'สี จิ้นผิง' กล่อมอาเซียน ยันจีนคือเพื่อนบ้านที่ดีไม่คิดรังแก

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนประชุมสุดยอดทางไกลกับผู้นำกลุ่มอาเซียนเมื่อวันจันทร์ โปรยยาหอมจีนเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและจะไม่รังแกเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ ขณะประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ของฟิลิปปินส์ทำเสียงแข็ง เกลียดการทะเลาะกับจีนในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Getty Images)

รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-จีน โดยเป็นการประชุมแบบทางไกล แต่อาเซียนไม่มีผู้แทนจากเมียนมาเข้าร่วมการประชุมเช่นเดียวกับการประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า รัฐบาลเมียนมาไม่ส่งผู้แทนเข้าร่วมหลังจากประเทศสมาชิกอาเซียนบางประเทศคัดค้านคำเชิญของจีน ที่ต้องการเชิญพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ร่วมประชุมด้วย

สื่อของทางการจีนรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า จีนเป็นเพื่อนบ้านที่ดี, เพื่อนที่ดี และหุ้นส่วนที่ดีของอาเซียน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และจะเป็นตลอดไป สีให้คำมั่นด้วยว่า จีนไม่คิดครองความเป็นใหญ่ และจะไม่รังแกประเทศเล็กกว่าอย่างแน่นอน จีนจะทำงานร่วมกับอาเซียนเพื่อกำจัด "การแทรกแซง"

สีกล่าวด้วยว่า จีนและอาเซียนละทิ้งความมืดมนแห่งสงครามเย็นแล้ว และได้ร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค "เราต้องร่วมกันรักษาเสถียรภาพของทะเลจีนใต้ และสร้างทะเลจีนใต้ให้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ, มิตรภาพ และความร่วมมือ"

คำกล่าวของผู้นำจีนมีออกมาหลังจากสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ตึงเครียดขึ้นอีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อรัฐบาลฟิลิปปินส์แถลงประณามจีนด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดเมื่อวันพฤหัสบดี สืบเนื่องจากเหตุการณ์เรือของกองกำลังป้องกันชายฝั่งของจีน 3 ลำ ขัดขวางและฉีดน้ำขับไล่เรือของฟิลิปปินส์หลายลำที่นำเสบียงไปส่งนาวิกโยธินที่ประจำบนด่านนอก ที่เป็นเรือเกยตื้นบริเวณสันดอนเซคันด์โธมัสในหมู่เกาะสแปรตลี

วันศุกร์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐเข้าร่วมประณามจีน โดยกล่าวว่าพฤติกรรมของจีน "อันตราย, ยั่วยุ และไม่สมเหตุสมผล" พร้อมกับเตือนว่า การโจมตีเรือฟิลิปปินส์ด้วยอาวุธ จะกระตุ้นให้สหรัฐปฏิบัติตามสนธิสัญญาป้องกันร่วมกัน ที่สหรัฐทำไว้กับฟิลิปปินส์

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ถือโอกาสการประชุมครั้งนี้แสดงความไม่พอใจว่า เขา "เกลียดชัง" เหตุการณ์ที่สันดอนอายุนกิน (เซคันด์โธมัส) และมองพัฒนาการอื่นๆ ที่คล้ายกันด้วยความกังวลอย่างยิ่ง หลักกฎหมายคือทางออกทางเดียวของความขัดแย้ง

ดูเตร์เตกล่าวว่า อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล และคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรเมื่อปี 2559 ที่ปฏิเสธการอ้างสิทธิของจีนเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ควรนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้ง และขอให้จีนยึดมั่นต่อข้อสรุปเบื้องต้นของประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ที่มีประสิทธิภาพและมีสาระสำคัญ

ในการประชุม นายกฯ อิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ ของมาเลเซีย ก็เตือนเช่นกันถึงการกระทำใดๆ ที่อาจทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น และเพิ่มความตึงเครียดในพื้นที่.

เพิ่มเพื่อน