ศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศ 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ และการชุมนุมประท้วงที่แผ่ขยายอย่างเป็นวงกว้างเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก

ประชาชนขับขี่พาหนะของตนไปจอดต่อแถวเพื่อเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันซีลอน ปิโตรเลียม ในกรุงโคลัมโบของศรีลังกา เมื่อวันที่ 12 เมษายน ท่ามกลางวิกฤติหนี้ต่างประเทศกว่า 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนไม่สามารถนำเข้าเชื้อเพลิง, อาหาร, ยารักษาโรค และสินค้าที่จำเป็นอื่นๆ ได้ (Photo by Ishara S. KODIKARA / AFP)
เอเอฟพีรายงานวิกฤตเศรษฐกิจและสถานการณ์ความวุ่นวายในศรีลังกา เมื่อวันอังคารที่ 12 เมษายน 2565 กล่าวว่า ศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศกว่า 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) รวมถึงภาระผูกพันทางการเงินในหลายภาคส่วนและเงินกู้ยืมจากรัฐบาลต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ ไอเอ็มเอฟ
กระทรวงการคลังของศรีลังกากล่าวว่า “รัฐบาลกำลังใช้มาตรการฉุกเฉิน ซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้าย เพื่อป้องกันไม่ให้ฐานะการเงินของประเทศตกต่ำลงไปมากกว่านี้”
ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 ปัญหาหนักจากการขาดสกุลเงินต่างประเทศอย่างเฉียบพลัน นำมาซึ่งปัญหาการขาดแคลนอาหารและเชื้อเพลิง ประกอบกับไฟฟ้าดับที่ยาวนานในแต่ละวัน ทั้งหมดล้วนนำความทุกข์ทรมานอย่างกว้างขวางมาสู่ประชาชน 22 ล้านคนในประเทศ จนกลายมาเป็นความโกรธที่ปะทุขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การเดินขบวนไปยังบ้านของผู้นำรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ลาออก กลายเป็นการปะทะกันของประชาชนกับกองกำลังความมั่นคงที่สลายกลุ่มผู้ประท้วงด้วยแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง และต่อเนื่องบานปลายไปทั่วประเทศ
รัฐบาลของประธานาธิบดีโกตาเบยา ราชปักษา ที่ยังไม่ยอมลงจากตำแหน่ง พยายามแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่อึมครึมด้วยการสั่งห้ามการนำเข้าทุกประเภทเพื่อสงวนเงินสำรองต่างประเทศไว้ใช้ชำระหนี้ผิดนัด
จากการประมาณของกระทรวงการคลัง แสดงให้เห็นว่าศรีลังกาต้องใช้เงินกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อชำระหนี้ในปีนี้ ขณะที่เงินสำรองต่างประเทศคงเหลือเพียง 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตอนสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีอินเดีย, จีน และญี่ปุ่นเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่
การห้ามการนำเข้าทุกประเภทเป็นการตอกย้ำสภาวะพังพินาศในการใช้ชีวิตของประชาชน เชื้อเพลิง, ไฟฟ้า, อาหาร และสิ่งของที่จำเป็นยังคงขาดแคลนต่อเนื่อง โดยในแต่ละวันมีการเข้าแถวยาวทั่วประเทศเพื่อซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง, แก๊ส และน้ำมันก๊าดสำหรับเตาประกอบอาหาร ปัญหาล่าสุดที่ต้องเผชิญคือ การขาดแคลนยารักษาโรคที่ไม่สามารถนำเข้าได้เนื่องจากนโยบายห้ามนำเข้าและการขาดแคลนเงิน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ระบบสาธารณสุขล่มสลายได้ในไม่ช้า ทั้งหมดล้วนสร้างความไม่พอใจอย่างแพร่หลายต่อรัฐบาล และการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศจะยังคงมีต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปิยบุตร' ชำแหละ รัฐบาลระบอบทักษิณชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ แต่ผ่านมา 17 ปี เรายังคงอยู่ในวิกฤต
พรรคไทยรักไทยได้ควบรวมพรรคการเมืองอื่นๆเข้ามา และประกอบกับผลงานของรัฐบาล ทำให้การเลือกตั้งในปี 2548 ชนะอย่างถล่มทลายมากกว่าเดิม ก่อนที่จะเกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จนวันนี้ ผ่านมา 17 ปี เรายังคง
ผวา 'บิ๊กตู่' อยู่ยาว! สมาคมทนายฯ แถลงบี้ ส.ว. เคารพฉันทามติปชช.
'สมาคมทนายความ' ร่อนเเถลงการณ์ ส.ว. ต้องเคารพฉันทามติประชาชนโหวตนายกฯ จากพรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุด ชี้ควรยกเว้นข้อบังคับตามตัวอักษร ให้ ส.ส.ขานชื่อก่อน
โศกนาฏกรรมสิ่งแวดล้อม! พท. ไล่บี้รัฐบาลแก้วิกฤตฝุ่นพิษ
นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องแบบแผ่นเสียงตกร่องแทนพี่น้องคนไทยในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ที่ทุกข์ยากแสนสาหัสจากสถานการณ์ฝุ่น P.M.2.5
ปัตตานียังวิกฤต! เจอน้ำทะเลหนุนซ้ำ ท่วมทั้ง 12 อำเภอ
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง มวลน้ำจากจังหวัดยะลายังคงไหลลงมาสบทบในแม่น้ำปัตตานีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำทำเลหนุนในเช้าวันนี้