รัฐบาลทหารเมียนมาสั่งปราบปรามหลอกลวงออนไลน์บริเวณชายแดนไทย

ทางการเมียนมาจะปราบปรามปฏิบัติการหลอกลวงออนไลน์ตามแนวชายแดนติดกับไทย หลังบรรลุการเจรจาความร่วมมือทางทหารระหว่างทั้งสองประเทศ

มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลและผู้บัญชาการทหารเมียนมา (ขวา) กำลังหารือกับพลโทจักรพงษ์ จันทร์เพ็งเพ็ญ จากกองทัพไทย (ซ้าย) ในกรุงเนปยีดอ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม (Photo by Handout / MYANMAR MILITARY INFORMATION TEAM / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2566 กล่าวว่า ขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์กำลังระบาดไปทั่วพื้นที่ชายแดนที่ไร้กฎหมายของเมียนมา และมีพลเมืองจากประเทศจีนและประเทศอื่นๆ คอยกำกับดูแลอาชญากรรมเหล่านี้ ซึ่งมักเกี่ยวพันกับการค้ามนุษย์และการบีบบังคับให้ฉ้อโกงผู้คนผ่านโปรแกรมออนไลน์หรือแม้กระทั่งคอลเซ็นเตอร์

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารเมียนมากล่าวว่าได้จับกุมแกนนำขบวนการเหล่านี้ได้จากกลุ่มติดอาวุธบริเวณชายแดนจีน รวมทั้งมีการส่งชาวจีนหลายพันคนกลับประเทศ เพื่อปราบปรามอุตสาหกรรมผิดกฎหมายที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

ความเคลื่อนไหวล่าสุดกับประเทศไทยซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ได้ร่วมหารือกับพลโทจักรพงษ์ จันทร์เพ็งเพ็ญ จากกองทัพไทย เกี่ยวกับการเจรจาความร่วมมือทางทหารระหว่างทั้งสองประเทศ รวมทั้งการปราบปรามปฏิบัติการหลอกลวงออนไลน์ตามแนวชายแดนระหว่างกัน

สื่อโกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา (Global New Light of Myanmar) รายงานว่า ตัวแทนจากสองชาติได้หารือถึงแผนการร่วมกันกำจัดการพนันออนไลน์และการหลอกลวงออนไลน์ใกล้เมืองเมียวดี บนชายแดนเมียนมา-ไทย

นักวิเคราะห์และรายงานของสื่อระบุว่า เมืองเมียวดีถูกควบคุมโดยกองกำลังทหารติดอาวุธ และมีการใช้พื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดและอาชญากรรมหลอกลวงทางออนไลน์

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 120,000 คนถูกกักขังและบังคับทำงานหลอกลวงอยู่ในเมียนมา

กลุ่มคนดังกล่าวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองเล่าก์ก่ายทางตอนเหนือของรัฐฉาน ซึ่งปัจจุบันตกเป็นเป้าโจมตีโดยกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ต้องการทำลายฐานทหารของรัฐบาล และการปะทะได้ลุกลามไปทั่วเมืองเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนพลเมืองเมียนมาหลายพันคนต้องหลบหนี เช่นเดียวกับพลเมืองไทยและเวียดนามหลายร้อยคนที่ทำงานในขบวนการหลอกลวงดังกล่าว ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปานปรีย์' นำคณะเฉพาะกิจฯมาถึงแม่สอด ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และประธานกรรมการเฉพาะกิจเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย (มท.)

'หมอมิ้ง' เผยนายกฯ ยกเลิกไปแม่สอด มอบ 'ปานปรีย์' ลงพื้นที่แทน

น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ในเมียนมา บริเวณชายแดนไทยว่า ในฐานะรัฐบาล เรากำหนดจุดยืนชัดเจนว่า 1.การสู้รบกันระหว่างทหารพม่าและกองกำลังติดอาวุธ จะไม่ให้มีการล้ำเข้ามาในดินแดนประเทศไทย

‘ปานปรีย์’ ขีดเส้นชัดกองทัพทหารเมียนมาห้ามรุกล้ำอธิปไตยไทย

‘ปานปรีย์’ กำชับกองทัพทหารเมียนมา ห้ามรุกล้ำอธิปไตยและดินแดนไทย รวมทั้งห้ามมีลูกหลงการสู้รบมาฝั่งไทยด้วย เผย เตรียมประชุมวอร์รูมก่อนประชุม ครม. อังคารนี้ ก่อนนายกบินแม่สอด ติดตามสถานการณ์

ทอ. เตรียมส่ง UAV สนับสนุนรักษาความปลอดภัยแนวชายแดน อ.แม่สอด

เพจ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force ได้เผยแพร่ภาพ และข้อมูลว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนด้านตรงข้าม อ. แม่สอด จว.ตาก กองทัพอากาศ โดยศูนย์ยุทธการทางอากาศ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ

'เศรษฐา' เตรียมบินไปแม่สอด 23 เม.ย. หลังปะทะเดือดใกล้ชายแดนเมียนมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวิตข้อความผ่าน x ว่า “จากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งเมียนมา

'อองซาน ซูจี' ย้ายจากเรือนจำมากักบริเวณในบ้าน เหตุเสี่ยงเป็นโรคลมแดด

เมียนมาตกอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารมาตั้งแต่ปี 2021 และอองซาน ซูจี-อดีตหัวหน้ารัฐบาล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสั