รัสเซียอพยพประชาชนกว่า 4,000 คน หลังเขื่อนแตก

รัสเซียสั่งอพยพผู้คน 4,000 คนในภูมิภาคโอเรนบูร์ก ทางตอนใต้ของเทือกเขาอูราลใกล้คาซัคสถาน เนื่องจากมีน้ำท่วมสูงหลังเขื่อนแตก

เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังอพยพประชาชนจากน้ำท่วมสูงในเมืองออร์สค์ ภูมิภาคโอเรนบูร์ก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเทือกเขาอูราล ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 6 เมษายน (Photo by Handout / Russian Emergencies Ministry / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2567 กล่าวว่า เกิดเหตุเขื่อนแตกในเมืองออร์สค์ของรัสเซีย ใกล้ชายแดนติดกับคาซัคสถาน ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมเมืองและชุมชน จนทางการต้องสั่งอพยพผู้คน

มีรายงานการอพยพผู้คนราว 4,000 คนในภูมิภาคโอเรนบูร์ก ทางตอนใต้ของเทือกเขาอูราล

เดนิส ปาสเลอร์ ผู้ว่าการภูมิภาคโอเรนบูร์ก ระบุว่า ประชาชน 4,208 คน รวมถึงเด็ก 1,019 คน ได้รับการอพยพแล้ว เนื่องจากบ้านเรือนมากกว่า 2,500 หลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูงเพราะฝนตกหนักทำให้เขื่อนแตกเมื่อวันศุกร์

ขณะเดียวกันทางการรัสเซียได้สั่งดำเนินคดีอาญาฐานประมาทเลินเล่อและละเมิดกฎความปลอดภัยในการก่อสร้าง สืบเนื่องจากเหตุเขื่อนแตกดังกล่าว

ปาสเลอร์กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าเขื่อนแห่งนี้สร้างขึ้นไม่ได้มาตรฐาน ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไป จึงทำให้เขื่อนเกิดการปริร้าวและพังเสียหาย พร้อมเตือนให้รับมือกับสถานการณ์ยากลำบากทั่วทั้งภูมิภาคจากระดับน้ำสูงที่เอ่อล้นของแม่น้ำอูราล

เซอร์เกย์ ซัลมิน นายกเทศมนตรีของเมืองออร์สค์ที่มีประชากรกว่าครึ่งล้านคน กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำอูราลเพิ่มขึ้นเป็น 855 เซนติเมตร และกำลังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ทุกคนในเขตน้ำท่วมออกจากบ้านทันที

"ไม่มีเวลาสำหรับการเตรียมใจอีกต่อไป ผู้ที่ปฏิเสธการอพยพออกจากเขตอันตรายโดยสมัครใจ จะถูกบังคับอพยพโดยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ" เขากล่าว

ปัจจุบัน หลายภูมิภาคในเทือกเขาอูราลและไซบีเรียตะวันตกกำลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ

ด้านคาซัคสถาน ประธานาธิบดีคาซึม-โยมาร์ต โตคาเยฟ กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้เป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดของคาซัคสถานในรอบ 80 ปี และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ในประเทศเตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ.

เพิ่มเพื่อน