี้ ศูนย์ฝึกฯ กองทัพเรือ ยังได้เตรียมแพทย์และพยาบาลที่พร้อมให้บริการแก่ทหารใหม่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย มีอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น และพร้อมนำส่งไปรักษายังโรงพยาบาลใกล้เคียง
“การตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกทหารใหม่ กสม. เริ่มการตรวจเยี่ยมที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่กองทัพเรือเป็นแห่งแรก ตามโครงการความร่วมมือกับกองทัพในการป้องกันการทรมานและการกระทำที่ไม่เหมาะสมจนเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสีย ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชมว่า ศูนย์ฝึกฯ ของกองทัพเรือได้พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการฝึกให้สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชน มีการสร้างความตระหนักเรื่องสิทธิมนุษยชนให้แก่ครูฝึกและกำลังพล รวมทั้งมีแนวทางป้องกันการทรมานที่เข้มงวดและชัดเจน เป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สมควรได้รับการส่งเสริมและขยายผลต่อไป” นายวสันต์ กล่าว
ต่อมา ในวันที่ 6 มี.ค. 2568 กสม. ได้จัดกิจกรรมคลินิกสิทธิมนุษยชน การสร้างความรู้ความเข้าใจสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันการทรมานและการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมสำหรับกลุ่มครูฝึกทหารใหม่ โดยมีผู้บริหาร พร้อมครูฝึกทหารใหม่ จำนวน 50 คน เข้าร่วม ทั้งนี้ กสม. ได้ให้ข้อมูลถึงที่มาและหลักการด้านสิทธิมนุษยชน พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ รวมถึงเน้นย้ำมาตรการและแนวทางในการฝึกทหารที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยเฉพาะในประเด็นอะไรที่ทำได้และอะไรที่ห้ามทำในการฝึกทหารใหม่ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กสม.ชงคุ้มครองสิทธิเด็ก กรณีถูกนำไปทำคอนเทนต์ ละเมิดสิทธิ เสี่ยงต่อภัยออนไลน์
กสม. มีข้อเสนอแนะในการคุ้มครองสิทธิเด็ก กรณีเด็กถูกนำไปทำคอนเทนต์โดยละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวและเสี่ยงต่อภัยออนไลน์
กสม.แนะตร.เลี่ยงควบคุมตัวผู้ต้องหาหญิงยามวิกาล ปล่อยชั่วคราวโดยดูพฤติการณ์ประกอบ
กสม. แนะสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเลี่ยงการควบคุมตัวผู้ต้องหาหญิงยามวิกาล และพิจารณาปล่อยชั่วคราวโดยดูพฤติการณ์ผู้ต้องหาในคดีประกอบด้วย
กสม. จี้อุทยานฯ-เจ้าท่า แก้ปัญหา 'ชาวเลอูรักลาโว้ย' ถูกละเมิดสิทธิกีดกันบริการนักท่องเที่ยว
กสม. ชี้กรณีผู้ประกอบกิจการกีดกันกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลอูรักลาโว้ยจากงานบริการนักท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะเป็นการละเมิดสิทธิฯ แนะอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และสำนักงานเจ้าท่าสตูล แก้ไขปัญหา
กสม. ชี้สายการบิน ปฏิเสธออกบัตรโดยสารให้ 'ผู้ชายข้ามเพศ' เป็นการละเมิดสิทธิฯ
กสม. ชี้ กรณีสายการบินแห่งหนึ่งปฏิเสธออกบัตรโดยสารให้ผู้โดยสารข้ามเพศ เป็นการละเมิดสิทธิฯ เสนอสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยหาทางป้องกันและแก้ไข
กสม. ชี้ สน.ชนะสงคราม แทรกแซงสิทธิ จัดเก็บ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเยาวชนนักกิจกรรม
กสม. ชี้ สน.ชนะสงคราม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเยาวชนนักกิจกรรมเป็นการแทรกแซงสิทธิเกินสมควรแก่เหตุ จี้ตร. ยกเลิกการจัดทำบัญชีบุคคลเฝ้าระวังด้วยเหตุแสดงออกทางการเมือง
กสม.ออกโรงจี้รัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่นพิษในภาพรวม
'กสม.' เตรียมทำข้อเสนอถึงรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาและผลกระทบจากมลพิษด้านฝุ่นละอองในภาพรวม