กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศเริ่มถอนกำลังบางส่วนออกจากชายแดนยูเครนกลับฐานทัพแล้ว หลังเสร็จสิ้นการซ้อมรบ แต่ยูเครนยังไม่เชื่อสนิท ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เปิดเครมลินต้อนรับนายกฯ โอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ยืนยันไม่ต้องการสงคราม
เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ว่ารัสเซียประกาศว่าได้เริ่มถอนทหารบางส่วนออกจากชายแดนยูเครนเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ โดยอีกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงเมื่อเช้าวันอังคารว่า แม้การฝึกขนาดใหญ่ทั่วประเทศจะยังดำเนินอยู่ แต่หน่วยทหารจากเขตใต้และตะวันตกที่วางกำลังใกล้ชายแดนยูเครนเสร็จสิ้นการฝึกแล้ว โดยได้เริ่มลำเลียงยานพาหนะขนย้ายทางรถไฟและทางบก และเริ่มเคลื่อนกลับเข้าฐานทัพแล้วในวันนี้
มีวิดีโอที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ แสดงภาพของรถถังและยานหุ้มเกราะอื่นๆ ถูกลำเลียงขึ้นรถไฟบรรทุกสินค้า
ตามคำแถลงของโฆษกกลาโหมโคนาเชนคอฟ รัสเซียยังคงจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่ต่อไปในหลายพื้นที่ รวมถึงการฝึกร่วมกับเบลารุสที่กำหนดถึงวันที่ 20 ก.พ.นี้ และการฝึกทางทะเลในทะเลดำ
หากเจ้าหน้าที่ตะวันตกยืนยันว่ารัสเซียกำลังลดจำนวนทหารลงจริง ก็น่าจะช่วยทุเลาความหวาดกลัวว่าจะเกิดสงครามเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้ สิ่งนี้ยังทำให้มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เหน็บแนมด้วยว่า ข่าวนี้แสดงให้เห็นว่าตะวันตกคือฝ่ายเพิ่มความตึงเครียดด้วยการกล่าวหาว่ารัสเซียมีแผนรุกราน "วันที่ 15 ก.พ. 2565 จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นวันที่การโฆษณาชวนเชื่อสงครามของตะวันตกล้มเหลว อัปยศและถูกทำลาย โดยไม่มีการยิงแม้แต่นัดเดียว"
ด้านรัฐบาลยูเครน โดยดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัสเซียเชื่อเรื่องการลดความรุนแรงลงก็ต่อเมื่อได้เห็นว่ารัสเซียถอนกำลังทหารแล้ว รายงานอินเตอร์แฟ็กซ์ยูเครนอ้างคำกล่าวของเขาว่า ยูเครนยังคงได้ยินถ้อยคำที่แตกต่างกันจากสหพันธรัฐรัสเซีย เราจึงมีกฎว่า เราจะเชื่อแค่สิ่งที่เห็น
ไม่เพียงกำลังพลที่สหรัฐเชื่อว่ามีถึง 130,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน รัสเซียยังส่งทหารอีกหลายหมื่นนายไปซ้อมรบร่วมกับเบลารุสเพื่อนบ้านทางเหนือของยูเครน ซึ่งทำให้ยูเครนแทบจะโดนโอบล้อมด้วยกองทัพรัสเซีย
เมื่อวันจันทร์ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐประกาศว่า สหรัฐได้ปิดสถานทูตประจำกรุงเคียฟ และได้ย้ายเจ้าหน้าที่ทูตไปประจำที่เมืองลวิฟ ไกลออกไป 540 กม. และยังเตือนพลเมืองอเมริกันให้เดินทางออกจากเบลารุส
นายกฯ โอลาฟ ชอลซ์ เดินทางจากกรุงเคียฟที่เขาได้พบกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนในวันจันทร์ มาถึงกรุงมอสโกและได้เข้าพบประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในวันอังคาร ชอลซ์นั่งสนทนากับปูตินจากคนละฝั่งโต๊ะยาวในแบบเดียวกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่มาพบปูตินเมื่อสัปดาห์ก่อน แหล่งข่าวในรัฐบาลเยอรมนีกล่าวว่า สาเหตุเป็นเพราะชอลซ์ปฏิเสธให้รัสเซียทำการตรวจโควิด-19 เช่นเดียวกับมาครง แต่ให้แพทย์ประจำสถานทูตเยอรมนีตรวจแทนเมื่อเขาเดินทางมาถึงมอสโก
เอเอฟพีกล่าวว่า ปูตินกล่าวขณะแถลงข่าวร่วมกับชอลซ์ภายหลังการเจรจาว่า แน่นอนว่า รัสเซียไม่ต้องการสงคราม และนี่คือเหตุผลที่รัสเซียยื่นข้อเสนอสำหรับกระบวนการเจรจาต่อรอง แต่รัสเซียก็ไม่อาจปิดหูปิดตากับสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐและนาโตตีความอย่างเสรีในเรื่องหลักการของความมั่นคงปลอดภัยที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ ที่ว่าไม่ควรมีประเทศใดที่เสริมสร้างความมั่นคงของตนโดยแลกกับการสูญเสียของประเทศอื่น
ด้านชอลซ์กล่าวว่า ความมั่นคงปลอดภัยที่ยั่งยืนในยุโรปไม่อาจเกิดขึ้นได้จากการต่อต้านรัสเซีย แต่จะเป็นไปได้เมื่อทำร่วมกับรัสเซีย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอิ้ก ชาลิสา' เล่าวีรกรรมเฉียดโดนปล้นที่รัสเซีย
เมื่อพิธีกรสาวสุดแซ่บ "แก้มบุ๋ม ปรียาดา" ต้องมาร่วมปรุงเมนูสุดโปรด "ไก่โค๊ะ" ของยูทูปเบอร์ตัวแม่สายฮา ที่นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้ "เอิ้ก ชาลิสา" หรือ "เอิ้ก หิ้วหวี" เจ้าของเพลงดังที่กำลังเป็นไวรัลไปทั่วทั้งประเทศ
'เซเลนสกี' สั่งปลดที่ปรึกษาออกหลายคน
ช่วงที่ผ่านมา ประธานาธิบดียูเครนได้เปลี่ยนที่ปรึกษาหลายครั้ง สื่อคาดว่าจะมีการปรับรัฐบาลเร็วๆ นี้ ในขณะที่ วิตาลี คลิตช์โก
นายกฯ เตรียมรับมือสถานการณ์ ‘รัสเซีย-ยูเครน’ สั่ง ‘บัวแก้ว’ ดูแลคนไทยต้องปลอดภัย
นายกฯ สั่งกระทรวงการต่างประเทศ จับตาสถานการณ์ รัสเซีย-ยูเครน ย้ำดูแลคนไทยให้ปลอดภัย
‘นันทิวัฒน์’ สะกิดรัฐบาล เตรียมรับมือภาวะสงคราม หลังกลิ่นไอสู้รบยูเครนรุนแรง
กลิ่นไอการสู้รบในยูเครนเพิ่มความรุนแรง เมื่อมีข่าวลือว่าชาติพันธมิตรนาโตบางชาติ ได้ส่งทหารเข้าไปร่วมรบในยูเครน ปฏิกิริยาจากฝ่ายรัสเซียประกาศชัดเจน
ปูตินลั่นสางแค้นก่อการร้าย
ชาวรัสเซียร่วมไว้อาลัยให้เหยื่อโศกนาฏกรรมในคอนเสิร์ต ล่าสุดดับแล้ว 143 ราย
โล่ง! ยังไม่พบคนไทยบาดเจ็บ-เสียชีวิต ในเหตุกราดยิงมอสโก
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงเหตุการณ์การก่อการร้ายที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย หลังคนร้ายในชุดพรางทหาร