การเลือกตั้งใหม่ช่วยปกป้อง ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จากการถูกตัดสินความผิดทางอาญา

โดนัลด์ ทรัมป์ หลุดพ้นจากการถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาล้มล้างผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2020 หลังจากที่เขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด – Photo by Ting Shen / AFP

รายงานของ แจ็ค สมิธ-เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ ได้รับการเผยแพร่เป็นบางส่วน ในรายงานดังกล่าวเผยให้เห็นว่าโดนัลด์ ทรัมป์ปลุกปั่นให้เกิดจลาจลในอาคารรัฐสภาอย่างโหดร้ายเพียงใด ดังนั้นหลักฐานก็น่าจะเพียงพอที่จะตัดสินลงโทษเขาได้

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามพลิกกลับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งในปี 2020 ข้อความนี้ระบุไว้ในรายงานของแจ็ค สมิธ เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร ด้วยเหตุนี้ทรัมป์จึงพยายามป้องกันการนับ-และรับรองคะแนนเสียงของโจ ไบเดน ผู้ชนะการเลือกตั้งในขณะนั้น โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษอธิบายว่าแนวทางนี้ถือเป็น “ความผิดทางอาญา”

สมิธ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งภายหลังชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ยังสรุปว่าข้อกล่าวหาต่อผู้สมรู้ร่วมคิดของทรัมป์อาจได้รับการรับประกัน ตามรายงาน มีเพียงการเลือกตั้งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเท่านั้นที่ทำให้ทรัมป์หลุดพ้นจากการถูกตัดสินว่ามีความผิด

จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ ทรัมป์ทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งในฐานะผู้สมัครเป็นหลัก แต่ยังใช้ “อำนาจและอภิสิทธิ์” ในหน้าที่การงานของเขาด้วย รวมถึงความพยายามหลังการเลือกตั้งที่จะโน้มน้าวเจ้าหน้าที่ไม่ให้นับบัตรลงคะแนน ปราศรัยโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่เขาพ่ายแพ้ แม้กระทั่งใช้อิทธิพลที่มีต่อกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ และไมค์ เพนซ์-รองประธานาธิบดี ในรายงานฉบับสุดท้าย สมิธยังระบุว่า เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าทรัมป์ได้ดำเนินการตามแผนที่กำหนดเป้าหมายเพื่อล้มล้างผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ

แต่ล่าสุดหลังจากที่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ก็ได้ยกเลิกการดำเนินคดีทางอาญาต่อทรัมป์อย่างเปิดเผย สมิธยื่นเรื่องยกฟ้องคดีพยายามฉ้อโกงการเลือกตั้งในเมืองหลวงวอชิงตัน อีกทั้งยังถอนคำอุทธรณ์คัดค้านการยุติการดำเนินคดีอาญาเรื่องเอกสารในรัฐฟลอริดาอีกด้วย

สมิธให้เหตุผลในการตัดสินใจด้วยแนวทางปฏิบัติที่ว่ากระทรวงยุติธรรมไม่ดำเนินการใดๆ ต่อประธานาธิบดีที่กำลังดำรงตำแหน่ง

โดนัลด์ ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคม และจะเข้าไปแทนที่โจ ไบเดนที่พ้นตำแหน่ง เขาแสดงปฏิกิริยาตอบโต้รายงานของสมิธด้วยคำดูแคลนผ่านทาง Truth Social เขาเรียกสมิธว่า “ตัวป่วน” ที่กระทำทุกอย่างโดยมีแรงจูงใจทางการเมือง.   

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจ้าหน้าที่การบินแห่งชาติสหรัฐฯ หลายร้อยคนถูกปลดออกทางอีเมล

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ขณะนี้โปรแกรมประหยัดงบส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่จำนวนมากของหน่

ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำรัฐบาลยุโรปอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อหารือเรื่องยูเครน

หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผลักดันให้มีการเจรจาเรื่องสงครามยูเครน ฝรั่งเศสรับเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอย่างไม่เป็นทางการข

'ทรัมป์'ย้ำ ในแผนฉนวนกาซาชาวปาเลสไตน์จะไม่มีสิทธิหวนคืนถิ่นฐานบ้านเกิด

ในแผนการซึ่งเป็นที่ถกเถียงเกี่ยวกับการยึดครองฉนวนกาซาของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้กำหนดสิทธิในการคืนถิ่นฐาน

ราคาทองคำส่อแววขึ้นต่อเนื่อง ขายออกบาทละ 46,600 บาท

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ (10 ก.พ.) และปิดที่เหนือระดับ 2,900 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรรอบใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมปื ผู้นำสหรัฐฯ อาจส่งผลให้เกิดสงครามการค้าและทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น

'ลุงสุทิน' ลากไส้ UNHCR ทิ้งขี้ให้แพทย์ไทยตามเช็ด นึกไม่ถึง 'ทรัมป์' จะรู้ทันตัดงบช่วยเหลือ

นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถ้าเราเป็นแพทย์อยู่ ร.พ.ชายแดนแลัวถูกสั่งให้ไปดูแลคนป่วยในค่ายผู้ลี้ภัยที่ ICRC กับ UHNCR สร้างภาระ (ขี้) ทิ้งไว้