เปิดตัว4กุมารต้นปี65 ‘สนธิรัตน์’หารือหลายกลุ่ม ‘นิพิฏฐ์’จ่อยื่นลาออกปชป.

“นิพิฏฐ์” ย้ำโบกมือลาประชาธิปัตย์แน่นอน สัปดาห์หน้าไปยื่นหนังสือลาออก เปิดสาเหตุเพราะไม่ให้เกียรติกัน อุดมการณ์พรรคเปลี่ยนไป ดูแลเฉพาะ ส.ส.ที่ได้ชนะเลือกตั้ง “สนธิรัตน์” รับคุยหลายคนรวมถึงนิพิฏฐ์ด้วย คาดเปิดตัว 4 กุมารต้นปี 2565 หลังดีลต่างๆ จบ “ประยุทธ์” ชี้ข่าวสามมิตรย้ายกลับรังเก่าแค่ข่าวปล่อย

เมื่อวันจันทร์ ยังคงมีความต่อเนื่องกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะลาออกจากพรรค หลังให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าตัดสินใจที่จะลาออกจาก ปชป.แน่นอน โดยสัปดาห์หน้าจะไปยื่นหนังสือลาออกที่พรรค เพราะได้ตัดสินใจแล้ว เนื่องจากไม่มีที่ยืนในพรรคแล้วจึงต้องไปหาที่อยู่ใหม่ โดยระยะหลังผู้บริหารพรรคมีแนวนโยบายและความคิดการบริหารและการปฏิรูปพรรคแตกต่างจากตนเอง และไม่ได้รับการให้เกียรติจากพรรค เวลาทำอะไรก็ไม่ปรึกษา แม้กระทั่งการส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิมของตนเอง อยู่ๆ ก็ส่งคนอื่นมา ถอดคนที่เคยตกลงกันเอาไว้ จึงถือว่าไม่ให้เกียรติ หากไม่ให้เกียรติกันเช่นนี้ การทำงานร่วมกันในอนาคตคงเป็นเรื่องยาก และคงมีเหตุการณ์ทำนองนี้อีก จึงคิดว่าไปทำงานในพรรคที่ให้เกียรติดีกว่า

“ยืนยันยังเคารพนับถือพระแม่ธรณีบีบมวยผม และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคเหมือนเดิม และยังไม่ได้ทันได้บอกนายชวน แต่ข่าวรั่วก่อน แต่ก็จะยังไปกราบลานายชวน และยืนยันไม่เปลี่ยนใจ จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่มีการส่งผู้สมัครในเขตผม โดยไม่มีการปรึกษาผม ตั้งคนที่ตกลงกันแล้วว่าเอาคนนี้แหละ แต่อยู่ๆ มาถอดคนที่ผมตกลงกันไว้เฉยเลย อันนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติ และเขาก็ผิดข้อตกลงที่เคยคุยกันไว้หลังจากที่ผมแพ้การเลือกตั้ง ว่าเขาต้องดูแลอดีต ส.ส.ด้วย เราได้ 22 เสียงในภาคใต้ แต่ทั้ง 28 คน ผู้บริหารทิ้งหมดเลยไม่เคยดูดำดูดีทั้ง 28 คน อยู่ลำบากมาก จะหาเสียงให้พรรค จะส่งปฏิทิน โปสเตอร์ก็ต้องเติมน้ำมันเอง แต่กับ ส.ส.เขาดูแลดีมาก เพราะขณะนี้ผู้บริหาร 1 คน มี ส.ส.แค่ 4-5 คนก็ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว หากเป็นแบบนี้ผมว่าพรรคไปไม่ได้" นายนิพิฏฐ์กล่าว

สำหรับกระแสจะย้ายไปทำงานการเมืองกับกลุ่มของนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.การคลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือกลุ่มสี่กุมารนั้น นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า คุยกับหลายพรรคการเมือง แต่ดูถึงความเป็นไปได้และนโยบายในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก ที่สำคัญคือพรรคจะไปสังกัดใหม่ต้องไม่สุดโต่ง ไม่ซ้ายจัดไม่ขวาจัด ไม่เติมอคติไม่เติมความแค้น ความโกรธให้เกิดขึ้นในหัวใจของคนไทย ต้องถอดสลักความเคียดแค้นความชิงชังออกจากหัวใจของคนไทยให้ได้ และนำพาประเทศเดินหน้าหลังยุคโควิด-19

“ยังไม่ขอระบุว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใด รอให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ประกาศจะดีกว่า ย้ำพรรคใหม่ที่จะไปสังกัดต้องเป็นพรรคที่ดี ทั้งองค์ประกอบโครงสร้างของพรรค และบุคลากรที่จะมาสังกัดต้องโปร่งใส หรือคลีน หากเป็นสีเทา ผมก็ไม่ร่วมด้วย” นายนิพิฏฐ์ระบุ

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. และรักษาการรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ กล่าวเรื่องว่า ปชป.ให้โอกาสกับคนทุกคน ตามสถานะและเงื่อนไขที่มีอยู่ โดยกรณีนายนิพิฏฐ์ แม้ไม่สามารถนำการเลือกตั้งในภาคใต้ให้ได้รับชัยชนะอย่างเช่นเคย แต่หลังการเลือกตั้งแม้พรรคเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคใหม่ โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค พรรคก็ยังให้โอกาสนายนิพิฏฐ์ให้เป็นรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ต่อไป แต่เป็นที่น่าเสียดายว่านายนิพิฏฐ์ได้มาลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวในเดือน เม.ย.ในวันทำบุญวันเกิดพรรค เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2564 แต่เมื่อพรรคได้ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล พรรคก็ได้ตั้งนายนิพิฏฐ์มาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีของนายจุรินทร์ และยังเป็นอยู่จนถึงทุกวันนี้

“ผมหวังว่าข่าวของท่านนิพิฏฐ์จะเป็นเพียงข่าวลือ และไม่อยากให้เป็นข่าวจริง ยังอยากเห็นท่านนิพิฏฐ์ จะได้ร่วมทำงานเพื่อขับเคลื่อนพรรคไปด้วยกันในวันข้างหน้า” นายนิพนธ์กล่าว

ส่วนนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ และยังไม่ได้พูดคุยกับนายนิพิฏฐ์เลย

นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กว่า อยากจะให้กำลังใจและขอขอบคุณนายนิพิฏฐ์ ที่เป็นนักสู้ประชาธิปไตยและความถูกต้องของนักการเมืองมาโดยตลอด และขอบคุณที่เป็นต้นแบบของนักการเมืองที่มีความเป็นผู้นำด้านเสรีประชาธิปไตยอันดับต้นของประเทศ และวันนี้พรรค ปชป.ก็ได้สูญเสียบุคคลที่มีคุณภาพไปอีกคนซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย

ส่วนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวนายนิพิฏฐ์จะย้ายพรรคมาอยู่ด้วยว่า ไม่ปฏิเสธว่ามีการพูดคุยกับนายนิพิฏฐ์ หากจะทำการเมืองก็มีโอกาสที่จะทำการเมืองด้วยกัน และความจริงไม่ได้คุยเฉพาะนายนิพิฏฐ์ คุยกันหลายกลุ่ม ทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการพูดจากัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายนิพิฏฐ์ออกมาพูดก่อนแบบนี้ จะกระทบกับการเปิดตัวของกลุ่ม 4 กุมารในอนาคตหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ไม่ได้ประเมินไปขนาดนั้น การคุยกับนักการเมืองเป็นเรื่องปกติ และเมื่อถามย้ำว่าการพูดของนายนิพิฏฐ์ทำให้หลายคนเข้าใจว่ากลุ่ม 4 กุมารกำลังจะเปิดตัวแล้ว นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ยังไม่แน่ การเป็นพรรคการเมืองต้องมีองค์ประกอบมากกว่านี้ โดยข้อเท็จจริงแล้ววันนี้การพูดคุยกันในหลายๆ กลุ่มของเรา ถ้ายังไม่ลงตัวตามที่เราคาดว่าจะเป็นประโยชน์เราก็จะไม่เดิน

เมื่อถามว่า บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะทำให้การตั้งพรรคการเมืองของกลุ่ม 4 กุมารลำบากหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า อาจจะจริง แต่มันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบในพรรคมากกว่า การมีบัตร 2 ใบ มันเป็นทั้งบวกและลบในตัว มันอยู่ที่พรรคเล็กนั้นมีคุณสมบัติที่จะสอดรับกับกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบหรือไม่ พรรคเล็กอาจมีโอกาสก็ได้ ไม่ได้หมายความว่าเสียเปรียบเสมอไป แน่นอนว่าพรรคใหญ่คือพรรคที่มีชื่อเสียงได้เปรียบ เพราะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเป็นกอบเป็นกำ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่ม 4 กุมาร ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจตั้งพรรคการเมือง แต่รอหารือกับกลุ่มต่างๆ ก่อน โดยที่ผ่านมามีการนัดหารือพูดคุยกับหลายกลุ่ม แต่บางกลุ่มยังคุยไม่ลงตัว ซึ่งหากการเดินสายคุยกันที่ทำอยู่ไม่ลงตัว กลุ่ม 4 กุมารจะยังไม่ขับเคลื่อนอะไร แต่หากการพูดคุยลงตัวแล้วก็จะขับเคลื่อนทางการเมืองทันที เบื้องต้นวางเอาไว้ว่าจะเปิดตัวประมาณต้นปี 2565 กรณีพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ ลงตัว

ขณะเดียวกันยังมีกระแสข่าวกลุ่มสามมิตรจะย้ายจากพรรค พปชร.กลับไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย (พท.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ปฏิเสธจะตอบคำถามดังกล่าว โดยส่ายหัวและเดินออกจากโพเดียมทันที และเมื่อถามย้ำว่าดีลการเมืองแบบนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า "ไม่มี เป็นการปล่อยข่าว เพียงแต่ปล่อยข่าวออกมาเท่านั้นเอง"

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค พปชร.และแกนนำกลุ่มสามมิตร ปฏิเสธที่ตอบคำถามเช่นกัน โดยยิ้มและหัวเราะในลำคอเท่านั้น

นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และกรรมการบริหารพรรค พปชร. ระบุว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่รู้ว่าใครให้ข่าว คนที่ปล่อยข่าวน่าจะหวังผลอะไรบางอย่าง เพราะขณะนี้ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว​ มีแต่คนที่ทำงานการเมืองอยู่พรรค พปชร.

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ในอดีตเคยเป็นโฆษกกลุ่มสามมิตร ปัจจุบันแม้ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว แต่ยังรักและเคารพนายสมศักดิ์ นายสุริยะ และนายอนุชาเหมือนคนในครอบครัว ข่าวที่ออกมาจึงไม่เป็นความจริง น่าจะเป็นการปล่อยข่าวจากผู้ที่หวังดีประสงค์ร้ายมากกว่า

“ผมคุยกับท่านสมศักดิ์อยู่เป็นประจำ เตะฟุตบอลกันบ่อยๆ ท่านสมศักดิ์ยืนยันชัดเจนว่า อยู่กับลุงตู่ อยู่กับพรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของลุงป้อมที่สนับสนุนลุงตู่เป็นนายกฯ” นายธนกรกล่าว

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค พท. แถลงข่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ว่าพรรคจะพยายามชนะการเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด เพื่อเข้ามาเป็นรัฐบาล โดยได้เตรียมนโยบายต่างๆ ไว้แล้ว โดยเฉพาะการจัดหาผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบเขต 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน รวมทั้งการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

เมื่อถามถึงกรณีบิ๊กเนมที่จะเข้ามาอยู่กับพรรค รวมถึงกระแสข่าวกรณีกลุ่ม 3 มิตรจะกลับมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า นโยบายของพรรคเปิดกว้าง เปิดรับทุกฝ่ายที่เข้ามาทำงานกับพรรค โดยต้องมีอุดมการณ์เดียวกัน โดยเป้าหมายในเชิงยุทธศาสตร์คือแลนด์สไลด์ ต้องการชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลายทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เข้มแข็งเดิม

นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับว่า คณะทำงานของวิปรัฐบาลกำลังดำเนินการประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ว่าให้นำร่างแก้ไขของพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาพิจารณาในคณะทำงาน เพื่อพูดคุยหารือในรายละเอียด โดยขณะนี้คณะทำงานกำลังเริ่มทำงานและรอดูร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่กำลังขอความคิดเห็นจากประชาชนอยู่ ส่วนจะเสนอกฎหมายทีละฉบับหรือเสนอทั้งสองฉบับเลยนั้น ต้องให้คณะทำงานพิจารณา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง