'โฆษกแรงงาน' แจงปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์วันลาคลอด คุ้มครองลูกจ้าง 98 วัน

โฆษกแรงงาน แจง ก.แรงงานเดินหน้าปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ทดแทนวันลาคลอดให้ลูกจ้างได้รับความคุ้มครองทั้ง 98 วัน โดยสำนักงานประกันสังคมและนายจ้างรับผิดชอบจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างคนละครึ่ง

9 มี.ค.2565 - นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า ตามที่น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในการเสวนาหัวข้อ "พ่อแก่ เเม่ป่วย ลูกเล็ก มองขาดปัญหาฉุดรั้งความก้าวหน้าทางการงานของสตรี" ซึ่งจัดโดย ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคตพรรคก้าวไกล (Think Forward Center) เนื่องในวันสตรีสากลเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมาว่า 29 ปี ไม่มีอะไรเปลี่ยน "วันสตรีสากล" ร้องเพิ่มวันลาคลอดนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เกี่ยวกับสิทธิวันลาเพื่อคลอดบุตร แม้สิทธิการลาเพื่อคลอดบุตรจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 90 วัน เป็น 98 วัน แต่ลูกจ้างยังมีความกังวลว่าจะได้รับค่าจ้างในส่วนวันลา 8 วันหรือไม่ อย่างไรนั้น กระทรวงแรงงานเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ ในเบื้องต้นขอชี้แจงว่า ข้อกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ปัจจุบัน กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่จ่ายค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่ลูกจ้างลา แต่ไม่เกิน 45 วัน โดยลูกจ้างยังมีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนจากสำนักงานประกันสังคมอีก ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน จึงเห็นได้ว่า จำนวนวันลา 8 วันที่เพิ่มขึ้นนั้น ลูกจ้างยังไม่ได้รับความคุ้มครองในเรื่องค่าจ้าง

นางเธียรรัตน์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นในเรื่องนี้กระทรวงแรงงาน จึงได้ดำเนินการให้สำนักงานประกันสังคมเสนอปรับแก้ไขกฎหมาย เพิ่มสิทธิให้กับลูกจ้าง โดยจะปรับเพิ่มประโยชน์ทดแทนให้ผู้ประกันตน จากร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน เป็นร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 98 วัน ซึ่งจะมีผลให้ลูกจ้างได้รับค่าจ้างในวันลาเพิ่มขึ้น จากสิทธิเดิม อีก 4 วัน ในส่วนของค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตร อีก 4 วัน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานประเมิลผลสัมฤทธิ์กฎหมาย เพื่อปรับแก้ไข พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เพิ่มสิทธิให้กับลูกจ้างต่อไป

ในส่วนอนุสัญญา ฉบับที่ 87 และ 98 อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. … ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่า จะเข้า ครม.ในเดือนพฤษภาคม 2565 และสภาฯ ต่อไปหลังจากผ่านสภาฯ แล้ว จะนำไปสู่ขั้นตอนการรับรองอนุสัญญาฯ ต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สปส.” ห่วงแรงงานพลาดสิทธิคุ้มครอง “กองทุนเงินทดแทน”ภัยที่ทำงาน เตือนนายจ้างป้องสิทธิรักษาพยาบาลลูกจ้างหลังเกิดภัยภายใน 15วัน

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ในทุกสถานประกอบการอาจซ่อนความเสี่ยงที่ไม่มีใครคาดคิดไว้เสมอและเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยชีวิตและการใช้สิทธิอย่างถูกต้องและทันเวลา

ราชกิจจาฯ ประกาศปรับฐานค่าจ้างคำนวณเงินสมทบประกันสังคม ม.33 เริ่ม 1 ม.ค. 2569

กฎกระทรวงใหม่กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ-ขั้นสูง ใช้เป็นฐานคำนวณเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยปรับเพดานสูงสุดเป็นลำดับ จาก 17,500 บาท เพิ่มเป็น 23,000 บาทในระยะถัดไป มีผลตั้งแต่ต้นปี 2569

“ สปส.” แนะช่องทางนายจ้างชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสร้างหลักประกันให้แรงงานไทย

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ได้ให้ความสำคัญอย่างมากในการยกระดับคุณภาพกลไกลการทำงานของ “กองทุนเงินทดแทน” ให้มีมาตรฐานมายิ่งขึ้น

“สปส.” เร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์ “กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ

สำนักงานประกันสังคมเร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์“กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกจ้างทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ และได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง

เจรจา ‘ไดกิ้น’ ได้ข้อยุติ เปลี่ยนระบบจ่ายทองเป็นเงินแทน พนักงานเตรียมกลับเข้าทำงาน

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเจรจาร่วมกันระหว่างบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับ สหภาพแรงงานไดกิ้น อมตะ รักษ์เสรี