
1ต.ค.2568 - โจ้ - ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร ที่ปรึกษาธุรกิจ และเจ้าของเพจ "เขียนไว้ให้เธอ" เขียนถึง โต้ง - สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ในหัวข้อ "โฆษกผู้น่ารัก" มีเนื้อหาดังนี้
โต้ง สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เพิ่งถูกตั้งเป็นโฆษกรัฐบาล ผมรู้จักเขามานานตั้งแต่ยังเป็นนักธุรกิจวัยละอ่อน เป็นคนศรีสะเกษและเป็นมือใหม่ด้านการเมืองอยู่กับคุณบรรหาร ศิลปอาชา
โต้งเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่ง เป็นคนตลก มองโลกในแง่ดี หวังดีกับผู้คน มีอะไรก็ได้คุยกับเขาลึกๆอยู่บ่อยครั้ง เห็นตั้งแต่ช่วงไฟแรงจนถึงตกต่ำและกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง แต่โต้งก็เป็นน้องที่สม่ำเสมอมาตลอด
พอเขาได้ถูกแต่งตั้งเป็นโฆษกรัฐบาล ก็อยากจะเล่าถึงเขาซักหน่อย…
……
เมื่อหลายปีก่อน โต้งนักการเมืองหนุ่มบ้านนอก จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดอยู่พรรคขนาดกลางที่มีชื่อด้านการเลือกข้างที่เป็นรัฐบาลอยู่เสมอตามประสาพรรคกลางทั่วๆไป ออกหาเสียงสู้กับนักการเมืองเจ้าถิ่นจากพรรคใหญ่ผู้ประกาศเจตนารมณ์แน่วแน่ว่าไม่เอาพลเอกประยุทธ์เป็นรัฐมนตรีตามกระแสพื้นที่ในตอนนั้น
นักการเมืองหนุ่มผู้นี้เป็นที่รักของชาวบ้านเพราะลงพื้นที่ทำงานหนักมาตลอด มีโอกาสได้รับการเลือกตั้งสูงก็ต้องตอบคำถามนี้เช่นกัน
ในการหาเสียงเลือกตั้ง เขาถูกถามว่าถ้าได้รับเลือกเป็น สส แล้วจะโหวตใครเป็นนายกรัฐมนตรี เขาตอบตามหลักการการสังกัดพรรคไปว่า จะเลือกหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้พอใจแค่นั้น ถามต่อว่าแล้วจะเลือกพลเอกประยุทธ์เป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ เขาก็ให้คำมั่นสัญญากับชาวบ้านว่า จะเลือกหัวหน้าพรรคตัวเองเป็นนายกฯเท่านั้น ไม่ว่าใครคนอื่นก็จะไม่เลือก ชาวบ้านก็ดูพอใจในคำตอบนั้น
ผลการเลือกตั้งออกมา จากการทำงานหนักในพื้นที่และคำมั่นสัญญาต่างๆ ทำให้เขาได้รับเลือกเป็น สส. ศรีสะเกษ พอถึงเวลาต้องเลือกนายกรัฐมนตรี สถานการณ์ต่างๆทำให้พรรคขนาดกลางที่เขาสังกัดตกลงปลงใจร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ และจะต้องโหวตเลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ร่วมกับ สว. ในการโหวตครั้งนี้
ค่อนข้างแน่นอนว่าพลเอกประยุทธ์จะได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้รับการทาบทามไว้ล่วงหน้ากับ สว. อีกสองร้อยกว่าคน
นักการเมืองหนุ่มผู้ซึ่งรับปากชาวบ้านไว้ ดูจะไม่มีทางเลือกอะไรเลย การโหวตสวนมติพรรคนั้นไม่น่าเป็นไปได้ในฐานะ สส หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาร่วมกับพรรค แต่เขาก็มีความกังวลว่ายกมือโหวตแล้วจะกลับไปสู้หน้ากับชาวบ้านอย่างไร คำมั่นสัญญาที่ให้กับชาวบ้านไว้ตอนหาเสียงนั้นยังติดอยู่ในหัว
นักการเมืองแก่พรรษาก็พูดเหมือนกันทุกคนว่าโหวตไปเถอะ อย่าคิดอะไรมาก ชาวบ้านด่านิดหน่อย ก็ไปช่วยงาน ผันงบไป เดี๋ยวก็ลืม เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่โบราณกาล ไม่มีใครซีเรียสกับการรับปากแบบนี้หรอก ทุกคนรู้อยู่แล้วว่านักการเมืองก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ยกสิจะซวยเอา ผู้ใหญ่ในพรรคในรัฐบาลโกรธตายเลย อนาคตดับเอาง่ายๆ
วันโหวตจริงมาถึง ชื่อเขาขึ้นต้นด้วยตัว ส เสือ อยู่ท้ายๆของการโหวต นักการเมืองทุกคนที่อยู่ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยโจมตีพลเอกประยุทธ์ เคยสัญญาว่าจะไม่เลือก ถึงเวลาจริงๆก็ไม่มีใครฝืนมติพรรค ก็ทยอยโหวตลื่นไหลกันไปหมด เป็นเสียงส่วนใหญ่ เป็นคนหมู่มากหลายร้อยคน เป็นบรรยากาศที่กดดันสุดๆและไม่น่าจะทำอะไรเป็นอื่นไปได้เลย
นักการเมืองหนุ่มผู้นั้นรอด้วยแรงกดดัน ทุกคนก่อนหน้าทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ผู้ใหญ่ในพรรคก็จ้องมองควบคุม อนาคตที่สดใสรอเขาอยู่ข้างหน้าถ้าเขายกมือจนถึงคิวหมวด ส. เสือ
แล้วเขาก็ตัดสินใจ….
……….
ผมรู้จัก โต้ง สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติมาสิบกว่าปี เขาเป็นน้องที่นิสัยดี ซื่อๆคนหนึ่งที่รู้จักจากการเรียนหลักสูตรหนึ่งแล้วอยู่กลุ่มเดียวกัน ตอนที่ผมรู้จักเขานั้น เขายังไม่ได้มีสตางค์อะไรเยอะมาก แต่เขาก็เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย ไปประมูลที่ผืนใหญ่มาผืนหนึ่งแล้วขายให้เซนทรัลและห้างหลายๆห้างไปจนร่ำรวย แต่เจอกันทีไรก็เป็นน้องที่น่ารัก มีน้ำใจเหมือนเดิม
ตอนที่เขาลำบากมากๆ ไปประมูลที่แล้วไม่มีใครให้กู้จนเกือบจะเสียที่ดินนั้นไป แต่โชคดีได้เงินกู้จากเมืองไทยประกันชีวิตมาช่วยไว้ในนาทีสุดท้าย พอเขาตั้งตัวได้ มีสตางค์พอที่จะคืนเงินกู้ทั้งหมดได้อย่างสบายๆแล้ว เขากลับคืนเงินกู้ไม่หมด ทางเมืองไทยประกันชีวิตก็สงสัยว่าทำไม
โต้งก็อธิบายให้พี่ๆเมืองไทยฯฟังว่า ตอนเขาลำบากเมืองไทยฯช่วยเขาไว้ พอเขาสบาย ก็อยากจะชดใช้หนี้บุญคุณด้วยการจ่ายดอกเบี้ยให้ก่อน ยังไม่คืนหมด
วิธีคิดแบบนี้บ่งบอกตัวตนของน้องคนนี้ได้เป็นอย่างดี
โต้งเป็นคนที่รักจังหวัดศรีสะเกษมาก โต้งเคยเล่าว่าจังหวัดศรีสะเกษเคยจนเป็นอันดับสองของประเทศ ตอนเขาเข้ามาเรียนในเมืองใหญ่ก็โดนล้อบ่อยๆเรื่องคนศรีสะเกษกินดินเพราะจนมาก เขาเลยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบ้านเกิดตัวเองให้เจริญขึ้นมาให้ได้ ความสนใจการเมือง อยากเป็น สส. ก็คงมาจากเรื่องนี้ มีอะไรที่เขาทำให้จังหวัดได้ เขาทำอย่างเต็มที่ทุกครั้ง
มีเรื่องราวเกี่ยวกับโต้งอีกเรื่องหนึ่งที่น่าบันทึกไว้ เขาเคยช่วยเคยสอนเด็กศรีสะเกษกลุ่มหนึ่งเรียนถ่ายรูป จนพอเด็กกลุ่มนี้อยู่มหาวิทยาลัยก็ชอบด้านภาพยนตร์ มีความคิดอยากทำหนังแล้วไม่มีทุน ก็มาของบประมาณโต้งสองล้านบาทเพื่อทำหนัง
โต้งช่วยเด็กกลุ่มนี้โดยมีข้อแม้ว่าหนังต้องโปรโมทงานโยทวาธิตที่กำลังจะจัดที่ศรีสะเกษ แล้วก็ช่วยเหลือประคับประคองเด็กกลุ่มนี้จนทำหนังเสียงอีสาน ฉายเฉพาะโรงในอีสานไม่กี่โรง
ปรากฏว่าหนังอีสานทุนต่ำที่เด็กๆของโต้งทำนั้นกลายเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ คนอีสานชอบหนังที่ชื่อว่าไทบ้านเรื่องนี้มาก เพราะมันเรียล สะท้อนชีวิตเด็กอีสานได้อย่างตรงไปตรงมา เรียลขนาดมีคนชมว่านางเอกไม่แต่งหน้าแล้วใส่เสื้อบอลกางเกงบอลนอนเหมือนชีวิตจริง และโดยความเป็นจริงแล้วที่นางเอกไม่แต่งหน้าแล้วใส่ชุดบอลนอนนั้นเพราะไม่มีงบจากทุนที่ต่ำนั่นเอง
หนังไทบ้านทำเงินหลายสิบล้านจนต้องฉายทั่วประเทศ ภาคสองยิ่งทำเงินมากขึ้นไปอีก เด็กๆพอได้เงินเยอะแล้วก็มาหาโต้งถามว่าจะแบ่งกำไรกันอย่างไร โต้งก็ขอแค่ทุนคืนสองล้าน ให้เด็กๆเอาเงินจำนวนหนึ่งไปช่วยการกีฬาของศรีสะเกษแล้วที่เหลือก็ให้เด็กๆไปหมด … วิธีคิดแบบนี้นี่คือโต้งที่ผมรู้จัก และพอรู้จักโต้งดีมาหลายปีแล้ว ผมก็พอรู้ว่าเขาจะตัดสินใจในเรื่องที่ยากๆอย่างการตัดสินใจเลือกระหว่างอนาคตทางการเมืองกับชาวบ้านศรีสะเกษอย่างไร
…..
ในวันนั้น สส. สิริพงษ์ เป็น สส. ฝั่งรัฐบาลคนเดียวที่งดออกเสียงทำให้เสียงรัฐบาลที่ชนะขาดจากห้าร้อยหนึ่งเสียงเหลือห้าร้อยเสียงถ้วน พอขานว่างดออกเสียงเสร็จ ทั้งสภาเงียบกริบด้วยความตกใจ สายตาทุกคู่มองมาที่เขาด้วยการตำหนิติเตียน
ภาพจากทีวีที่ถ่ายทอดสดก็เห็นน้ำตาลูกผู้ชายไหลบนใบหน้าของโต้งด้วยความกดดัน การงดออกเสียงนั้นไม่ได้มีผลอะไรต่อผลโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด แต่มีผลทำให้โต้งถูกถล่ม ถูกตำหนิต่อว่าถูกตั้งกรรมการสอบสวนจากพรรค ต้องออกมาขอโทษผู้ใหญ่ในพรรคหลังจากนั้น และแน่นอนว่าภาพของ สส. จอมดื้อก็คงทำให้อนาคตทางการเมืองของเขาไม่น่าจะสดใสอีกต่อไป
แต่พอเขากลับไปที่ศรีสะเกษ ผลแห่งการรักษาสัจจะทำให้เกิดปรากฏการณ์สิริพงษ์ขึ้นให้จังหวัดเล็กๆแห่งนั้น คนศรีสะเกษภูมิใจใน สส. คนนี้มาก ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แห่งการรักษาคำพูดกับชาวบ้านตัวเล็กๆโดยยอมถูกด่าทั่วสารทิศเพื่อคนชายขอบของประเทศมาก่อน ไปไหนมีแต่คนมาขอบคุณ ถ่ายรูป
เขากลายเป็นตัวอย่างให้เด็กๆศรีสะเกษ เป็นความหวังในฐานะตัวแทนของเมืองเล็กๆ และไม่ใช่แค่ความหวัง แต่เป็นความภูมิใจของจังหวัดที่คนกรุงเทพฯเคยล้อว่ากินดินแห่งนี้เลยด้วยซ้ำ
แต่ชีวิตนักการเมือง สัจจะก็ไม่ได้ทำให้ถูกเลือกเสมอไป มีปัจจัยอื่นๆอีกมาก และโต้งก็สอบตกครั้งล่าสุด แต่ก็ยังช่วยงานพรรคอย่างแข็งขัน เป็นกาวใจ เป็นคนที่คอยออกมาอธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย จนได้เป็นโฆษกรัฐบาลในที่สุด
…..
ไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากเล่าถึงน้องคนนี้ ให้เห็นคาแรกเตอร์ เห็นตัวตนในวันที่ต้องตัดสินใจอย่างยากลำบากที่ีคนอาจจะลืมไปแล้ว เผื่อเวลาโดนด่าจะได้ผ่อนหนักเป็นเบา และช่วยสนับสนุนเขาในฐานะพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้นเองครับ….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
จ่อชง ครม.ยกเว้น 'ค่าน้ำ-ค่าไฟ' หาดใหญ่ 3 เดือน
'สิริพงศ์' ขออภัยลงทะเบียนรับเงินเยียวยาน้ำท่วมมีปัญหา จ่อชง ครม. ยกเว้นค่าน้ำ-ค่าไฟหาดใหญ่ 3 เดือน เล็งแก้ข้อบังคับ-กฎหมายทุกข้อ ปรับจ่ายเงินเยียวยาให้เร็ว แจงใช้วิกฤตสร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศ
กระทรวงอุตฯคลอดมาตรการช่วยเหลือธุรกิจภาคใต้
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
เปิดรับอาสาสมัครช่วยน้ำท่วมผ่านแอปทางรัฐ รบ.ซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย!
ศป.กฉ.โต้ข่าวเท็จ จมน้ำเสียชีวิต 80 ราย ระบุ มี 33 รายใน 7 จว.ใต้ แจง ฮ.ตกข่าวปลอม เปิดลงทะเบียนอาสาสมัครช่วยน้ำท่วมผ่าน 'แอปทางรัฐ' รบ.ซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย สทนช.คาด 5 วันคลี่คลายลง
นายกฯ สั่งตั้งศูนย์ ศนภ. จัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติ 'ธรรมนัส' นั่ง ผอ.
นายกฯ สั่งตั้งศูนย์ ศนภ. จัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติ ‘ธรรมนัส’ นั่งผอ. พร้อมสั่งการศูนย์ส่วนหน้าสงขลาบัญชาการ รับมือวิกฤตน้ำ 5 จังหวัดภาคใต้ กำชับเร่งช่วยประชาชน พร้อมให้ระดมคน -เครื่องมือ เข้าพื้นที่เพิ่มเติม
'สิริพงศ์' ถอนหงอก 'วันนอร์' ปมยื่นซักฟอกยุบสภาไม่ได้
โฆษกรัฐบาล สวน 'วันนอร์' ย้อนแย้งตีความคับแคบ หลังชี้ช่องฝ่ายค้านยื่นซักฟอก ปิดทางนายกฯยุบสภา ชี้ ประธานสภาต้องตรวจญัตติ แจ้งนายกฯ ทราบก่อน ถึงยุบไม่ได้


