ศาลเมียนมามีคำพิพากษาเมื่อวันจันทร์ว่า นางอองซาน ซูจี มีความผิดอาญาอีก 3 ข้อหา ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและครอบครองวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมายและฝ่าฝืนกฎควบคุมโควิด-19 และตัดสินลงโทษจำคุกนางเพิ่มอีก 4 ปี

เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวที่รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณาคดีนี้เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 ว่าศาลพิเศษของรัฐบาลทหารเมียนมาในกรุงเนปยีดอมีคำพิพากษาคดีของนางอองซาน ซูจี ในวันเดียวกัน โดยตัดสินว่า อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนวัย 76 ปีผู้นี้มีความผิด 2 ข้อหา ตามกฎหมายส่งออกและนำเข้า และตัดสินจำคุกนาง 2 ปีฐานนำเข้าและครอบครองวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต กับอีก 1 ปีฐานครอบครองอุปกรณ์รบกวนสัญญาณ ทั้งสองข้อหารับโทษจำคุกพร้อมกัน
นางซูจีถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่ทหารก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เอกสารของตำรวจเผยว่า การตรวจค้นบ้านของนางที่กรุงเนปยีดอ พบวิทยุสื่อสารที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย 6 เครื่อง
ในคำพิพากษาเมื่อวันจันทร์ นางซูจียังมีความผิดตามกฎหมายจัดการภัยพิบัติ จากการฝ่าฝืนกฎระเบียบควบคุมไวรัสโคโรนา และถูกตัดสินจำคุก 2 ปี รวมโทษจำคุกทั้งหมดเป็น 4 ปี
คำพิพากษาล่าสุดเพิ่มเติมจากคำพิพากษาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่นางถูกตัดสินจำคุก 4 ปีในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นและฝ่าฝืนกฎควบคุมไวรัสโควิด-19 ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งปี 2563 แต่ต่อมาพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย อภัยโทษให้นางเหลือโทษจำคุก 2 ปี โดยให้รับโทษด้วยการกักบริเวณที่บ้านในกรุงเนปยีดอ
การพิจารณาคดีของนางซูจีไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง และทนายความของนางถูกห้ามให้ข่าวหรือเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่เอเอฟพีกล่าวว่า พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารยืนยันว่า ศาลมีคำพิพากษาและตัดสินลงโทษจำคุกนางซูจีเมื่อวันจันทร์ และนางจะยังคงถูกกักบริเวณที่บ้านต่อไประหว่างรอการพิจารณาคดีที่เหลือ
นางซูจียังเผชิญข้อกล่าวหาอื่นๆ อีกกว่า 10 คดี รวมถึงข้อหาเกี่ยวกับการคอร์รัปชันหลายข้อหา ซึ่งแต่ละข้อหามีโทษจำคุก 15 ปี และข้อหาละเมิดกฎหมายความลับทางราชการ โทษจำคุกสูงสุดรวมทั้งหมดมากกว่า 100 ปี นางซูจีปฏิเสธทุกข้อหา
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา นางซูจีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลชุดที่แล้วอีก 15 คน รวมถึงประธานาธิบดีวิน มยิน ถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2563 ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางซูจี ชนะอย่างถล่มทลาย แต่กองทัพกล่าวหาว่ามีการทุจริตและใช้เป็นข้ออ้างในการก่อรัฐประหาร
คำพิพากษาจำคุกนางซูจีเมื่อเดือนธันวาคมเรียกเสียงประณามจากนานาชาติ ภายในเมียนมา ประชาชนแสดงออกถึงความโกรธด้วยกลยุทธ์แบบเก่าคือการตีหม้อตีกระทะ
ก่อนหน้าคำตัดสินเมื่อวันจันทร์ แมนนี หม่อง นักวิจัยของฮิวแมนไรต์วอตช์ กล่าวว่า คำพิพากษาโทษนางซูจีเพิ่มเติมจะยิ่งทำให้ความไม่พอใจทั่วเมียนมาทวีขึ้น คำตัดสินลงโทษนางซูจีในครั้งที่แล้วเคยก่อปฏิกิริยาในโซเชียลมีเดียจากเมียนมาคึกคักที่สุดวันหนึ่ง
"ทหารคำนวณว่าคดีนี้เป็นกลยุทธ์สร้างหวาดกลัว แต่มันมีแต่จะทำให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น" เธอกล่าวกับเอเอฟพี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม. เห็นชอบต่อใบอนุญาตทำงานให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ทหารยกระดับคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ป้องรุกล้ำอธิปไตย
ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจรามนู กองกำลังนเรศวร พร้อมอาวุธปืนหนัก-รถยานเกราะ นำกำลังพลออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และวางกำลังตามจุดล่อแหลม
ทหารเมียนมาเปลี่ยนจุดบึ้ม 'เคเคปาร์ค' ส่วนตึก 5 ชั้นเอียงใกล้ถล่ม
ทหารเมียนมาร่วมกับกะเหรี่ยงกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF.) พันธมิตรของทหารเมียนมา ยังคงเดินหน้าวางระเบิดทำลายอาคาร สำนักงานในพื้นที่เมืองเอ่งจี่เหมี่ยง
ทบ. คุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ต่างด้าวทะลักข้ามฝั่งกว่า 1,500 คน ชาวอินเดียมากสุด
ทบ.เผยสถานการณ์ชายแดนไทย–เมียนมา ยังคงเฝ้าระวังใกล้ชิด หลังแรงงานต่างชาติหลบหนีจากพื้นที่โครงการ KK-Park ข้ามมายังฝั่งไทยกว่า 1,500 คน
'จตุพร' จี้เร่งจัดการแก๊งสแกมเมอร์ ชี้ทั่วโลกเอาจริงแล้ว เมียนมาทิ้งบอมบ์ล้างบาง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 31 ต.ค. 2568 กรณีปราบปรามสแ
รวบชาวฟิลิปปินส์ แก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ หลบหนีเข้าไทยหลังถูกกวาดล้างจากเมียนมา
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป.,ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว ชาวฟิลิปินส์ 21 ราย ข่อหาเป็นบุคคลต่างด้าว (สัญชาติฟิลิปปินส์)


