อดีต สส.นครศรีฯ ชำแหละคดีชั้น 14 ชี้แค่เวชระเบียนจากแพทยสภาและคำให้การผู้บัญชาการเรือนจำ ก็พอชี้ได้ชัดว่า “ทักษิณ” ไม่ได้ป่วยจริง ซัดการส่งตัวไป รพ.ตำรวจไม่ผ่านขั้นตอน ถือเป็นข้อพิรุธสำคัญ
14 มิถุนายน 2568 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรม โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ไต่สวนนัดแรก ก็ได้คำตอบแล้ว” ระบุว่า กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดไต่สวนคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาเป็นนัดแรก และมีการกำหนดไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 20 ปาก นัดไต่สวนในวันที่ 4,8,15 กรกฎาคม ดังนั้นการไต่สวนพยานให้ครบ 20 ปาก ต้องใช้เวลาพอสมควร ก่อนที่จะศาลจะมีคำวินิจฉัย
ตามที่ได้ติดตามและประมวลข่าวจากการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พอจะเห็นข้อเท็จจริงอะไรบางอย่าง ถ้าสมมุติว่าเป็นศาลฎีกา หรือเป็นผู้พิพากษาพิจารณาคดีนี้ ผมคิดว่าอาจจะไม่ต้องไต่สวนครบ 20 ปากก็ได้ ถ้าดูตามพยานหลักฐานในตอนนี้ สามารถไต่สวนแค่พยานหลักฐาน2ปาก ก็น่าที่จะสรุปผลหรือสามารถที่จะชี้ได้ว่าคดีชั้น 14 เป็นอย่างไร
สำหรับหลักฐานสำคัญ เช่น ผลการลงมติของแพทยสภาในการลงโทษแพทย์3คน ที่ช่วยเหลือคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ซึ่งสามารถที่จะดูในรายละเอียดการสอบสวนของแพทยสภาได้ โดยเฉพาะเวชระเบียน ซึ่งเป็นข้อมูลที่แพทยสภาสามารถวินิจฉัยได้ว่า นายทักษิณป่วยวิกฤติหรือไม่ ป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ เพราะเวชระเบียนของนายทักษิณ ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานได้ดู แต่เชื่อว่าแพทยสภา ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพเดียวกันสามารถดูได้ และคำวินิจฉัยหรือการตัดสินของกรรมการแพทยสภา เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งศาลสามารถรับฟังได้ เป็นพยานเอกสารชิ้นสำคัญ เป็นสารตั้งต้นของการไต่สวนคดีชั้น 14 ว่าป่วยจริงหรือป่วยทิพย์
ส่วนพยานบุคคลศาลฎีกาฯได้ไต่สวนหนึ่งคน คือนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อได้ไต่สวนเพียงเดียว สามารถเห็นข้อบกพร่อง ข้อพิรุธในหลายประเด็น เช่น ถามถึงการเขียนใบส่งตัวล่วงหน้าก่อนที่จะมีการตรวจ หรือศาลถามถึงการส่งตัวนายทักษิณไปโรงพยาบาลตำรวจเลย โดยไม่ผ่านโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ซึ่งไม่เคยมีปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนเลย ฯลฯ
ตอนนี้แค่พยาน 2 เรื่องนี้ น่าจะมีหลักฐานเพียงพอ ที่จะวินิจฉัยได้หรือคาดการณ์ได้เลยว่า นายทักษิณป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ ยังไม่รวมถึงพยานที่ศาลฎีกาฯจะไต่สวนให้ครบกระบวนความ คือพยานทั้ง 20 ปาก หรืออาจจะมากกว่านั้น ตามที่ศาลฎีกาเห็นสมควร
แต่สำหรับผมในฐานะปุถุชนคนธรรมดา ที่ติดตามเรื่องนี้ เห็นว่าแค่พยาน 2 เรื่องนี้ก็เพียงพอ สำหรับการตัดสินแล้วว่านายทักษิณป่วยทิพย์และไม่ได้ติดคุกเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลฎีกาพิพากษายืน คุกตลอดชีวิต สมาขิกเเก๊งค้ายาเล่าต๋า
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่อย.5907/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ยื่
‘เสรีพิศุทธ์’ จัดเต็ม ‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นกรรม แฉลึก...ศึกสีกากี
กลายเป็นเรื่องที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก กับการออกเปิดโปง-แฉข้อมูลเรื่องตำรวจรับผลประโยชน์ รับส่วยจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
'ภูมิใจไทย'โชว์พร้อมยุบสภา 'ทักษิณ'ถูกสกัด-'พท.แพแตก'
การเมืองเวลานี้ต้องจับตาว่าจะมีการเลือกตั้งตาม MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้วันที่ 31 มกราคม 2569 เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหญ่หรือไม่
พิษทุนเทา 'เทพไท' ชี้เปรี้ยงยุติธรรมไทยเน่าเฟะทั้งระบบ ต้องสังคายนาใหม่
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า ทุนเทาทำลายกระบวนการยุติธรรมไทย
พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์
อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข
‘ปลื้ม’ ถอดบทเรียนทักษิณ ต้องรู้จักแพ้-รู้จักหมอบ ถ้ามีแผลก็อย่าซ่า
หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ไลฟ์ “บทเรียนที่แสนแพง” ชี้ชีวิตการเมืองไม่สวยหรู เด็กต้องเรียนรู้การพ่ายแพ้ เก็บข้าวของกลับบ้าน และรู้ว่าถ้ามีแผลในสารบบศาบ แผลนั้นพร้อมเหวอะทันทีเมื่อถูกเชือด ระบุซ่าได้ต่อเมื่อไม่มีแผล


