ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สนทนาผ่านระบบวิดีโอกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อวันพุธ ชูแบบอย่างใหม่ของความร่วมมือระหว่างรัสเซียและจีน ที่ปฏิเสธการแทรกแซงจากตะวันตกและปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของกันและกัน

รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีกล่าวว่า การสนทนาผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลระหว่างผู้นำรัสเซียและผู้นำจีนเมื่อวันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ครั้งนี้ขับเน้นให้เห็นว่า ความเป็นปฏิปักษ์กับโลกตะวันตกที่รัสเซียและจีนมีร่วมกันกำลังทำให้ทั้งสองประเทศใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
การพูดคุยกันครั้งนี้เกิดขึ้น 8 วันให้หลังประธานาธิบดีปูตินสนทนาผ่านระบบวิดีโอกับประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งตั้งใจไม่เชิญจีนและรัสเซียเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประชาธิปไตยแบบทางไกลที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ยังเกิดหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี 7 ประชุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเตือนรัสเซียกรณียูเครน และวิจารณ์การละเมิดสิทธิในฮ่องกงและซินเจียง
ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของเครมลิน เปิดเผยภายหลังการสนทนาว่า ปูตินและสีคุยกันอย่างสร้างสรรค์มากนาน 90 นาที โดยปูตินได้สรุปเนื้อหาการสนทนาระหว่างเขากับไบเดนให้สีได้รับทราบ
ปูตินกล่าวกับสีว่า แบบอย่างใหม่ของความร่วมมือระหว่างจีนและรัสเซีย ถูกสร้างขึ้นโดยตั้งอยู่บนหลักการเช่นการไม่แทรกแซงกิจการภายในและการเคารพผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เขายังยืนยันกับสีด้วยว่า จะเดินทางไปร่วมงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งของจีนเป็นเจ้าภาพเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าตามคำเชิญของสี ซึ่งทั้งคู่จะได้พบปะกันตัวต่อตัว
รัฐบาลสหรัฐ, อังกฤษ, แคนาดา และออสเตรเลีย ประกาศคว่ำบาตรทางการทูต โดยไม่ส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นตัวแทนไปร่วมโอลิมปิก ด้วยเหตุผลว่าจีนปฏิบัติอย่างโหดร้ายต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตซินเจียง

รายงานข่าวซินหัวอ้างคำกล่าวของสีว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียยืนหยัดท้าทายบททดสอบทุกรูปแบบ และแสดงถึงความมีชีวิตและพลวัตใหม่ๆ พร้อมกับกล่าวถึงกองกำลังระหว่างประเทศที่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของจีนและรัสเซีย โดยอ้างประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนบังหน้า และการเหยียบย่ำบรรทัดฐานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันเป็นที่ยอมรับและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโหดร้าย
"จีนและรัสเซียควรเพิ่มความพยายามร่วมกัน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่ายให้มากยิ่งขึ้น" สื่อทางการจีนอ้างคำพูดของสี
อูชาคอฟเผยว่า สีได้แสดงความสนันสนุนปูตินที่เรียกร้องการรับประกันด้านความมั่นคงจากโลกตะวันตก และผู้นำทั้งสองยังมี "มุมมองด้านลบ" ต่อการสร้างพันธมิตรทางทหารใหม่ เช่น ความเป็นหุ้นส่วนออคัสระหว่างออสเตรเลีย, อังกฤษ และสหรัฐ หรือจตุภาคีแห่งอินโด-แปซิฟิก ระหว่างออสเตรเลีย, อินเดีย, ญี่ปุ่น และสหรัฐ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กอ้วน' เดือดพลั่ก! ทุบ 'กัณวีร์' โกหก-เหมือนไม่รักประเทศ ปมส่ง 'อุยกูร์' กลับจีน
'ภูมิธรรม' ร่ายยาวปมส่ง 'อุยกูร์' กลับจีน อัด 'กัณวีร์' โกหก เพ้อเจ้อ ใช้แต่จินตนาการ เหมือนไม่รักประเทศ ซัดแรง 'เป็นคนรุ่นใหม่' แต่ไร้มนุษยธรรม
'รมว.ยธ.' ตอกกลับ 'กัณวีร์' ยันจีนเปิดเสรีเยี่ยมอุยกูร์ หลังจากนี้ให้ไปได้อีก
'ทวี' ยันหลังเยี่ยมอุยกูร์ ทุกคนปลอดภัยดี แต่ไม่ได้พบทุกคนเหตุอยู่คนละพื้นที่ห่างไกล ย้อน 'กัณวีร์' เป็นมุสลิมหรือเปล่า กล่าวหาผู้หญิงเข้าสวมกอด สอน สส. หัดคิดถึงประโยชน์ประเทศ
ชาวอุยกูร์ บอกหลงเชื่อกลุ่มหัวรุนแรงชวนไปตุรกี ดีใจได้กลับมาดูแลพ่อแม่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะ และ สื่อมวลชน มาเยี่ยมชาวอุยกูร์ 1 ใน 40 คน ที่ถูกส่งตัวกลับจากไทย ซึ่งพักอาศัยอยู่ในอำเภอซาเชอ เมืองคาซือ
ชาวอุยกูร์ เผยกลุ่มก่อการร้ายโกหกให้หลบหนี ยันไม่มีการบังคับ ขอบคุณ 'สี จิ้นผิง'
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกไทยส่งกลับเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
'กัณวีร์' ได้เวลาซักฟอก 40 นาที ตอนแรกจะพูด 3 เรื่อง เปลี่ยนใจเน้นแค่เรื่องเดียว
นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลไทย นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ พาสื่อมวลชน
'ทูตรัศม์' มองผลประโยชน์ของจีนคือ ชาวอุยกูร์อยู่ดีมีสุข แต่คนมีอคติก็ยังไม่หยุดโจมตีรัฐบาล
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ต่อข้อสงสัยของบางคนถึงสวัสดิภาพที่แท้จริงของชาวจีนอุยกูร์ 40 คนนั้น