การโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียครั้งใหญ่ในเคียฟเมื่อวันพฤหัสบดี คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 9 ราย และทำให้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน ถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในเมืองหลวงของยูเครน นับตั้งแต่เริ่มสงคราม 3 ปีก่อน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยูเครนปฏิบัติการในบริเวณที่รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธในกรุงเคียฟ เมื่อวันที่ 24 เมษายน (Photo by Genya SAVILOV / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2568 กล่าวว่า กรุงเคียฟของยูเครนเผชิญการโจมตีทางอากาศอย่างหนักจากกองกำลังรัสเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
กองทัพอากาศยูเครนแถลงว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 70 ลูกและโดรนโจมตี 145 ลำเข้าใส่ยูเครนเมื่อคืนนี้ โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่กรุงเคียฟ
กองทัพฯสามารถตรวจจับและติดตามเป้าหมายทางอากาศของรัสเซียได้ 215 เป้าหมาย ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธร่อน โดย 112 เป้าหมายได้รับการยืนยันว่าถูกยิงตก
แม้ว่ายูเครนถูกโจมตีทางอากาศจากรัสเซียอย่างหนักตลอดช่วงสงคราม แต่การโจมตีนองเลือดในเคียฟซึ่งได้รับการปกป้องด้วยระบบป้องกันทางอากาศที่ดีกว่าเมืองอื่นๆ นั้น เกิดขึ้นน้อยกว่า
การโจมตีดังกล่าวยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยมากขึ้นในความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะกดดันให้รัสเซียและยูเครนลงนามข้อตกลงหยุดยิง อีกทั้งไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพิ่งกล่าวตำหนิประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนที่ไม่ยอมรับการยึดครองคาบสมุทรไครเมียของรัสเซีย เป็นเงื่อนไขหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพ
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเองก็ยังไม่ตอบสนองต่อข้อเสนอของเซเลนสกีที่ขอให้หยุดการโจมตีทางอากาศอย่างสมบูรณ์ต่อเป้าหมายพลเรือน และเมื่อเดือนที่แล้ว เขาก็ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ และยูเครนให้หยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข
"ปูตินแสดงให้เห็นผ่านการกระทำ ไม่ใช่คำพูด ว่าเขาไม่เคารพความพยายามสร้างสันติภาพใดๆ และต้องการเพียงดำเนินสงครามต่อไป" อันเดรย์ ซิบิกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย และยังโจมตีข้อเรียกร้องสูงสุดของรัสเซียที่ต้องการให้ยูเครนถอนตัวจากดินแดนของตนเองเป็นเงื่อนไขหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพ
"ปูตินแสดงความปรารถนาที่จะฆ่าเท่านั้น" อันเดรย์ เยอร์มัค ผู้ช่วยคนสำคัญของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีกล่าวเสริม
นายกรัฐมนตรีเดนิส ชไมฮาล ของยูเครนกล่าวว่ารัสเซียได้สร้างความหวาดกลัวให้กับเมืองต่างๆ ของยูเครนตลอดทั้งคืน
"ทั้งขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกล, โดรน และระเบิดทางอากาศถูกรัสเซียยิงใส่เมืองต่างๆ ของยูเครนอย่างโหดร้ายเพื่อสังหารผู้คน ขณะที่ทั่วโลกกำลังพยายามสร้างสันติภาพ" เขากล่าวในโพสต์บนโซเชียลมีเดีย
มีรายงานเสียงระเบิดดังขึ้นทั่วเมืองหลวงของยูเครนเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นทั่วกรุงเคียฟเพื่อเตือนประชาชนให้มุ่งหน้าไปยังศูนย์พักพิง
ตลอดทั้งคืน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้ประสบภัยที่อาจอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารที่พังทลายและจัดการกับไฟไหม้ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง โดยกระทรวงมหาดไทยยูเครนกล่าวว่าพบความเสียหายใน 13 จุดแยกกันทั่วเมืองหลวง
บริการฉุกเฉินของรัฐระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 รายและบาดเจ็บมากกว่า 60 คน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า มีเด็ก 6 คนอยู่ในกลุ่มเดียวกับผู้คน 42 คนที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
อิกอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนกล่าวว่า พบสัญญาณชีพมาจากใต้ซากปรักหักพังของอาคารหลายแห่ง การค้นหาจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะพบทุกคน พร้อมเสริมว่ายังมีเด็กอีก 2 คนที่สูญหาย
ครั้งสุดท้ายที่กรุงเคียฟถูกขีปนาวุธโจมตีคือเมื่อต้นเดือนเมษายน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน โดยเมืองหลวงตกเป็นเป้าหมายการโจมตีเป็นระยะๆ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานเต็มรูปแบบเมื่อ 3 ปีก่อน
กองกำลังรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศที่รุนแรงหลายครั้งในยูเครนช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งขัดต่อความพยายามของทรัมป์ที่ต้องการยุติการนองเลือดโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 13 เมษายน ขีปนาวุธโจมตีใจกลางเมืองซูมีทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย และการโจมตีเมืองครีวี ริก บ้านเกิดของเซเลนสกี เมื่อต้นเดือนเมษายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย รวมถึงเด็ก 9 ราย หลังจากขีปนาวุธพุ่งเข้าไปในพื้นที่อยู่อาศัยใกล้สนามเด็กเล่น
เมื่อวันพุธ ผู้นำยูเครนเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
"การหยุดยั้งการสังหารคือภารกิจสำคัญที่สุด" เซเลนสกีกล่าวบนโซเชียลมีเดีย ขณะที่ผู้ช่วยระดับสูงของเขาเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ยุโรปและสหรัฐฯ ในลอนดอน
นอกจากกรุงเคียพ รัสเซียยังได้เปิดฉากโจมตีเมืองคาร์คิฟทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อคืนนี้ โดยยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 7 ลูกและโจมตีพื้นที่อยู่อาศัยที่มีประชากรหนาแน่น ตามรายงานของอิกอร์ เทเรคอฟ นายกเทศมนตรี
ขณะที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่าฝั่งของตนได้ยิงโดรนของยูเครนตก 87 ลำเมื่อคืนนี้ รวมถึง 45 ลำเหนือไครเมีย.
