ส.อ.ท.ใจชื้นยอดผลิตรถยนต์กระเตื้อง งวด ก.ย. โตจากเดือนก่อน 34.47%
21 ต.ค. 2564 – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงยอดผลิตรถยนต์เดือนก.ย.2564 ผลิตได้ 140,038 แม้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.43% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 34.47% อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ยอดผลิตเพื่อส่งออกทำได้ถึง 58.04% ของยอดผลิตทั้งหมด สอดคล้องกับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 73,831 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 23.94% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.47% มูลค่าอยู่ที่ 44,777.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.8%
เนื่องจากโรงงานผลิตรถยนต์ได้รับชิปและชิ้นส่วนรถยนต์จากประเทศคู่ค้าที่ผ่อนคลายการล็อกดาวน์และเริ่มส่งออกได้เพิ่มขึ้น ทำให้การส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด (ยกเว้นตลาดเอเชียและตลาดอเมริกาเหนือที่ลดลง) สามารถชดเชยเดือนส.ค.ที่ส่งออกต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โรงงานผลิตรถยนต์จึงผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 28.56% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 40.16%
ขณะเดียวที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 56,871 คัน แม้จะลดลงจากปีก่อน 19.1% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 34.84% หลังรัฐบาลได้ผ่อนคลายล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ปีนี้เป็นต้นไป ทำให้ประชาชนมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะมีความมั่นใจในรัฐบาลที่จะผ่อนคลายการล็อกดาวน์มากขึ้น เกิดความมั่นใจในเรื่องรายได้ในอนาคตมากขึ้น จึงเข้าโชว์รูมสั่งจองรถยนต์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส.อ.ท.ขอติดตามปัจจัยต่างๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในเดือนต.ค.นี้ อีก 1 เดือน ว่าจะตัดสินใจปรับประมาณยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ทั้งปีเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากมีแนวโน้มที่ยอดการส่งออกรถยนต์ปีนี้ทั้งปีจะทำได้ 900,000 คัน สูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ 850,000 คัน หลังโรงงานผลิตรถยนต์ได้รับชิปและชิ้นส่วนในการผลิตเพิ่มขึ้น และตลาดในประเทศคู่ค้าชะลอตัวติดต่อกัน
นอกจากนี้ สถาบันการเงินเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดในการอนุมัติลง จึงคาดว่ายอดขายในประเทศจะทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปีที่ 750,000 คัน จากงานมหกรรมยานยนต์ที่จะมีขึ้นวันที่ 1 ธ.ค.นี้ และรัฐบาลเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาวันที่ 1 พ.ย.ปีนี้เป็นต้นไป ช่วยให้ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวกว่าล้านคนมีรายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.2564) ยอดผลิตเพื่อส่งออกอยู่ที่ 699,682 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.38% และยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 677,481 คัน เพิ่มขึ้น 29.92% มูลค่าส่งออก 394,653.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.93% ส่วนยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 512,264 คัน เพิ่มขึ้น 13.06% ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 531,931 คัน ลดลง 0.5% ส่งผลให้ภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ 9 เดือนรวมทั้งสิ้น 1,211,946 คัน เพิ่มขึ้น 25.93
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามดูเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่หลายประเทศมียอดขายในประเทศชะลอลง เช่น ประเทศจีนมีปัญหาการขาดแคลนชิปและชิ้นส่วน ยอดขายรถยนต์ลดลงหลายเดือนติดต่อกัน ประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม ยุโรป 4 ประเทศใหญ่ สหราชอาณาจักร ตุรกี เม็กซิโก สหรัฐ บราซิล แต่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยอดขายรถยนต์ในประเทศยังคงเพิ่มขึ้น สะท้อนประเทศคู่ค้ากลับมาผลิตรถยนต์ได้เกือบเป็นปกติแล้ว ทำให้การส่งออกเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนได้เพิ่มขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มพช. แจงปมของบ ส.อ.ท. ทำวิจัย
ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานคณะกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน (มพช.) พร้อมด้วยคุณพรอรัญ สุวรรณพลาย กรรมการและเหรัญญิก มพช.
เอกชนวอนรัฐ ตรึงราคาน้ามัน ชงลดดอกเบี้ย
ส.อ.ท.โอดหนี้ครัวเรือนฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ปรับตัวลดลง ปัจจัยต่างประเทศยังซ้ำ
'อัลฟ่าเซค' จับมือ 'ส.อ.ท.' ทำระบบมาตรฐานความปลอดภัยสารสนเทศของงาน Made in Thailand
อัลฟ่าเซค ร่วมมอบ “ใบรับรองระบบมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO27001:2022” ให้กับ ส.อ.ท. ในฐานะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ MiT และเตรียมรับมือกับ ภูมิทัศน์ไซเบอร์ในปี 2567
ส.อ.ท. เสนอคุมส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก ช่วยเอกชน
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 37 ในเดือนมกราคม 2567 ภายใต้หัวข้อ “ดอกเบี้ยสูง หนี้พุ่ง อุตสาหกรรมไปต่ออย่างไร” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท.
ส.อ.ท. ชงภาครัฐดูแลค่าไฟฟ้าระยะเร่งด่วน วางเป้า 3.60 บาท/หน่วย
ส.อ.ท. เตรียมชงข้อเสนอภาครัฐดูแลค่าไฟฟ้าระยะเร่งด่วนปี 67 วางเป้าหมายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยไม่เกิน 3.60 บาท/หน่วย พร้อมเสนอ 5 แนวทางบริหาร ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว หวังดูแลทั้งระบบ ดึงเป้าหมายค่าไฟเฉลี่ยไม่เกิน 3 บาท/หน่วย เร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เปิดตลาดไฟเสรี