
‘สมศักดิ์’ วีโตมติแพทยสภายิ่งเรียกแขก ปลุกหมอ-ปชช. ออกโรงป้องเกียรติภูมิแพทย์ ‘ชาญชัย’ ชูใบเสร็จ รพ.ตำรวจ มัด ‘ทักษิณ’ รัฐบาลส่อง่อนแง่น นายกฯ ทำใจลำบากสั่งจับพ่อ-บังคับอาชดใช้หมื่นล้าน
30 พ.ค. 2568 – นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยเชื่อว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ได้วีโต้มติลงโทษจริยธรรม เท่ากับเรียกแขกทั้งหมอและประชาชนลุกฮือปกป้องเกียรติภูมิแพทย์ครั้งสำคัญ
“นายสมศักดิ์ วีโตมติแพทยสภายิ่งทำให้กระแสแพทย์อาวุโสและแพทย์ที่รักเกียรติภูมิ รวมทั้งประชาชนจะแสดงเจตนาคัดค้านการวีโต้ของ รมว.สาธารณสุข โดยจะเรียกร้องให้แพทยสภาใช้เสียง 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิมในการประชุมวันที่ 12 มิ.ย. นี้”
นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งสำคัญกลุ่มแพทย์เป็นเครือข่ายไม่เอาบ่อนกาสิโน ดังนั้น การเรียกร้องรักษาเกียาติภูมิของแพทยสภาจะเป็นกระแสร้อนแรงขึ้นแล้วลามไปคัดค้านบ่อนกาสิโน และอาจส่งผลลัพธ์ให้การประชุมวันที่ 12 มิ.ย. ที่ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หรือจำนวน 47 คนจาก 70 คน แล้วยังต่อเนื่องไปถึงวันที่ 13 มิ.ย. ที่ศาลฎีกานักการเมืองนัดพร้อมหรือไต่สวนได้บังคับตามหมายจำคุกทักษิณ ชินวัตร หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เสียงวีโตของ รมว.สาธารณสุข จะไม่มีผลต่อศาลฎีกานักการเมืองนัดพร้อมในวันที่ 13 มิ.ย. เพราะศาลคงพิจารณาจากข้อเท็จจริงกรณีทักษิณ พักชั้น 14 รพ.ตำรวจ มากกว่า อีกทั้งถ้าเสียงแพทยสภาไม่ถึง 2 ใน 3 แล้ว ยังสามารถประชุมลงมติพิจารณาลงโทษจริยธรรมแพทย์ครั้งใหม่ได้อยู่ดี
นอกจากนี้ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ได้ยื่นหลักฐานต่อศาลฎีกานักการเมือง โดยหลักฐานที่น่าสนใจคือ ใบเสร็จ จ่ายค่าห้องพักชั้น 14 รพ.ตำรวจ
“ใบเสร็จที่ชำระเงินทุกสัปดาห์นั้น เกินกว่า 90% เป็นการจ่ายค่าห้อง ค่าอาหาร ค่านวดทำกายภาพบำบัด ส่วนจ่ายค่ารักษามีเพียงขี้เล็บ ดังนั้น หลักฐานทุกอย่างจะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะเวชระเบียนต้องตรงกับค่ารักษาตามใบเสร็จ ถ้าไม่ตรงกันยิ่งจะกลายเป็นปัญหา หรือจะแต่งเรื่องใหม่ก็ทำไม่ได้ง่ายๆ แล้ว”
นายจตุพร กล่าวว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ ตามกฎหมาย ทั้งใบเสร็จ ประจักษ์พยาน ย่อมอธิบายเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะมีรายละเอียดครบถ้วนต่อการพิจารณาของศาลฎีกานักการเมืองในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ โดยใครจะเปลี่ยนแปลงหรือเล่นแร่แปรธาตุเป็นอย่างอื่น คงไม่มีผลอะไรทังสิ้น
ส่วนนายทักษิณ จะไปนัดพร้อมหรือไต่สวนตามหมายเรียกของศาลฎีกานักการเมืองในวันที่ 13 มิ.ย.หรือไม่นั้นนายจตุพร กล่าวว่า ศาลเรียกทักษิณในสถานะจำเลยคดีทุจริต ซึ่งลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี และเรียกอัยการสูงสุดหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ในฐานะโจทก์ รวมถึงหน่วยงานทั้งกรมราชทัณฑ์ รพ.ตำรวจ และ รพ.ราชทัณฑ์ ให้ทำคำชี้แจงยื่นต่อศาลภายในวันที่ 30 พ.ค.นี้ แล้วนัดพร้อมหรือไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย.
“คำว่านัดพร้อมคือพาโจทก์และจำเลยกลับมาสู่สถานะเดิม ดังนั้น ทั้งโจทก์และจำเลยต้องไปศาลฎีกาฯ เพราะอาจมีการไต่สวนในวันเดียวกันได้ ดังนั้น โจทก์และจำเลยจะไม่ไปศาลได้เหรอ อย่างไรก็ตาม ทักษิณ ตอบเรื่องนี้ไม่ชัดเจนโดยบอกจะตัดสินใจในเที่ยงคืนวันที่ 12 มิ.ย.”
ทั้งนี้ หากศาลเห็นว่า มีการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว นายทักษิณต้องทำใจกลับสู่สถานะเดิมคือ ถูกคุมขังในเรือนจำ ถ้านายทักษิณไม่ไปศาลต้องถูกหมายจับ แล้วศาลจะนัดใหม่อีกครั้งก็เป็นไปได้ ดังนั้น ผลการไต่สวนจึงเป็นยิ่งกว่าศาลาวัดใจเสียอีก ส่วนบุคคลอื่นย่อมเข้าข่ายเป็นผู้ละเมิดอำนาจศาล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ซึ่งทั้งหมดอะไรก็เกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม หากนายทักษิณคิดว่าไม่ได้ทำผิดก็ควรไปนัดพร้อมหรือไต่สวนตามที่ศาลฎีกานักการเมืองมีหมายเรียกไปติดหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า แต่ที่ผ่านมานายทักษิณ กลับพยายามอ้างพระบรมราชโองการลดโทษเพียงข้อความประโยคเดียวที่ระบุให้ใช้ความรู้ความสามารถมาทำงานรับใช้บ้านเมือง แล้วหลบเลี่ยงไม่ระบุถึงโทษจำคุก 1 ปีเลย
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้เสถียรภาพรัฐบาลง่อนแง่นคลอนแคลนอย่างยิ่ง เพราะถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาทั้งภายนอกประเทศและในประเทศ สิ่งสำคัญรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ แม้ชะลอแจกเงินหมื่นในโครงการดิจิทัลวอลเลต แต่การรวมงบประมาณ 1.57 แสนล้านไปแบ่งแจกกันตามโครงการสร้างงานอื่นๆ ยิ่งเกิดเสียงครหาตามมามากมายว่า เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ส่วนการเปลี่ยนแปลงพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ก่อน 13 มิ.ย.นี้ จะปรับพรรคภูมิใจไทยออกจาก ค.ร.ม. หรือไม่ โดยมีชะตากรรมของทักษิณจะหนีคุกหรือไม่หนีเป็นตัวเร่งสถานการณ์ของรัฐบาล
“ถ้าทักษิณหนี คนมีหน้าที่ตามจับตัวคือนายกฯ ที่เป็นลูกสาวต้องสั่ง ผบ.ตร. แล้วลูกสั่งจับพ่อจะทำใจได้หรือไม่ อีกทั้งนายกฯ ต้องรับผิดชอบสั่งกระทรวงการคลังออกคำสั่งใหม่ตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดให้ชดใช้เงินคืนรัฐ 10,028 ล้านบาทที่เป็นความเสียหายจากการระบายข้าวจีทูจีในโครงการจำนำข้าวสมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์นายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร จึงมาถึงการตัดสินใจอาจต้องมีคำสั่งจับพ่อและบังคับโทษกับอดีตนายกฯยิ่งลักษิณ ซึ่งเป็นอา ดังนั้น รัฐบาลคงไปต่อได้ยาก ยิ่งเศรษฐกิจของประเทศล้มระเนระเนด แล้วปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการสู้รบตามชายแดนพม่ากับกัมพูชาปะทุขึ้นมาซ้ำเติมอีก
ดังนั้น ประเทศไทยเต็มไปด้วยวิกฤตภายในประเทศแทบทุกด้าน ราคาพืชผลผลิตการเกษตรตกต่ำทุกชนิด หลากหลายปัญหาจึงประเดประดังมารุมล้อม แต่การทำงานของรัฐบาลแทบหาความสำเร็จไม่ได้ ขณะที่นายกฯ และผู้กำกับการแสดงเบื้องหลังไร้วิสัยทัศน์แก้ปัญหาของประเทศ โดยเน้นแต่ปราบยาเสพติด ซึ่งเป็นหน้าที่ปกติของรัฐบาลต้องทำอยู่แล้ว
นอกจากนี้ อุปสรรคขวากหนามใหญ่ที่รัฐบาลต้องเผชิญหน้า คือ การถูกร้องเรียนกรณีฝ่าฝืน มาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญ 60 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. โดยปัญหานี้เมื่อถูกส่งต่อศาล รธน.แล้ว ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกกวาดเรียบ ส่งผลจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางการเมืองของไทย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ


