3 ชาติผนึกกำลังทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทุบ 'KK Park - ชเวก๊กโก' ราบคาบ เตรียมหิ้วตัวกลับจีนล็อตใหญ่

16 ธ.ค.2568- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วย นายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ได้ลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อผนึกกำลังกับทางการเมียนมา ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติครั้งใหญ่ที่สุด

เปิดภาพการ “ทลายรัง” สแกมเมอร์ – ตึกหรูสู่ซากปรักหักพัง จุดสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ คือการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเมียนมา ได้นำคณะทำงานของไทยและจีน เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายหลัก 2 แห่ง ได้แก่ KK Park และ ชเวก๊กโก ฐานบัญชาการใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนทั่วโลก

จากการลงพื้นที่พบว่า อาคารตึกสูงและสำนักงานที่เคยเป็นแหล่งกบดานของเหล่าสแกมเมอร์ ได้ถูกทุบทำลายทิ้งอย่างถาวร สภาพปัจจุบันเหลือเพียงความว่างเปล่าและซากอาคาร ยืนยันให้เห็นถึงความร่วมมือ และความจริงจังในการ “ตัดรากถอนโคน” ไม่ให้เหลือสถานที่สำหรับตั้งฐานปฏิบัติการหลอกลวงประชาชนได้อีกต่อไป ส่งผลให้กลุ่มจีนเทาและลูกจ้างสแกมเมอร์แตกฮือ ไม่สามารถทำการหลอกลวงคนในหลายประเทศได้อีกต่อไป

ต่อมา  ณ ห้องประชุมสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ฝั่งเมียนมา ได้มีการประชุมไตรภาคีร่วมกันระหว่าง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. และคณะ (ผู้แทนประเทศไทย) ,พล.ต.ต.มิน ไทก์ เมียว (Min Htike Myo) รองผู้บัญชาการตำรวจเมียนมา และคณะ (ผู้แทนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา) และนายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ (ผู้แทนสาธารณรัฐประชาชนจีน)  โดยได้ข้อสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาด
ซึ่งประเทศไทย จะใช้กลไกของศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (Anti Cyber Scam Center : ACSC) เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีการเสนอตั้งคณะทำงานร่วม (Joint Task Force) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล/พยานหลักฐานเพื่อขยายผลเครือข่ายร่วมกัน ภายใน 24 ชั่วโมง โดย เน้นย้ำหลักการ “อาชญากรรมไร้พรมแดน การปราบปรามต้องไร้พรมแดน” จะต้องร่วมมือแบบไร้ข้อจำกัดและรวดเร็ว โดยจะยังคงนโยบายประสานงานร่วมกันในการตัดวงจรปัจจัยพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า, สัญญาณอินเตอร์เน็ต ของกลุ่มอาชญากรในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังตกลงกันที่จะให้ความร่วมมือด้านการอำนวยความสะดวก และลดขั้นตอน เรื่องการส่งตัวกลุ่มชาวต่างชาติที่หลบหนีออกจากเมียนมากลับประเทศ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว, ลดภาระเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย และ เพื่อความปลอดภัยของชาวต่างชาติ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย

ผลพวงจากการทุบทำลายตึกและฐานที่มั่น ทำให้กลุ่มสแกมเมอร์ชาวจีนจำนวนมากที่พยายามหลบหนีออกจากพื้นที่ KK Park และ ชเวก๊กโก ถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุมตัวได้ในที่สุด โดย นายหลิวจงอี้ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบ “ห้องกักตัว” ในเมืองเมียวดี ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยผู้ต้องหาชาวจีน โดยทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ เพื่อรอขั้นตอนการส่งตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นจุดจบของขบวนการต้มตุ๋นข้ามชาติที่สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยและคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ผบ.ทสส.' ฮึ่ม! ใช้กฎการใช้กำลัง หากกระสุนรบเมียนมา-ชนกลุ่มน้อยตกชายแดนไทยอีก

ผบ.ทสส. รับทราบรายงานกระสุนรบเมียนมา-ชนกลุ่มน้อย ตกชายแดนไทย บอก ประสานพื้นที่แจ้งเตือนแล้ว หากเกิดซ้ำ เตรียมใช้กฎการใช้กำลัง พร้อมเตรียมสั่งอพยพ ปชช.จากที่เสี่ยง

ทหารยกระดับคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ป้องรุกล้ำอธิปไตย

ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจรามนู กองกำลังนเรศวร พร้อมอาวุธปืนหนัก-รถยานเกราะ นำกำลังพลออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และวางกำลังตามจุดล่อแหลม

ทหารเมียนมาเปลี่ยนจุดบึ้ม 'เคเคปาร์ค' ส่วนตึก 5 ชั้นเอียงใกล้ถล่ม

ทหารเมียนมาร่วมกับกะเหรี่ยงกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF.) พันธมิตรของทหารเมียนมา ยังคงเดินหน้าวางระเบิดทำลายอาคาร สำนักงานในพื้นที่เมืองเอ่งจี่เหมี่ยง

ทบ. คุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ต่างด้าวทะลักข้ามฝั่งกว่า 1,500 คน ชาวอินเดียมากสุด

ทบ.เผยสถานการณ์ชายแดนไทย–เมียนมา ยังคงเฝ้าระวังใกล้ชิด หลังแรงงานต่างชาติหลบหนีจากพื้นที่โครงการ KK-Park ข้ามมายังฝั่งไทยกว่า 1,500 คน

'จตุพร' จี้เร่งจัดการแก๊งสแกมเมอร์ ชี้ทั่วโลกเอาจริงแล้ว เมียนมาทิ้งบอมบ์ล้างบาง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 31 ต.ค. 2568 กรณีปราบปรามสแ